3 วิธีลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้อ่อนเพลีย

อ่อนเพลีย

การลดน้ำหนักที่ดีควรลดให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้ให้สุขภาพและร่างกายทรุดโทรม หรือเกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย เพราะอาจจะทำให้การลดน้ำหนักเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ รวมถึงในระยะยาวด้วย แต่จะต้องลดอย่างไร ไม่ให้ร่างกายเกิดการอ่อนเพลีย ใครที่กำลังวางแผนจะมีรูปร่างที่ดี เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากทุกคนกัน

1. ไม่อดอาหาร

ถ้าคิดจะลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร ขอให้หยุดความคิดเอาไว้เลย เพราะการอดอาหารจะทำให้ร่างกายไม่มีแรง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียและร่างกายจะทรุดโทรมลง ไม่เพียงเท่านั้นยังส่งผลต่อการทำงานต่อสมอง ทำให้คิดอะไรไม่ออก หลงลืมและขาดสมาธิได้ ดังนั้นทางที่ดีคือไม่ควรอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้ออย่างเหมาะสม ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะดีที่สุด จะได้ผอมได้แบบสุขภาพไม่พัง

2. รับประทานอาหารให้เหมาะสม

หากใครที่กำลังคิดว่าการลดน้ำหนัก คือการลดปริมาณอาหารลง แล้วรับประทานแต่ผักผลไม้ ขอบอกว่าเป็นเรื่องที่ผิดเหมือนกัน เพราะถ้าหากรับประทานอาหารไม่เหมาะสมจะทำให้รู้สึกเพลียได้ ดังนั้นคุณควรจะหันมาเลือกรับประทานให้มากขึ้น โดยควรลดแป้งและน้ำตาลลง เน้นโปรตีน ผักผลไม้และไขมันดี ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยได้ ถ้าอยากให้ดีไปกว่านั้น ลองย่อยมื้ออาหารจากวันละ 3 มื้อ เป็นวันละ 5–6 มื้อ แม้รับประทานบ่อย แต่รับประทานให้น้อยลงในแต่ละมื้อจะช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหากินจุบจิบตามมาอีกด้วย

3. ออกกำลังกายแต่พอดี

ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหักโหมมากไป นอกจากจะเหนื่อยและยังทำให้อ่อนเพลียอีกด้วย แถมยังเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ ฉะนั้นคุณควรเลือกออกกำลังกายอย่างพอดี ไม่หักโหมจนเกินไป และยังควรเลือกการออกกำลังกายให้เหมาะสม หากมีน้ำหนักตัวมากควรเลี่ยงการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แต่หันมาเดินออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานแทน นอกจากนี้ยังควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเวทเทรนนิ่ง เพื่อที่การออกกำลังกายลดน้ำหนักจะได้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ทำให้ร่างกายพังและอ่อนเพลีย ไม่ยากเลยใช่ไหม แต่ถ้าคิดว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคุณ แต่คุณยังอยากมีรูปร่างที่ดีอยู่ ยังมีตัวช่วยที่สามารถทำให้คุณมีรูปร่างที่ดีได้ แบบสุขภาพไม่พัง ร่างไม่เพลียอย่าง CoolSculpting ที่พร้อมช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น

CoolSculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น

CoolSculpting คือเทคโนโลยีการลดไขมันด้วยความเย็นที่เกิดขึ้นจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Harvard ซึ่งค้นพบจากการสังเกตว่าเด็กที่ดูดไอติมแท่งเป็นประจำ จะมีไขมันบริเวณแก้มลดลง จึงนำมาวิจัยต่อยอดและกลายเป็นเทคนิคการกำจัดไขมันแบบ Cyrolipolysis หรือการกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยความเย็นและได้ถูกพัฒนาต่อมาจนกลายเป็น CoolSculpting ในที่สุด 

ทั้งนี้กระบวนการสลายไขมันด้วยความเย็นของ CoolSculpting จะมีการส่งความเย็นในอุณหภูมิ -11ถึง-13°C ลงไปที่ไขมันใต้ชั้นผิวหนังและใช้เวลาเพียง 35- 45 นาที จากนั้นเซลล์ไขมันที่อยู่บริเวณดังกล่าวจะตายลง โดยไม่ส่งผลอันตรายกับบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งหลังจากนั้นระบบกลไกของร่างกายจะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกมาผ่านระบบขับถ่าย ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน สามารถเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผลและหลังทำสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที โดยไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด ช่วยให้คุณลดสัดส่วนได้อย่างปลอดภัย เรียกคืนความมั่นใจกลับมาด้วยการมีหุ่นที่ดีและกระชับผิว ไม่เหี่ยวย่นเสมือนการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน

ซึ่งที่ APEX เราเป็นผู้นำด้านการทำ CoolSculpting ด้วยจำนวนเคสที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนโดยเทรนเนอร์จาก CoolSculpting อีกทั้งเครื่องที่ใช้ยังเป็นเทคโนโลยีที่เป็นของแท้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าต่อให้หุ่นพังแค่ไหน เราสามารถช่วยดูแลรูปร่างของคุณให้กลับมาดูดีได้แบบไม่ต้องพึ่งพามีดหมออีกต่อไปได้อย่างแน่นอน

ปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/%40apexwomen

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Apex Profound Beauty

  • Bangkok : 066-3310-8000
  • Korat : 0888-7000-43
  • Phuket : 088-000-2100
  • Pattaya: 087-096-1234