Top3 หัตถการงานผิว ทำแล้วคุ้มค่าที่สุด 2024

 

3 หัตถการแนะนำสู่ผิวสวย

 

สาวๆ หลายคนคงใฝ่ฝันอยากมีผิวหน้าที่อ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอย แต่ด้วยมลภาวะและวัยที่เพิ่มขึ้น ผิวของเราก็เริ่มเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา โชคดีที่ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมาก มีหัตถการมากมายที่ช่วยกู้ผิวของเราให้กลับมาดูดีอีกครั้ง 🤩 แต่ละหัตถการก็มีข้อดีและเหมาะกับคนผิวไม่เหมือนกัน วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 หัตถการยอดฮิตอย่าง Radiesse, Sculptra และ Ulthera SPT ว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร เหมาะกับใคร และทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ไปดูกันเลยค่ะ!

 

รวบ 3 หัตถการงานผิว ทำแล้วคุ้มค่าที่สุด 2024

 

3 หัตถการแนะนำสู่ผิวสวย-2

 

RADIESSE นวัตกรรมใหม่ของวงการฉีดผิว

 

RADIESSE หรือ เรเดียส นวัตกรรมใหม่ที่สุดของงานผิวเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator ย้อนวัยผิว ลดเลือนริ้วรอย กระชับผิวหน้าและลดหลุมสิว ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น เรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น โดย RADIESSE มีความโดดเด่นทางด้านย้อนวัยความแน่นเฟิร์ม และเรียบเนียนของผิว ทำให้ผิวมีวอลลุ่มชุ่มชื้นอยู่ได้นานเพราะเข้าไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในร่างกายตามธรรรมชาติ แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เป็นการใส่ตัวเจล Hyaluronic acid เข้าไป อีกทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวกระชับ แข็งแรง เรียบเนียนและดูเด็กลง

 

5 จุดเด่น ของRadiesse

 

องค์ประกอบของ RADIESSE

RADIESSE™ คือสารเติมเต็มผิวหนังที่ มีสารสำคัญคือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ในรูปแบบไมโครสเฟียร์ (Calcium Hydroxyapatite Microspheres, CaHA) ที่คัดเฉพาะขนาด 25-45 ไมครอน ใน RADIESSE หนึ่งโดสประกอบไปด้วย CaHA ปริมาณ 30% หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อนึงว่า “คาห้า” เป็นสารประกอบด้วยฟอสเฟต (Phosphate Ion) และแคลเซียม (Calcium ) ที่พบได้ในร่างกายโดยธรรมชาติอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะในกระดูกและฟัน และอีกปริมาณ 70% เป็นสารเนื้อเจล Sodium Carboxymethylcellulose ที่ทำหน้าที่นำพา CaHa เข้าสู่ตำแหน่งที่ฉีด

 

โดยสาร CaHA ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มานานกว่า 25 ปี ดังนั้น synthetic CaHA ของ RADIESSE® จึงมีความปลอดภัยสูงสามารถเข้ากับร่างกายได้ดี (Biocompatibility) โดยไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน (Non-immunogecin Properties) และสามารถสลายไปตามธรรมชาติด้วยระบบ Normal Homeostatic Mechanisms ของร่างกายตามปกติได้

 

RADIESSE สามารถใช้เป็นได้ทั้ง ฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้กับรอยพับบนใบหน้า และช่วยพยุงกระชับใบหน้าส่วนบน ลดความหย่อนคล้อยของผิวในใบหน้าส่วนล่าง หรือสามารถใช้เป็น Biostimulator เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มความยืดหยุ่น และเรียบเนียนของผิวได้

 

ผลลัพธ์อยู่อย่างยาวนานถึง 2 ปี Radiesse

 

หลักการทำงานของ RADIESSE 

หลักการทำงานของการฉีด RADIESSE คือการเข้าไปกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติในร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนได้เร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเพิ่มของคอลลาเจนที่มากขึ้นจะช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง กระชับ เรียบเนียนทำให้ใบหน้าดูตึงและมีผิวที่แน่นเฟิร์มขึ้นนั่นเอง

 

กลไกการทำงานของ RADIESSE® คือฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast (เซลล์ต้นตอการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน ) ส่งผลให้กระตุ้นการสร้าง Key components 5 อย่าง ได้แก่ที่มีส่วนสำคัญต่อผิวที่สุขภาพดี

  1. RADIESSE ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I เพิ่มขึ้น 150%
  2. RADIESSE ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type III เพิ่มขึ้น 130%
  3. RADIESSE ช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin เพิ่มขึ้น 260%
  4. RADIESSE ช่วยเพิ่มปริมาณ Proteoglycan สารอาหารสำคัญของผิว
  5. RADIESSE ช่วยกระตุ้น Angiogenesis กระบวนการสร้างหลอดเลือดใหม่

 

หลังจากฉีด Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที จะช่วยยกผิวเกิดความกระชับ ร่องลึกต่างๆ ที่ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และ หลังจากการฉีด  Radiesse ไปแล้ว 3-4 สัปดาห์ CaHA ใน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณภาพผิวบริเวณที่ฉีดดีขึ้น กระชับขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น และวอลุ่มบริเวณนั้นก็จะดีขึ้นเช่นกัน

 

เปิดมิติใหม่แห่งผิวเด็ก Sculptra จบปัญหาผิวเหี่ยว 

 

Sculptra คือ ผลิตภัณฑ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในรูปแบบหนึ่ง โดยมีสาร PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่เป็นสารกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งส่วนประกอบของ Sculptra สังเคราะห์อนุภาคออกมาจากพืช จึงไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย เพราะสารนี้ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ตั้งแต่ปี 1999 และเป็นที่นิยมอย่างมากในทั่วโลกต่อมา 

 

Sculptra is a collagen generator in injection form. Containing PLLA (Poly-L-Lactic acid) stimulates collagen production, replenishes and lifts the face. Live up to 2 years

 

Sculptra มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกายให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่อมีอายุมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการยกกระชับผิวหน้า ฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวภายใน และเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าอีกด้วย 

 

การเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้าสามารถฉีดเข้าไปในตำแหน่งเฉพาะหรือในชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณชั้นผิวที่สามารถทำการฉีด Sculptra ได้หลายตำแหน่ง เช่น กรอบหน้า ขมับ หรือหน้าแก้ม เป็นต้น

 

Sculptra ทำงานอย่างไร?

เมื่อฉีด Sculptra เข้าสู่ผิวหนังชั้นลึก ตัวยาจะเริ่มกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอไปทั่วผิว หลังจากนั้น สาร PLLA จะไปเพิ่มปริมาณเซลล์ fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจน และช่วยสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวภายใน

 

 

นอกจากนี้สาร PLLA จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ไปกระตุ้นขบวนการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน ผ่านการเรียกเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า แมคโครฟาจ มาช่วยในการทำงาน
เมื่อเวลาผ่านไป PLLA จะค่อย ๆ เสื่อมสลายไป แต่การสะสมของคอลลาเจน ยังคงอยู่จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างยาวนาน
โดยขบวนการดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 หลังรับการรักษาและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ผลิตคอลลาเจนของตัวเองอีกครั้ง

 

คุณสมบัติของ Sculptra

●    กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง และเป็นธรรมชาติ โดยเติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ

●    ลดเลือนริ้วรอย ใบหน้ายกกระชับขึ้น ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง
●    ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น เต่งตึงขึ้น
●    ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
●    ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
●    คืนความสมดุลให้ผิวอิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวหยาบกร้าน
●    ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าถึง 2 ปี ทำให้ Sculptra เป็นที่นิยมแพร่หลายในอเมริกา โดยผลลัพธ์สามารถเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก

 

 

Ulthera เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า

 

นวัตกรรมการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ด้วยพลังงานในรูปแบบ Focused Ultrasound โดยส่งผ่านคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีพลังงานความถี่สูง ซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนลงสู่ใต้ชั้นผิวหนังลึกที่เรียกว่า SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวค่อยๆ ตึง ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ

 

โดยเป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ถือว่าเที่ยงตรงและปลอดภัยที่สุด เพราะในระหว่างการรักษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถมองเห็นชั้นผิวของผู้เข้ารับการรักษาได้แบบชั้นต่อชั้น ผ่านหน้าจอแสดงผลของเครื่องอัลเทอร่าโดยตรงดังนั้น แพทย์จึงสามารถปรับจูนคลื่นเสียงให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำโดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผลหรือรอยไหม้บนผิวหนัง

Ulthera or Ultherapy is a non-invasive procedure using high-intensity, focused ultrasound system. Through the ultrasound applicator, sound waves that deliver controlled amounts of energy are emitted, allowing it to hit precise points underneath the skin or SMAS

Ulthera ทำงานอย่างไร?

Ultherapy ใช้เทคโนโลยีการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงที่มีความเฉพาะเจาะจงไปยังผิวหนัง แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนัง มุ่งเป้าหมายไปยังรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน ( SMAS ) ซึ่งเทคโนโลยีอื่น ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ยกเว้นการทำศัลยกรรม อัลเทอร่าจะส่งผ่านความร้อนนี้เป็นจุดเล็กๆ มีระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆ กันประมาณ 1 มม. จึงมีความสม่ำเสมอของพลังงานที่ลงสู่ใต้ผิวและยังสามารถลงลึกได้ถึงตำแหน่งที่ต้องการ โดยแพทย์สามารถมองเห็นสภาพผิวหนังที่กำลังรักษาผ่านหน้าจอเครื่องตลอดเวลา นำมาซึ่งการรักษาที่แม่นยำสูง และได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่า ขบวนการรักษาทั้งหมดนี้จะไปกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผิวค่อยๆ ตึงขึ้นและ เรียบเนียนขึ้นทีละน้อย ดูเป็นธรรมชาติ

 

Ulthera เป็นเทคโนโลยีเดียวในปัจจุบันที่ใช้พลังงานอัลตร้าซาวด์ที่มีความเฉพาะเจาะจง มารักษาริ้วรอยและเพิ่มการยกกระชับของใบหน้า โดยแพทย์สามารถเห็นสภาพผิวหนังทุกชั้นของผู้เข้ารับการรักษาในขณะที่ส่งคลื่นเสียงที่มีพลังงานความร้อนที่มีความแม่นยำสูงลงสู่ชั้นผิวได้ตามต้องการโดยไม่ก่อให้ผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียงจึงทำให้มีความปลอดภัยสูงและได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

 

Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะสำหรับใคร?

อายุที่แนะนำสำหรับการทำ Ulthera อยู่ระหว่างอายุ 35-60 ปี ซึ่งอายุตั้งแต่ 30 ปี จะเป็นช่วงที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งวัยปรากฏให้เห็น อีกทั้งคอลลาเจนเริ่มเสื่อมและร่างกายไม่สร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่แล้ว ส่วนอายุตั้งแต่ 60 ปี เป็นช่วงที่ผิวมีริ้วรอย ร่องลึกและสัญลักษณ์ของความแก่ชราให้เห็นอย่างชัดเจนการทำ Ulthera จะช่วยให้ผิวเนียนเรียบขึ้นริ้วรอยและอายุผิวลดลง ทำให้ใบหน้าเด็กดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งใบหน้าได้รูป ยกกระชับ มีมิติมากขึ้น

 

การเริ่มต้นดูแลตัวเองและผิวพรรณตั้งแต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เมื่ออายุยังน้อยควรหาวิธียืดอายุความอ่อนเยาว์ของผิวให้ได้นานที่สุด ดังนั้นอายุประมาณ 25 ปี สามารถเริ่มทำ Ulthera ได้แล้ว เนื่องจากวัยนี้ผิวเริ่มบางลง และเริ่มจะส่งสัญญาณความเสื่อมสภาพ และความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเริ่มลดลงเรื่อยๆ รวมถึงคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวลดลงประมาณปีละ 1% ซึ่งการทำ Ulthera จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ ยิ่งทำต่อเนื่องเป็นประจำทุก 1-2 ปี ผิวจะอ่อนเยาว์กว่าอายุนานนับ 10 ปีทีเดียว

 

ผลลัพธ์ของอัลเทอร่า (Ulthera)

การทำ อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อยและรูปหน้าที่เปลี่ยนไปตามวัยให้กลับมาเต่งตึงยกกระชับดูอ่อนวัยลงอีกครั้ง ซึ่งการทำอัลเทอร่าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี และถ้าหากทำเป็นประจำต่อเนื่องทุก 1-2 ปี จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลงถึงเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว

 

แล้วนี้ก็เป็นความแตกต่างระหว่าง Sculptra,Radiesse และ Ulthera SPT สามารถเห็นได้ว่าแต่ละวิธีมีความแตกต่างในวิธีการและผลลัพธ์ที่ได้ การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมและความต้องการของแต่ละบุคคล หากผู้ที่สนใจดูแลผิวหรืออยากซ่อมแซมผิวให้ดูเด็กลง ขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลผลิตภัทฑ์และข้อมูลคลินิกให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำหัตถการนั้นๆ แต่หากใครไม่รู้จะทำที่ไหนดี ขอแนะนำที่เราเลยค่ะ Apex Beauty Clinic ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายก่อนการตัดสินใจทำหัตถการ

 

 

✨ รับโปรโมชั่นพิเศษแอด Line : @apexlifting หรือ นัดจองคิวแพทย์ได้ที่เอเพ็กซ์ทุกสาขาได้แล้ววันนี้ ✨✨ 

📞 085-​0000855

🟣 Line OA : @apexlifting  (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)

🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

🟣 Facebook : Apex Profound Beauty

🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox

🟣 IG : apexbeauty

APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ