จัดอันดับ โปรแกรม Lifting สุดฮิตที่พลาดไม่ได้ ยกกระชับ ปรับรูปหน้าพร้อมเติมเต็ม ที่ Apex

     

    อยากหยุดเวลาให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัยไปตลอดกาล เชื่อว่าใครๆ ก็อยากมีใบหน้าที่ดูเด็กอยู่เสมอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับปัจจุบันนี้ ที่มีเทคโนโลยียกกระชับใบหน้ามากมายหลายรูปแบบ สามารถแก้ปัญหารูปหน้า ปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมไปถึงฟื้นฟูผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของใบหน้าได้แบบรวดเร็ว

    เครื่องยกกระชับ พลังงานจากตัวเครื่องจะเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าซึ่งต่างจากการทาครีมทั่วๆ ไป เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ถึงโครงสร้างของผิวได้อย่างล้ำลึก

    ด้วยเหตุนี้ Apex Medical Center ที่เป็นศูนย์ความงามครบวงจร ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์แพทย์ของประเทศไทย เพื่อให้การบริการด้านความงามตรงกับความพึงพอใจของลูกค้ามากที่สุด ทาง Apex Medical Center จึงมุ่งพัฒนาด้านการเลือกและคัดสรรเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันเป็นเลิศ ซึ่งวันนี้เรามาจัดอันดับโปรแกรมสุดฮิตที่ลูกค้าใช้บริการมากที่สุดที่ Apex Medical Center เกี่ยวกับการยกกระชับปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลยค่าา~~

     

    อันดับ 1 เติมเต็ม ฟิลเลอร์ Filler 

     

    ฟิลเลอร์ คืออะไร ?

    ฟิลเลอร์ ก็คือ สารเติมเต็มผิวประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “HA” มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) เติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) เต่งตึง ดูสุขภาพดี เรียบเนียนและช่วยลดริ้วรอย และไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกอย่าง ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยงาม และมีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

    ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง ?

    • ช่วยเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
    • ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก
    • ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
    • ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน
    • ช่วยปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

     

    ฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?

    อย่างที่บอกไปว่า ฟิลเลอร์ ที่ปลอดภัยและนิยมใช้มากที่สุด ก็คือ HA เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) สร้างเลียนแบบสารที่มีในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงมาก ฟิลเลอร์ HA จึงเป็นที่นิยมใช้ในคลินิกความงามค่ะ

    เมื่อมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดเป็นฟิลเลอร์ HA แท้ ต่อมาที่ต้องระวังคือเทคนิคการฉีดของแพทย์ค่ะ ต้องเลือกฉีดกับแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีด เทคนิคการใช้เข็มที่ถูกต้อง เพื่อระวังไม่ให้ฉีดเข้าเส้นเลือดจนเกิดภาวะ Hematoma (ภาวะเลือดคั่ง) ได้

     

     

    เช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์

    ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ตามสิทธิ์แล้วสามารถแจ้งคุณหมอ หรือ ทางคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทาง Apex Medical Center ก่อนจะฉีดแต่ละเคส คุณหมอแกะกล่องให้ดูพร้อมกับเช็ค อย. ไปพร้อมกับลูกค้าเลยค่ะ เพื่อความสบายใจในการทำหัตถการทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองง่ายๆ มีวีธีดังนี้ค่ะ

    • ราคา ถ้าราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอมค่ะ
    • ต้องมีฉลากภาษาไทย ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่จะมีฉลากภาษาไทย ซึ่งควบคุมด้วยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ฉะนั้นแล้วเนี่ยฉลากก็ต้องเป็นภาษาไทยค่ะ
    • มาตรฐานความปลอดภัย ฟิลเลอร์ทุกกล่องจะมีมาตรฐานความปลอดภัยของ อย. เป็นฉลากสีขาวติดอยู่ข้างกล่อง
    • ขายบนอินเตอร์เน็ต หรือ ตามโชเชียล บอกเลยว่าอย่าหาไปซื้อมาเองค่ะ เพราะการจะซื้อฟิลเลอร์คุณหมอหรือสถาบันนั้นๆ จะต้องยื่นเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นใบรับรองทางการแพทย์เพื่อระบุตัวตนว่าเป็นคุณหมอจริงๆ รวมไปถึงใบสถานประกอบพยาบาล ดังนั้นเนี่ยเราไม่สามารถสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตได้แน่นอนค่ะ ถ้าหากมีขายตามอินเตอร์เน็ตให้คิดไว้เลยว่าเป็นของปลอม 100% ค่ะ
    • ผู้แอบอ้างเป็นหมอ เช็คให้ชัวร์ว่าคุณหมอที่เราจะไปฉีดด้วยเนี่ย เป็นคุณหมอจริงๆ ไหม เราสามารถเช็คข้อมูลในเว็บไซต์แพทยสภาได้ค่ะ
    • ข้อมูลฉลากบนตัวกล่อง จะต้องมีชื่อบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย บริษัทนำเข้า วันหมดอายุ เลขล็อตสินค้าข้างในกล่องและข้างนอกกล่องต้องตรงกันและข้อมูลทั้งหมดจะต้องชัดเจน และที่สำคัญตัวกล่องจะต้องไม่มีรอยแกะและภายในกล่องจะต้องมีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน

     

    ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนดี? เติมเต็มใบหน้าส่วนไหนดี?

    สาวๆ หลายคนคงกำลังมีความกังวลใจอยู่เล็กๆ ว่า ฉันควรฉีดตรงไหนดีนะ ถ้าฉีดตรงนั้นแล้วจะดีรึป่าว หรือ เอ๊ะ ควรฉีดตรงนี้ดีนะ? ซึ่งหากสาวๆ ตัดสินใจไม่ได้ว่าฉันควรฉีดตรงไหนดี เข้าไปที่คลินิกที่เราต้องการฉีดได้เลย คุณหมอจะเป็นคนดูใบหน้าโดยรวมของเราค่ะว่าควรเติมจุดไหนเพื่อจะเสริมจุดนั้นให้สวยและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งทาง APEX Medical Center ของเรา มีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์

     

    ทำไมที่ Apex Medical Center ถึงเลือกฟิลเลอร์ Juvederm

    • เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีประสบการณ์ด้านการผลิตมากกว่า 36 ปี ด้วยมาตรฐานคุณภาพที่สูงและพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
    • เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง มีจุดเด่นเรื่องของความยืดหยุ่นและโดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวกระชับขึ้น
    • มีส่วนผสมของยาชา ที่ชื่อว่า Lidocaine เพื่อลดความเจ็บและเพิ่มความผ่อนคลายขณะฉีด
    • สาร Hyaluronic Acid เป็นลักษณะเนื้อเจลฟิลเลอร์เรียบเนียน ให้ผลลัพธ์สวยดูเป็นธรรมชาติ
    • เทคโนโลยีเฉพาะทำให้ตัวฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นถูกออกแบบให้สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี

     

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ ที่ Apex Medical Center

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อันดับ 2 โบท็อกซ์ Botox ลดริ้วรอย 

     

    Botox โบท็อกซ์ คืออะไร

    โบท็อกซ์ คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “Botulinum Toxin A” เมื่อฉีดเข้าไปในผิวแล้ว ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว ช่วยลดริ้วรอยหรือในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อก็สามารถฉีดโบท็อกเพื่อให้กรามเล็กลง

     

    ฉีดโบท็อก ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

    โบท็อกสามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่คนส่วนใหญ่ที่นิยมฉีดโบท็อก ก็คือใช้ลดริ้วรอย ลดกราม และปรับหน้าให้เรียวค่ะ

    ช่วยลดริ้วรอย โบท็อกจะฉีดตรงบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า เช่น เส้นที่หน้าผาก ตีนกา รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยบนใบหน้าจะค่อยๆ ลดลง และจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วันค่ะ

    ช่วยปรับรูปหน้า การฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้าจะฉีดโบท็อกตรงแนวขากรรไกร กราม เพื่อปรับให้ใบหน้าเล็กและเรียวขึ้น จะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือนค่ะ

    ช่วยฟื้นฟูผิว การฉีดโบท็อกสามารถช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

    ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น ยังสามารถฉีดโบท็อกบริเวณน่องได้ให้ขาดูเรียวยาวสวยขึ้นได้ และลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลง เห็นสันแกนจมูกได้ชัดเจนขึ้น

    ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวให้เรียบตึงขึ้น รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว ผิวหนังบริเวณคอมือที่เหี่ยวย่น โบท็อกช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูเด็กขึ้นค่ะ

    ใต้วงแขน รักแร้ ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ช่วยระงับกลิ่นกายได้อีกด้วยค่ะ

    รักษาอาการตากระตุก ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วขณะ ช่วยลดอาการตากระตุกได้

     

    ฉีดโบท็อก ที่หน้า ตรงไหนดี?

    อยากจะบอกว่าการฉีดโบท็อกสามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่บริเวณที่คนนิยมฉีดโบท็อก ก็คือ ใบหน้าค่ะ ทั้งฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า สำหรับคนที่สงสัยว่าฉีดโบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ทางเรารวบรวมมาให้แล้วค่ะ

     

     

    ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน ?

    โบท็อกมีหลายยี่ห้อจากหลายประเภท ได้แก่

    โบท็อกอเมริกา (Allergan) เป็นบริษัท Original ของโบท็อก มีงานวิจัยรับรองกว่า 3,500 งานวิจัย และผ่านการพัฒนาเพื่อที่มีฉีดโบท็อกไปแล้วจะมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และเห็นผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ค่ะ โบท็อกอเมริกาตัวยามีการกระจายตัวแคบที่สุด จึงให้ผลการรักษาที่แม่นยำ การฉีดโบท็อกอเมริกาเพื่อให้อยู่ได้นานและผลเป็นธรรมชาติที่สุด ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำด้วยค่ะ

    โบท็อกอังกฤษ (Dysport) จุดเด่นของโบท็อกอังกฤษ คือเมื่อฉีดแล้วตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดลิฟหน้าด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับผิว สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติจะตึงขึ้นประมาณ 50% นอกจากนี้จะนิยมใช้ Dysport ฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่องครับ

    โบท็อกเกาหลี (Nabota/Aeslax) โบท็อกเกาหลีถือเป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยม ทั้ง Nabota และ Aestox เลยค่ะ ส่วนใหญ่โบท็อกเกาหลีจะเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไวเทียบเท่าโบท็อก Allergan(โบท็อกอเมริกา) แต่มีราคาที่ถูกกว่าเท่าตัว ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 2 ตัวนี้ Nanota จะออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์หลังฉีดค่อนข้างเร็ว นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย ส่วน Aestox เป็นโบท็อกเกาหลีอีกหนึ่งตัวที่ผ่าน อย.ไทย เห็นผลไว มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ นิยมฉีดเพื่อลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว

    โบท็อกเยอรมัน (Xeomin) โบท็อกเยอรมันจะเน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน คุณสมบัติมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ผลที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติ

     

    ซึ่งโบท็อกของแต่ละยี่ห้อแต่ละประเภทจะมีระยะเวลาอยู่ได้ไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ ชนิด Protein complex หรือขนาดของ Molecule complex ตัวที่จะส่งผลให้โบท็อกแตกต่างกันมากที่คือ ขนาดของ Molecule complex size เพราะขนาดของโมเลกุลจะมีผลต่อการกระจายตัวยา ถ้าออกแบบให้กระจายตัวแคบ ผลของการฉีดก็จะแม่นยำตรงจุด ถ้าออกแบบให้กระจายตัวกว้างก็เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลรวดเร็วและใช้ฉีดในบริเวณกว้างเช่นน่องค่ะ

     

    ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ?

    ก่อนตัดสินใจ ฉีดโบท็อก เราขอแนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานให้ดีก่อนค่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและลดความเสี่ยงในการเจอโบท็อกปลอม

    เลือกคลินิกฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ควรพิจารณาจากอะไรได้บ้าง ?

    • เลือกคลินิกฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
    • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
      เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น การฉีดโบท็อกปลอมจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อก (ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา)
    • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ เช่น Facebook Pantip

     

    ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ?

    โบท็อกลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์

    โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า เริ่มเห็นผลใน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน

    โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า ลดเหนียง เริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์

     

     

    การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

    • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก รวมไปถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
    • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินถึงปัญหาได้ตรงจุด และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
    • ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย.เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียง
    • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
    • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
    • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

     

    รีวิวฉีดโบท็อกซ์ ที่ Apex Medical Center

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อันดับ 3 Emface ยกกระชับผิวลงลึกกล้ามเนื้อ

    ที่สุดของเทคโนโลยีกระชับผิว Emface

    EMFACE นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของโลก จากบริษัท BTL เป็นการรักษาผิวหน้าที่ผสมผสานเทคโนโลยี (HIFES : Synchronized RF ) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มสูง ทำงานร่วมกับพลังงาน RF  ไปเผาผลาญไขมัน กระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการยกกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับอีลาสตินไปพร้อมๆ กัน ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากอเมริกาและไทย และ Emface ยังเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวกระชับสร้างกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและหน้าผากไม่เจ็บปวดและไม่ต้องผ่าตัด

     

    หลักการทำงานของ Emface

    Emface เป็นครั้งแรกที่ผสาน 2 พลังพร้อมกันในเทคโนโลยีเดียวกัน เพื่อดูแลทั้งผิวหน้าและกล้ามเนื้อ การผสมผสานระหว่าง HIFES และ RF ทำให้กล้ามเนื้อลีบบนใบหน้าและผิวหนังเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน HIFES คือการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าที่เน้นความเข้มข้นสูง และคลื่นความถี่วิทยุ RF

    หลักการทำงานของ Emface คือการสร้างการหดตัวของกล้ามเนื้อใบหน้าผ่านการสลับขั้วของเส้นประสาท ทำให้มีกล้ามเนื้อดีขึ้นและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อไปยังบริเวณที่ทำการรักษาของใบหน้า กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน การยกกระชับผิว และการเพิ่มขึ้นของมวลกล้ามเนื้อและโทนสีของกล้ามเนื้อแก้มและหน้าผากที่เฉพาะเจาะจง

     

     

    ขณะทำ Emface จะให้ความรู้สึกผิวอุ่นขึ้น 40 – 42 องศาเซลเซียสในระหว่างการรักษา ทำให้เนื้อเยื่ออุ่น แต่ไม่ถึงกับร้อน เป็นอุณหภูมิที่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในผิวหนัง แต่ไม่กระทบต่อไขมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นการวอร์มกล้ามเนื้อก่อนเพื่อให้ได้รับการหดตัวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

     

    การสร้างกล้ามเนื้อที่แก้มช่วยฟื้นฟูใบหน้าได้อย่างไร?

    การเพิ่มกล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อแก้มที่สำคัญ 3 มัดจะช่วยสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างส่วนลึกและรองรับของใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อจะเล็กลง ยาวขึ้น ทำให้บริเวณที่เป็นส่วนกล้ามเนื้อเหี่ยวลง เนื่องจากกล้ามเนื้อเหล่านี้อยู่ลึกถึงชั้นผิวหนังและไขมัน กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่แก่ตัวลงจึงช่วยพยุงเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านล่างได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดสัญญาณบ่งบอกความร่วงโรยบนใบหน้า การเพิ่มกล้ามเนื้อให้กับกล้ามเนื้อแก้มของเราอาจช่วยให้ใบหน้าของเรายกกระชับขึ้น รวมถึงการปรับปรุงขากรรไกร การยกแก้ม และการปรับปรุงความคมชัดของกราม

     

    Emface ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

    การทำงานของ HIFES บริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ Zygomaticus major, Zygomaticus minor, และ Risorius ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยในการยกผิวขึ้น อย่างบริเวณร่องแก้มที่เหี่ยวลงจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นดูยกขึ้น ในส่วนกล้ามเนื้อหน้าผาก Frontalis ที่ช่วยดึงและยกหน้าผากขึ้น ทำให้หน้าเกิดการยกกระชับ โดยเป็นการยกกระชับในชั้นที่ลึกกว่าชั้น SMAS เพราะเป็นชั้นของกล้ามเนื้อส่วนใบหน้า นอกจากนี้การทำงานของ RF ช่วยให้เกิดการสร้างของคอลลาเจนกับอีลาสตินเพิ่มขึ้น ลดริ้วรอยทำให้น่าดูเด็กขึ้นดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

     

     

    • ยกกระชับผิวหนัง ด้วยพลังงานคลื่นวิทยุ RF และ HIFESTM ควบคู่กันในเทคโนโลยีเดียว
    • ช่วยการสร้างอีลาสตินและ คอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนังให้ผิวแข็งแรงถึงขีดสุด
    • กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า ให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
    • ปรับผิวให้เรียบเนียนโดยให้ความร้อนอุ่นๆ แก่ผิว ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ
    • เหนือระดับกว่าด้วยการลดไขมันและช่วยสลายไขมัน

     

     

    ทำ Emface แล้วคุ้มไหม?

    Emface มีประโยชน์มากมาย โดยสร้างการยกกระชับผิว ฟื้นฟูคอลลาเจนให้ผิวอิ่มฟูดูแน่นขึ้น และช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า Dr.Yael Halaas แพทย์ผู้เชี่ยญชาญ Facial Plastic Surgery แห่ง New York City “ประโยชน์ของ Emface นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเพื่อให้ผิวโดยรวมสดชื่น กระชับขึ้น และเรียบเนียนขึ้น” Dr. Halaas ยังกล่าวอีกว่า Emface สามารถยกคิ้วและทำให้โหนกแก้มดูโดดเด่นขึ้น

     

    ผลลัพธ์การทดลองของผู้ใช้ Emface 

    บริษัท BTL ผู้ผลิต Emface ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยี HIFES และ RF เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อกล้ามเนื้อใบหน้าและผิวหนัง ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อ โดยการถ่ายภาพจากอัลตราซาวน์ และการศึกษาค่า MRI (Magnetic Resonance Imaging) ติดตามการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพผิวหนัง เปรียบเทียบภาพถ่ายก่อนและหลังการรักษา และรวบรวมความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อกระบวนการ

    โดยผลลัพธ์ของผู้ทดลองใช้ Emface พบว่า

    • ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง 37% ในบริเวณที่ทำการรักษา
    • เพิ่มกล้ามเนื้อ 30%
    • ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 19%
    • ยกกระชับใบหน้าดีขึ้น 23%
    • คอลลาเจนเพิ่มขึ้น 26%
    • การผลิตอีลาสตินเพิ่มขึ้นสองเท่า

     

     

     

     

    ผลลัพธ์หลังทำ Emface ที่ Apex Medical Center

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อันดับ 4 ยกกระชับผิวด้วย Ulthera SPT

     

    Ulthera SPT เทคนิคการทำอัลเทอร่าแบบ Hyper Personal Lift เพื่อการแก้ไขปรับรูปหน้าเฉพาะรายบุคคล เนื่องจากปัญหาของคนไข้แต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งเกิดได้จากปัจจัยหลาย อย่างเช่น อายุ น้ำหนัก เพศ ความลึกของชั้นผิว ดังนั้นการรักษาจึงต้องออกแบบให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล (Customized) นอกจากนั้นเทคนิคของ SPT ยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะในระหว่างทำหัตถการ แพทย์สามารถมองเห็นภาพของชั้นผิวแบบ Real time จึงวางแผนการรักษาได้ง่ายและมีความแม่นยำในการใช้เครื่องมือ ยิงพลังงานได้ตรงจุด ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างทำลงได้อีกด้วย

     

     

    Ulthera SPTดียังไง ?

    ออกแบบเฉพาะบุคคล เพราะผิวของแต่ละคนต่างกัน ด้วยโปรแกรมยกกระชับใบหน้าที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาแต่ละขั้นผิวได้ตรงจุด แม่นยำ 

    ลงลึก แม่นยำ  เจ็บน้อย ด้วยเทคโนโลยี MFU-V ทำให้มองเห็นได้ถึงผิวชั้นลึก ก่อนยกกระชับใบหน้า ทำให้แพทย์วางแผนยิงพลังงานได้แม่นยำ เจ็บน้อย 

    ยกกระชับผิว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ ที่โฟกัสลงลึกถึงชั้นผิว เป็นเส้นตรงเรียงกัน ช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังสามารถกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมทำไม่ได้ จึงช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ 

    หน้าจอแสดงผลแบบ Real time มีหน้าจอแสดงระดับความลึกของชั้นผิว และจุดที่โฟกัสแบบ Real time ทำให้แพทย์สามารถปรับระดับพลังงานได้เหมาะสม  มีความปลอดภัยสูง คุณแม่ให้นมบุตรสามารถทำได้ 

    เห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที  30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น ผิวยกกระชับขึ้นใน 1-2 เดือน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 1 ปี 

     

    Ulthera SPT ทำจุดไหนได้บ้าง?

     

     

     

    • ผิวหน้า แก้ม ช่วยยกกระชับผิวหน้า ยกแก้มที่หย่อนคล้อย 
    • กรอบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัด 
    • ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ช่วยลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก  
    • คาง ลำคอ ช่วยลดเหนียง เก็บคางสองชั้น กระชับผิวบริเวณลำคอ
    • รอบดวงตา ใต้ตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ลดถุงใต้ตา
    • คิ้ว หางตา ช่วยยกคิ้ว ยกหางตา หนังตาตก

     

    เทคนิค SPT ต่างจากแบบเก่ายังไง

    สิ่งที่แตกต่างกันคือ เมื่อก่อนการทำอัลเทอร่าจะเป็นการยิงพลังงานลงสู่ชั้นผิวของคนไข้แต่ละคนในลักษณะเดียวกัน โดยไม่ได้ประเมินถึงความแตกต่างของแต่บุคคล และคนไข้มักโฟกัสไปที่การยิงจำนวนช็อตเยอะๆ เพื่อให้รู้สึกว่าคุ้มค่าและครอบคลุมทั่วใบหน้า แต่สำหรับเทคนิค SPT นั้นจะเป็นการทำแบบ Customize ซี่งจะเป็นการดีไซน์ หรือมีการออกแบบวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่ละคน โดยความถี่ในการยิงแต่ละชั้นผิวจำนวนช็อตจะไม่เหมือนกัน ก่อนการทำอัลเทอร่าแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการทำ ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาแบบใหม่ที่ให้มีความเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำ Ulthera SPT ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

     

     

    S : See แพทย์จะสามารถมองเห็นหน้าจอแสดงชั้นผิวของคนไข้ได้แบบ Real time ซึ่งในส่วนนี้เองที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของการทำอัลเทอร่า เพราะเมื่อแพทย์มองเห็นชั้นผิวขณะทำ ช่วยให้รักษาได้อย่างตรงจุด มีความแม่นยำมากขึ้น

    P : Plan ชั้นผิวของคนไข้มีความแตกต่างกัน การที่สามารถมองเห็นชั้นผิวได้แบบ Real time จึงสามารถช่วยให้แพทย์วางแผนออกแบบการรักษาได้ง่าย ส่งผลให้ผลลัพธ์ในการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    T : Treat คนไข้ได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตามที่แพทย์ได้ออกแบบและวางแผนการรักษาไว้แบบ Case by Case ทำให้รู้สึกสบายขึ้นในระหว่างที่ทำการรักษาได้อีกด้วย

     

    การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera SPT

    การทำ Ulthera SPT เป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมากค่ะ 

    •  คนไข้มาปรึกษาแพทย์ แจ้งข้อกังวลต่าง ๆ ที่อยากแก้ไข  
    • แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับ โรคประจำตัว 
    • แจ้งประวัติการผ่าตัด หรือเคยมีการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า

    เมื่อแพทย์ประเมินใบหน้าและปัญหาผิวแล้วจะวิเคราะห์ได้ว่าใครบ้างจะเหมาะกับการทำ Ulthera  SPT หรือไม่ จากนั้นแพทย์ จะวางแผนการปรับรูปหน้า แจ้งจำนวน Line ในการยิงที่เหมาะสมครับ 

     

    ขั้นตอนการทำ Ulthera SPT

    ขั้นแรกแพทย์จะประเมินปัญหาและวางแผนการปรับรูปหน้า ตามสภาพผิวของแต่ละคนแล้ว จะออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยี Micro Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ยิงพลังงานคลื่นเสียงลงชั้นผิวในระดับความลึกที่แตกต่างกัน โดยแพทย์สามารถมองเห็นได้ทุกชั้นผิว และจัดการกับปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด เมื่อแพทย์ประเมินปัญหาผิวเสร็จสรรพก็จะแจ้งจำนวน Line ในการยิงที่เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาผิวค่ะ 

    หลังจากนั้นจะให้คนที่เข้ารับบริการ เตรียมผิวการทำ Ulthera โดยการทำความสะอาดผิวหน้า แล้วแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที หลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่อง Ulthera SPT ยิงกระตุ้น เพื่อยกกระชับผิวบริเวณที่มีปัญหา เครื่อง Ulthera จะมีหน้าจอที่สามารถดูได้แบบ Real time สามารถมองเห็นพลังงานที่โฟกัสลงลึก ตรงจุด ทุกชั้นผิว ใช้ระยะเวลาในการทำ ประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวน Line และผิวบริเวณที่ทำ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังทำ ประมาณ 30% ผิวหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง   

     

    ทำ Ulthera SPT ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ใช้เวลานานไหม?

    • หลังทำ Ulthera SPT คนไข้สามารถสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการยกกระชับได้ทันทีหลังทำประมาณ 30% ในครั้งแรก และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ใน 1-2 เดือน และเมื่อผ่านไป 2-3 จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ เเละเรียบเนียนมากขึ้น
    • หลังทำ Ulthera SPT จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคล หมอแนะนำให้ทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน สามารถกลับมาทำซ้ำได้เรื่อย ๆ  
    • จำนวน Line ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับปัญหา สภาพผิว และบริเวณที่ต้องการยกกระชับ จำนวนที่ทำแล้วเห็นผล เริ่มต้นที่ 300 Line 
    • ใช้เวลาทำประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความถนัดของแพทย์ ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว และระดับริ้วรอย  

     

    วิธีเช็กเครื่อง Ulthera

     

     

     

    รีวิวทำ Ulthera อัลเทอร่า ที่ Apex Medical Center

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อันดับ 5 Thermage FLX

    รู้หรือไม่คะว่าแค่ Thermage FLX แค่เพียงเครื่องมือเดียว แต่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ถึง 3 ต่อเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการผิวยกกระชับ สภาพผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก รวมถึงยังช่วยลดไขมันได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่อยากแนะนำให้ทำเลยค่ะ ยิ่งคนที่อายุ 30 ผิวจะเริ่มมีความหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ มีไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า แก้ม คาง อยากยกกระชับใบหน้าแต่ไม่ต้องการผ่าตัด Thermage เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยได้ค่ะ สามารถยกกระชับผิว และริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยปราศจากบาดแผล

     

    Thermage FLX คืออะไร?

    Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ชนิดขั้วเดียว (Monopolar) โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานในลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว แต่ไม่ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ผ่าตัดยกกระชับผิว

    อธิบายง่ายๆ คือโครงสร้างผิวของคนเราประกอบชั้นผิวต่างๆ 3 ชั้น ก็คือ

    • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิว
    • ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว
    • ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล

    ซึ่งการทำ Thermage จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีไขมันใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก เช่น มีแก้มเยอะ หรือมีเหนียง หรือมีปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ (Cellulite) หรือผิวเปลือกส้ม เพราะแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวไม่เท่ากับการทำ Ultherapy หรือ HIFU แต่ Thermage สามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวได้ดีกว่ามาก

     

     

    Thermage FLX ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?

    Thermage สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว โดยจำนวนช็อตที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์นะคะ แพทย์จะประเมินจาก บริเวณที่ต้องการทำและสภาพผิว

    • ใบหน้าามารถยกกระชับได้ทั่วหน้าและลำคอ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวใบหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีแก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คางหย่อนคล้อย 
    • รอบดวงตา หรือ Thermage ตา เหมาะกับผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
    • ลำตัว สามารถทำได้ทั้งต้นแขน หลังมือ หน้าท้อง สะโพก หรือบริเวณต้นขาที่หย่อนคล้อย ให้กระชับเรียบเนียนขึ้น

     

    ผลลัพธ์การทำ Thermage FLX กี่วันเห็นผล?

    การทำ Thermage จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำเลยค่ะ โดยผิวจะกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และผิวเรียบเนียนขึ้น หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง และจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายในระยะเวลา 3-6 เดือน

    ผลลัพธ์ของการทำ Thermage นั้น จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี แต่เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ควรมาทำซ้ำปีละ 1 ครั้งหรือทำซ้ำทุกๆ 6 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวดั้งเดิม การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลผิวหลังทำ

     

    Thermage FLX ทำแล้วเจ็บไหม?

    ระดับของความเจ็บของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ทนได้แน่นนอน เพราะก่อนที่ยิงพลังงานลงสู่ผิวคนไข้ จะมีการแปะยาชาไว้ให้ก่อน นอกจากนั้น Thermage FLX ยังมีระบบ Pre and Post Cooling ที่ช่วยให้ความเจ็บน้อยลง ป้องกันผิวผิวไหม้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายระหว่าทำได้อีกด้วย ถ้าใครเคยทำ Thermage รุ่นเก่ามา รับรองค่ะว่าเครื่องใหม่ Thermage FLX สบายกว่าเยอะมาก 

     

    รีวิวทำ Thermage FLX ที่ Apex Medical Center

     

    “สวัสดีครับผม เปรม วรุศ นะครับ ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ Apex Medical Center สาขาเพลินจิตนะครับผม ในวันนี้ผมจะมาทำโปรแกรม Thermage ครับ จริงๆ แล้วตัวผมเองเคยทำมาแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ผมรู้สึกว่ามันเริ่มหายไปแล้ว รู้สึกว่าผิวหน้าเดิมของผมมันเริ่มกลับมาสภาพเดิมแล้วครับ ก็เลยตัดสินใจมาทำ Thermage อีกรอบนึงครับผม จริงๆ แล้วผมมีถ่ายซีรีย์หลายเรื่องมาก ก็เลยเป็นกังวลเรื่องผิวหน้านิดหน่อยครับ 

    ตัวผมเองก็อยากดูแลตัวเองด้วย อายุของผมก็ 24 แล้ว หลายคนสงสัยว่าอายุยังน้อยทำไมถึงมาทำ Thermage เร็วจัง อยากจะบอกว่ายิ่งทำเร็วก็ยิ่งดีครับ ถ้าสมมติเราทำตั้งแต่ตอนนี้เราก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจนมากขึ้นครับ ผิวมันก็จะกระชับไปนานๆ เลยครับ”

     

    ทำไมต้องรอให้ผิวแก่? รีวิวทำ Thermage กระชับผิวหน้า กับ เปรม วรุศ

     

    ผลลัพธ์การทำ Thermage ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

     

    ทำไมต้องรอให้ผิวแก่? รีวิวทำ Thermage กระชับผิวหน้า กับ เปรม วรุศ

     

    “เชฟป้อมเข้ามาปรึษาคุณหมอเอกเพราะกังวลเรื่องผิวหน้าไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด แต่ขอคุณหมอเลยว่าไม่เอาเจ็บ และไม่อยากผ่าตัด คุณหมอเอกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า เลยแนะนำเชฟป้อมให้ทำเทคโนโลยียกกระชับผิวอย่าง Thermage (เทอร์มาจ) และ Ulthera (อัลเทอร่า) เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบนใบหน้า และฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์ได้ไวอีกด้วย”

     

     

    อัปเดต! ผลลัพธ์หลังทำ Thermage – Ulthera แค่ 2 เดือน เชฟป้อม หน้าเด็กลงมาก

     

     

     

     

    การฟื้นฟูและดูแลผิวที่หย่อนคล้อยและมีริ้วรอยที่ Apex Medical Center ดียังไง

    Apex Medical Center เราเป็นศูนย์ความงามครบวงจรเรื่องการยกกระชับและเครื่องมือที่ทันสมัย เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและโครงสร้างผิวที่สามารถวิเคราะห์จุดที่มีปัญหาและต้นเหตุของปัญหาได้อย่างเชี่ยวชาญและตรงจุด รวมถึง Apex Medical Center โดดเด่นเรื่องของนวัตกรรมที่ทันสมัย เราเลือกใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ผู้เข้าใช้บริการทุกท่านต้องพึงพอใจ ตลอดระยะเวลาเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา ที่ Apex Medical Center ใส่ใจเรื่องของคุณภาพ จึงมั่นใจได้เลยว่าเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เรามีเป็นของที่ได้คุณภาพได้รับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา US FDA รวมถึงหัตถการการฟื้นฟูความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ ที่เราได้คัดสรรมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุด เรียกได้ว่ามาที่ Apex Medical Center จบทุกปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยเลยค่ะ 

    และนี้ก็เป็นโปรแกรมสุดฮิตจากทาง Apex Medical Center ค่ะ บอกเลยค่ะว่าแต่ละหัตถการจะถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าและปรับรูปหน้าของลูกค้าโดยเฉพาะ วิเคราะห์ปัญหาเฉพาะจุดของแต่ละบุคคล เพราะเราเป็นอันดับ 1 ในเรื่องของการปรับรูปหน้าที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้าสวยย้อนวัยให้กลับมาอ่อนกว่าวัยได้อีกครั้ง

     

     

    สำหรับท่านใดที่สนใจยกกระชับผิวโดยชั้นกล้ามเนื้อสามารถจองนัดปรึกษาแพทย์ฟรี และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เอเพ็กซ์ทุกสาขาในกรุงเทพ อยุธยา พัทยา ชลบุรี โคราช เชียงใหม่และภูเก็ตได้เลยค่ะ

    📱 085-​0000855

    📱 Line : @apexlifting 

    คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

    APEX ของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน คอยให้บริการทุกท่านอยู่นะคะ