เคล็ดไม่ลับ กับ 5 วิธี บริหารหน้า ยังไงให้เรียวสวย

บริหารหน้าเคล็ดไม่ลับ กับ 5 วิธี บริหารหน้า ยังไงให้เรียวสวย?

First Impression หรือ ความประทับใจแรกพบ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น มนุษย์มักจะมีความรู้สึกหรือตัดสินบุคคลตรงหน้าที่ได้พบเห็นภายใน 7 วินาที จะรู้สึกดี หรือ ไม่ดี อาจจะตัดสินกันด้วยความรู้สึกแรกพบ เพราะฉะนั้นการเจอกันครั้งแรกย่อมมีผลต่อด่านต่อๆ ไปอย่างแน่นอน

ซึ่งความประทับใจแรกพบของใครหลายคน คงหนีไม่พ้น ใบหน้า ส่วนที่สามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุดเป็นอย่างแรก ดังนั้นเมื่อต้องพบเจอใครเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการนัดเดท การสัมภาษณ์งาน เราต้องเตรียมใบหน้าให้พร้อมรับการพบเจอผู้คนอยู่ตลอดนั่นเอง โดยทำให้ใบหน้าของเราสะอาด น่ามอง แต่งหน้าเติมความสดใสเล็กน้อย และ หน้าเรียวสวยได้รูปก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้เราได้อย่างมาก แต่ถ้าใครที่ไม่ได้รูปหน้าเรียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะว่าเรามีวิธีช่วยให้หน้าเรียวสวยแบบง่ายๆ มาฝาก

กับเคล็ดไม่ลับ วิธีการ บริหารหน้าให้เรียวสวย การบริหารหน้าเป็นวิธีที่ง่ายมาก ไม่เสียเวลา ไม่เจ็บตัว แถมไม่ต้องเสียเงินอีกด้วย สามารถทำได้ทุกที่ตลอดเวลาเลย หากเริ่มสนใจกันแล้ว.. เราลองมาดูวิธีการ บริหารหน้า กันเลยดีกว่า

5 วิธีบริหารหน้ายังไงให้เรียวสวย

วิธีง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้คนที่มีปัญหาหน้าบวม หน้าบาน แก้มห้อย หน้าหย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับ เรียวสวยได้มากขึ้น ใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหารูปหน้าอยู่ แต่ไม่อยากศัลยกรรมให้เจ็บตัว การบริหารใบหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ละท่าบริหารหน้าไม่ยากเลย เราลองมาทำตามกันดูเลย

บริหารหน้าท่าที่1 : Kiss the sky

ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและคอได้ดีมาก ทำให้สันกรามมีความคมชัด เหนียงใต้คางดูลดลง หน้าดูเรียวสวยขึ้น

วิธีทำ

  1. เริ่มจากตั้งหน้าให้ตรง แล้วดูดแก้มทั้งสองข้างเข้าหากัน จนลักษณะเหมือนทำปากจู๋
  2. จากนั้นเงยหน้าขึ้น จนรู้สึกว่าใต้คางเริ่มมีความตึง
  3. ทำค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จากค่อยๆ ก้มหน้าลง จนกลับมาสู่หน้าตรง
  4. ทำซ้ำแบบนี้เรื่อยๆ 10-15 ครั้ง

ท่าที่2 : surprised face

ท่านี้จะช่วยลดแก้มได้เช่นกัน แถมยังช่วยให้ใบหน้ารู้สึกกระชับขึ้นอีกด้วย

วิธีทำ

  1. เริ่มจากตั้งใบหน้าให้ตรง จากนั้นอ้าปากให้กว้างที่สุด ลักษณะเหมือนหน้าตอนตกใจ
  2. อ้าปากค้างไว้ หันหน้าไปทางซ้ายแบบช้าๆ และค่อยๆ หันกลับมาหน้าตรง ทำสลับไปทางขวาเหมือนกับครั้งแรก
  3. ทำซ้ำแบบนี้เรื่อยๆ 5-10 ครั้ง

ท่าที่3 : Bubble

ท่านี้จะช่วยให้แก้มของเราตึง กระชับมากยิ่งขึ้น

วิธีทำ

  1. เริ่มจากตั้งใบหน้าให้ตรง เม้มปาก และ เป่าลมให้แก้มทั้งสองข้างป่อง
  2. จากนั้นค่อยๆ ปล่อยลมออก แล้วเป่าลมใหม่อีกครั้ง
  3. ทำซ้ำแบบนี้เรื่อยๆ 5-10 ครั้ง

ท่าที่4 : Stick out tongue

ท่านี้จะช่วยกระชับกรอบหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยบริหารส่วนกราม ให้หน้าเรียวชัดขึ้น

วิธีทำ

  1. เริ่มจากเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เม้นปากเบาๆ แล้วพยายามดันคางให้ยื่นออกไปให้ได้มากที่สุด
  2. เสร็จแล้วค่อยๆ กลับมาท่าปกติ
  3. ทำซ้ำแบบนี้เรื่อยๆ 10-15 ครั้ง

ท่าที่5 : Smiley face

ท่านี้จะช่วยยกหน้าบริเวณแก้มและคางให้กระชับ ได้รูปมากยิ่งขึ้น

วิธีทำ

1. เริ่มจากหน้าตรง จากนั้นฉีดยิ้มให้กว้างที่สุด (ออกเสียง E ร่วมกันได้)
2. เสร็จแล้วค่อยๆ หุบยิ้มลง และเป่าลมออกจากปาก
3. ทำซ้ำแบบนี้เรื่อยๆ 10-15 ครั้ง

ในช่วงแรกเริ่มของการบริหารใบหน้า อาจจะรู้สึกตึงหรือปวดกล้ามเนื้อบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่องไปสักระยะจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และยังช่วยให้ใบหน้ากระชับได้รูปมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการบริหารใบหน้า

1. ช่วยให้ระบบโลหิตบริเวณใบหน้าหมุนเวียนดีขึ้น

ข้อดีอย่างแรกของการบริหารใบหน้า คือโลหิตบริเวณใบหน้าจะหมุนเวียนดีขึ้น เพราะใบหน้าเป็นส่วนที่เราไม่ค่อยได้ขยับสักเท่าไหร่ เมื่อได้ขยับใบหน้ามากขึ้น ก็เปรียบเหมือนการได้ออกกำลังกายให้ใบหน้า กระตุ้นให้โลหิตสูบฉีดดีขึ้น

2. ช่วยให้ใบหน้าและลำคอมีความตึงกระชับมากขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวหน้าและลำคอย่อมหย่อนคล้อยลงตามกาลเวลา การบริหารใบหน้าจะเปรียบเหมือนเป็นการออกกำลังกายให้กับใบหน้า ช่วยให้กล้ามเนื้อผิวหน้าแข็งแรง ลดไขมันสะสม ผิวหน้าดูยกกระชับขึ้นได้

3. ช่วยผิวหน้าดูเปล่งปลั่งขึ้น

ผลพลอยได้ที่ตามมาอีกอย่างเมื่อเราบริการใบหน้าเป็นประจำก็คือ ผิวหน้าจะดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้น จากการไหลเวียนของระบบโลหิต และ ออกซิเจนที่ดีขึ้น

โดยการบริหารใบหน้า ควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำทุกเช้าหลังตื่นนอนก็ได้ ประมาณ 1 เดือนขึ้นไปก็จะเริ่มเห็นผลว่าผิวหน้าดูสุขภาพดีขึ้น ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ค่อยๆ ตึงกระชับมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้อาจจะต้องใจเย็นสักนิด แต่ถ้าใครที่ใจร้อนหรือต้องการให้ใบหน้าเรียวกระชับในเวลาที่เร่งด่วน เรามีอีกวิธีมาแนะนำกัน

ฉีดโบท็อกหน้าเรียวช่วยคุณได้

วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการช่วยให้หน้าเรียวสวยคงหนีไม่พ้น การฉีดโบท็อกหน้าเรียว กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในการปรับรูปหน้า เพราะการฉีดโบท็อกสามารถช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็กได้ในเวลาไม่นาน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบทันใจ หน้าเรียวแบบไม่ต้องพักฟื้น แถมใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกด้วย หลายคนคงสงสัยว่าโบท็อกคืออะไร แล้วทำไมถึงช่วยให้หน้าเรียวได้แบบรวดเร็ว เรามาดูคำตอบกันดีกว่า..

โบท็อก

โบท็อก คืออะไร?

โบท็อกเป็นชื่อยี่ห้อ ของสาร Botulinum toxin A ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan USA  แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์แรกและเป็นที่รู้จักทั่วโลกทำให้ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เพื่อฉีดลดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นของประเทศไหน หรือยี่ห้ออะไร ก็จะถูกเรียกว่าโบท็อกเสมอ

โบท็อก (BOTOX) หรือ Botulinum toxin A สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ (Clostridium botulinum) ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ถ้าได้รับโบท็อกในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่ถ้าได้รับในปริมาณที่พอเหมาะจะสามารถช่วย ลดริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อ และยังช่วยลดเหงื่อได้อีกด้วย ซึ่งเริ่มแรกเดิมทีโบท็อกได้นำมาใช้เพื่อรักษาโรคตาเหล่ ตาเข ตากระตุก และค่อยๆ ถูกพัฒนามาใช้ในวงการแพทย์ความงามอย่างแพร่หลาย

หลักการทำงานของโบท็อก

เมื่อแพทย์ทำการฉีดโบท็อกเข้าไปแล้ว ตัวยาจะออกฤทธิ์เข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ ซึ่งเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลง ป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ ลดกราม และปรับให้ใบหน้าเรียว สำหรับริ้วรอยตื้นๆ จะเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้ภายใน 2–3 วัน ส่วนริ้วรอยลึกจะเริ่มเห็นผลประมาณ 7–14 วัน ซึ่งเมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปแล้วใบหน้ายังสามารถแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ

โบท็อกฉีดส่วนไหนได้บ้าง?

โบท็อกหน้าผาก                                                              –   โบท็อกระหว่างคิ้ว

โบท็อกหางตา                                                                –   โบท็อกปีกจมูก

 โบท็อกกราม                                                                  –   โบท็อกคอ

โบท็อกรักแร้                                                                  –   โบท็อกน่องขา

โบท็อกฝ่ามือ                                                                  –   โบท็อกฝ่าเท้า

ฉีดโบท็อกหน้าเรียวคือ?

ทำไมการฉีดโบท็อกถึงทำให้หน้าเรียวได้ เป็นเพราะว่าปัญหาหน้าใหญ่หรือหน้าบาน สาเหตุมาจากกรามหรือบริเวณขากรรไกรของเรามีกล้ามเนื้อแน่นแข็งแรงเกินไป และการฉีดโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่เราได้ฉีดสารเข้าไปนั้นทำงานลดลงจึงทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง ซึ่งผลลัพธ์ในการฉีดโบท็อกจะคงอยู่ได้นาน 5-6 เดือน หลังจากนั้นสารจะค่อยๆ สลายไปเอง โดยคนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีกเรื่อยๆ เพื่อคงสภาพต่อเนื่องไว้

ฉีดโบท็อกหน้าเรียว เหมาะกับใคร?

 ผู้ที่ไม่อยากใช้วิธีการผ่าตัด

การฉีดโบท็อกเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว สะดวกและเป็นที่นิยม เห็นผลลัพธ์ทันใจ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และด้วยราคาไม่แพง สามารถฉีดซ้ำได้ อีกทั้งมีความปลอดภัยสูง

ปัญหาหน้าใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ

การฉีดโบท็อกหน้าเรียวจะต้องฉีดในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ ถึงจะสามารถลดขนาดลงได้ ถ้าปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบานเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น กระดูกขากรรไกรใหญ่ ไขมันสะสมกรอบหน้า การฉีดโบท็อกจะไม่ได้ผล ยกตัวอย่าง กรามใหญ่จากล้ามเนื้อ จากการเขี้ยวอาหารที่มีความเหนียว แข็ง หรือ เขี้ยวอาหารเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามทำงานหนัก เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ กรามใหญ่ขึ้น เคสนี้จึงสามารถฉีดโบท็อกหน้าเรียวได้เห็นผล

ฉีดโบท็อกหน้าเรียว อันตรายไหม?

การฉีดโบท็อกหน้าเรียวไม่อันตรายอย่างที่คิด แต่ต้องทำหัตถการนี้ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผลิตภัณ์ที่นำมาฉีดจะต้องได้รับการรับรองจาก อย. เพราะบางคลินิกต้องการลดต้นทุนลง อาจจะใช้โบท็อกที่ไม่ได้คุณภาพ หรือ โบท็อกปลอม ทำให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติจากตัวยาที่ฉีดเข้าไป จึงเกิดอันตรายได้ นอกจากนั้นต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ แพทย์จะสามารถฉีดได้อย่างตรงจุดมีความแม่นยำในการฉีด เพราะโบท็อกเมื่อฉีดเข้าไปก็จะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดนั้นทันที จึงจำเป็นอย่างมากที่ผู้ฉีดต้องมีความรู้เรื่องตำแหน่งและการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าหรือในบริเวณที่ต้องการจะฉีดเป็นอย่างดี จึงจะสามารถฉีดโบท็อกไปยังกล้ามเนื้อที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ เพราะหากฉีดไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น หรือฉีดผิดพลาด อาจทำให้ใบหน้าเบี้ยวได้

โบท็อกหน้าเรียวการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกหน้าเรียว

  • ศึกษาข้อมูล

ก่อนทำหัตถการใดๆ ก็ตามเราต้องศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อน ซึ่งเรื่องที่เราต้องทราบก่อนการฉีดโบท็อกหน้าเรียวก็คือโบท็อกสามารถช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง เหมาะกับคนที่มีลักษณะปัญหาแบบไหนและตรงกับปัญหาที่เราต้องการแก้หรือไม่ การฉีดโบท็อกตอบโจทย์ความต้องการของเราหรือเปล่า เป็นต้น

  • เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ คลินิกที่ได้รับมาตรฐาน

เมื่อเราศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกมาเป็นอย่างดีแล้ว ต่อไปคือเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและได้รับมาตรฐาน มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดโบท็อกให้โดยตรง ซึ่งแพทย์จะสามารถช่วยประเมินใบหน้า และแนะนำโบท็อกที่เหมาะสมกับเคสของเราได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เข้ารับการฉีดโบท็อกนั่นเอง

การดูแลหลังฉีดโบท็อกหน้าเรียว

  • ควรขยับบริเวณที่ฉีด

พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เป็นเวลาประมาณ 30 นาที โดยเฉพาะถ้าฉีดบริเวณกราม ให้เตรียมหมากฝรั่งไว้เคี้ยวหรือกัดฟันไว้ เพื่อเป็นการบริหารกล้ามเนื้อ ให้โบท็อกกระจายตัวออกฤทธิ์ได้ดีมีประสิทธิภาพการทำงานมากยิ่งขึ้นและช่วยให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดรับสารเข้าไปมากขึ้น

  • ห้ามรับประทานอาหารเหล่านี้

อาหารที่ไม่ควรรับประทานหลังจากฉีดโบท็อก คือ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารรสเผ็ดจัด อาหารหมักดองและอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนนานๆ เช่น ชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะ และงดสูบบุหรี่ด้วย สิ่งที่กล่าวไปควรละเว้นประมาณ 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก

  • งดออกกำลังกายหนัก

การออกกำลังกายเบาๆ ยังสามารถทำได้ แต่การออกกำลังแบบหนักหน่วง ควรงดสักประมาณ 2 สัปดาห์หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังควรงดการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ ยิงเลเซอร์ เป็นต้น เพราะความร้อนจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวและคลายตัวได้ง่ายขึ้นเทียบได้กับการนวด ซึ่งอาจจะทำให้โบท็อกที่เพิ่งฉีดเข้าไป ไหลไปยังกล้ามเนื้อในส่วนที่เราไม่ต้องการ ทั้งนี้การทำกับข้าวหน้าเตาร้อนไม่ถือว่าเป็นการเสี่ยง แต่ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง

ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ที่ไหนดี?

เมื่อทำความเข้าใจหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกแล้วว่าคืออะไร การฉีดโบท็อกเหมาะกับการแก้ปัญหาใบหน้าของเราหรือไม่ ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกคลินิกที่ถูกใจ แต่จะต้องคำนึงถึง 3 ข้อนี้เป็นหลักในการตัดสินใจ

  1. สถานที่หรือคลินิกต้องได้รับมาตรฐาน มีความสะอาดและปลอดภัย
  2. โบท็อกที่ใช้ต้องเป็นของแท้ ได้รับอย.
  3. เลือกฉีดกับแพทย์ที่ชำนาญและเชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อก เพราะแพทย์ที่ชำนาญจะรู้ถึงปริมาณของโบท็อกและตำแหน่งที่จะต้องฉีดโบท็อก ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาใบหน้าดูสวยและเป็นธรรมชาติ

นอกจากทั้ง 3 ข้อที่ได้กล่าวมาแล้ว ปัจจัยอื่นๆ อย่างสถานที่ตั้งคลินิกใกล้บ้านได้รับการบอกต่อจากเพื่อนหรือคนที่เคยไปฉีดโบท็อกหน้าเรียวมาก่อน รีวิวจากทางคลินิกก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

Q : ฉีดโบท็อกหน้าเรียวอยู่ได้นานแค่ไหน

A : เป็นการฉีดบริเวณกราม สามารถอยู่ได้นาน 5-6 เดือน จากนั้นโบท็อกจะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง

Q : ฉีดโบท็อกหน้าเรียวแล้วหน้าจะบวมหรือไม่?

A : หลังจากฉีดโบท็อกจะไม่มีอาการบวม หรือ หน้าบวมเกิดขึ้น เพราะปริมาณโบท็อกที่ใช้ฉีดน้อยมากๆ แต่ก็อาจจะเกิดรอยช้ำเล็กๆ ตรงจุดที่ฉีดขึ้นได้ สำหรับคนที่ผิวบอบบาง

Q : โบท็อกลดกราม ช่วยให้หน้าเรียวจริงไหม?

A : หน้าเรียวขึ้นได้จริง แต่ต้องเป็นเคสที่หน้าใหญ่เพราะกล้ามเนื้อไม่ใช่เพราะกระดูกใหญ่ ซึ่งการฉีดโบท็อกลดกราม คุณหมอแนะนำสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เนื่องจากขั้นตอนฉีดไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น

Q : ฉีดโบท็อกหน้าเรียวเจ็บมากไหม?

A : ความรู้สึกเจ็บจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการฉีดโบท็อกนั้นใช้เข็มเล็กมาก ระหว่างทำมีการประคบเย็นร่วมด้วย แถมยังมีการแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อก หลายคนจึงแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลย

Q : ฉีดโบท็อกหน้าเรียวจะแพ้หรือไม่?

A : ถ้าใช้โบท็อกแท้ ได้รับอย. ในการฉีด ขอให้มั่นใจได้เลยว่าไม่มีอาการแพ้แน่นอน เพราะโบท็อกแท้สามารถสลายได้เอง 100% ไม่มีสารตกค้าง ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูง

รีวิวการฉีดโบท็อกหน้าเรียวกับ Apex

คริส – กฤตย์ ส่งสัมพันธ์

คริสทำไมถึงอยากฉีดโบท็อกกราม?

ปกติแล้วนักแสดงอย่างพวกผมต้องดูแลหน้าให้เรียวเล็กอยู่ตลอดเวลา ผมมีความกังวลเกี่ยวกับใบหน้า เวลาออกกล้องแล้วจะรู้สึกว่าหน้าดูบวม ใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด แต่เพราะต้องถ่ายงานตลอดก็จะไม่มีเวลาพักฟื้น การฉีดโบท็อกเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะง่าย รวดเร็ว แถมผลลัพธ์ที่ได้ก็ทันใจและชัดเจนอีกด้วย

ทำไมถึงตัดสินใจฉีดโบท็อกกราม ที่ Apex?

ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ นักแสดงบางคนเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกกราม แล้วก็ได้คำแนะนำมาบ้างครับ เลยตัดสินใจมาฉีดโบท็อกกรามที่ Apex เพราะว่าที่นี่มีคุณหมอที่เป็นถึงอาจารย์แพทย์ และมีตัวยาโบท็อก ที่คุณภาพดีน่าเชื่อถือของ Allergan จากอเมริกา ผมเลยไว้ใจมาฉีดโบท็อกกรามที่ Apex มากครับ

ถามถึงความรู้สึกหลังฉีดโบท็อกกรามกับ Apex เป็นยังไงบ้าง?

คุณหมอมือเบามาก ไม่เจ็บเลยครับ แถมยังรวดเร็วมากอีกด้วย แค่ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอที่เอเพ็กซ์มีเทคนิคการฉีดพิเศษที่ไม่ใช่แค่กรามเล็กลง แต่หน้ายังดูเรียวเล็ก กรอบหน้าชัดขึ้นด้วยนะครับ ผมชอบมากเลย เรื่องฉีดโบท็อกต้องไว้ใจ Apex ครับ

ทำไมต้องเลือกฉีดโบท็อกที่APEX

APEX มีทีมแพทย์ระดับอาจารย์ได้รับรางวัลมากมาย และเป็นเทรนเนอร์สอนฉีดโบท็อกประจำประเทศไทย สามารถถ่ายทอดความรู้ให้แพทย์รุ่นใหม่ได้อีกด้วย นอกจากนั้นทีมแพทย์ยังคิดค้นเทคนิดการฉีดโบท็อกใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอด เพื่อผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องลังเลเลยว่าถ้าต้องการฉีดโบท็อก จะเลือกฉีดที่ไหน หลายคนมั่นใจในเทคนิคฝีมือของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมาตรฐานที่ดีของ APEX เป็นอย่างมาก

โดยเทคนิคของ APEX เรียกว่า การฉีดแบบ Vector Lift ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดให้ใบหน้าดูยกกระชับ กรอบหน้าดูชัดขึ้น ซึ่งเทคนิคการฉีดโบท็อกวิธีนี้ให้ผลดีมาก สามารถเห็นผลได้ภายใน 1 สัปดาห์

ทั้ง 2 วิธี ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ไม่ว่าจะเป็นท่าบริหารใบหน้า หรือ การฉีดโบท็อกหน้าเรียว ทั้งสองวิธีนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบวม และหน้าบานดูไม่กระชับของทุกคนได้ ใครสนใจวิธีไหนลองเลือกทำตามกันดูหรือทำทั้งสองวิธีเลยก็ได้ ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย

โดยการฉีดโบท็อกหน้าเรียว ถ้าใครมีปัญหาหรือไม่แน่ใจว่าตัวเราเหมาะกับการฉีดโบท็อกหรือไม่ หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม ที่ APEX เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำเพื่อให้ทุกคนมีใบหน้าที่เรียวเล็ก สวยมั่นใจ ด้วยการฉีดโบท็อกหน้าเรียว กับ APEX ค่ะ

เรื่องฉีดโบท็อกต้องที่เอเพ็กซ์! สามารถขอคำแนะนำ/ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) หรือที่คลินิคเอเพ็กซ์กว่า 30 สาขาทั่วประเทศไทยนะคะ