ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs ผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ให้นูนสวยแบบไหนดีกว่ากัน?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากปัญหาหน้าผากแบนทำให้หลายคนไม่มั่นในรูปหน้าของตัวเอง เพราะหน้าผากแบนทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และในบางคนอาจทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสั้นได้อีกด้วย อีกทั้งคนที่มีลักษณะหน้าผากแบน ในศาสตร์ความเชื่อของจีน ถือว่าโหงวเฮ้งไม่ดี ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนที่หลายคนรู้จักคือการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก และ ผ่าตัดเสริมหน้าผาก ทั้งสองวิธีสามารถช่วยให้หน้าโค้งนูนสวย ปรับใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้นได้ แต่ว่าทำวิธีไหนจะได้ผลลัพธ์ดีกว่ากัน? เรามาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs ผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ให้นูนสวยแบบไหนดีกว่ากัน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่น ๆ เลยค่ะ เป็นการใช้สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็ม หรือปรับแต่งรูปทรงของหน้าผากให้ตรงกับความต้องการของคนไข้ หรือตรงตามลักษณะโหงวเฮ้งหน้าผาก ถือเป็นการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนที่สะดวกและรวดเร็ว ฉีดเสร็จแล้วหน้าผากสวยขึ้นทันที ไม่ต้องผ่าตัด และ พักฟื้นให้เสียเวลา

โดยการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนให้ดูสมบูรณ์มากขึ้น มีความนูนสวย รับกับรูปหน้า ดูมีมิติ มองจากมุมไหนก็ดูดี เพราะฟิลเลอร์เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยให้ผิวที่ยุบ แบน ดูเต็มและรูปทรงสวยมากขึ้น อีกทั้งฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิว ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยังช่วยให้ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื้น เรียบเนียน และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือนเลยทีเดียว ก่อนที่ฟิลเลอร์จะสลายตัวไปทั้งหมด 100% จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

เสริมหน้าผากผ่าตัดเสริมหน้าผาก

การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาหน้าผากแบนได้อย่างถาวร สามารถเสริมหน้าผากให้มีความโค้งสวย เหมาะกับคนที่มีลักษณะหน้าผากแบนมาก ๆ เนื่องจากซิลิโคนหน้าผากมีให้เลือกหลายขนาด มีทั้งแบบสำเร็จรูป และสั่งทำตามรูปทรงหน้าผากของคนไข้ได้ แต่ทั้งนี้ผิวหน้าของเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เมื่อผิวเริ่มหย่อนคล้อย อาจจะทำให้ซิลิโคนหน้าผากที่ใส่ไม่สมูท และอาจจะไม่เรียบเนียนเหมือนตอนทำแรก ๆ ได้ 

โดยการผ่าตัดเสริมหน้าผาก จะทำการเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคนจากด้านบนของหน้าผาก ซ่อนแผลไว้บริเวณโคนผม แม้ว่าจะสังเกตได้ยาก แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นอย่างมาก แพทย์ต้องสามารถประเมินรูปหน้าของคนไข้ เลือกใช้ซิลิโคนให้เหมาะสม และวางซิลิโคนในชั้นผิวที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงาม ไม่มีปัญหาภายหลัง

ฉีดหน้าผาก vs เสริมหน้าผาก แบบไหนดีกว่ากัน?

ไม่ว่าจะเป็นการฉีดหน้าผาก หรือ การเสริมหน้าผาก แม้ว่าจะเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้หน้าผากโค้งนูนสวยได้มากขึ้น แต่ทั้งสองวิธีก็มีข้อแตกต่างกันหลายอย่าง ตั้งแต่ขั้นตอนการทำ ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ ดังนั้นเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราได้สรุปข้อดีและข้อเสียของการฉีดหน้าผาก vs เสริมหน้าผาก มาให้ทุกคนได้ตัดสินใจกันอีกครั้ง ดังนี้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ดูละมุนมากกว่าการเสริมซิลิโคน
  • หากยังไม่พอใจในรูปทรงหรือผลลัพธ์ที่ได้ สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม เพิ่มเข้าไปได้อีก เพื่อปรับแต่งให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการ หรืออยากเอาออก ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้เช่นกัน
  • เป็นวิธีการแก้ปัญหาหน้าผากแบนที่ง่ายสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที
  • มีความปลอดภัยสูง เพราะสารที่นำมาเติมเต็ม คือ ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่สามารถสลายตัวได้เอง 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • ผิวเรามีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารปรับเปลี่ยนจุดฉีดให้เหมาะสมกับปัญหาในช่วงนั้นๆ ได้

ข้อเสียฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคและประสบการณ์สูงเท่านั้น เพราะบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดรวมอยู่เยอะ เพื่อความปลอดภัย ไม่เกิดความผิดพลาดและอันตราย
  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในแต่ละครั้ง ผลลัพธ์สามารถไม่สามารอยู่ได้ถาวร ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เราเลือกฉีด

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากข้อดีผ่าตัดเสริมหน้าผาก

  • ผลลัพธ์ของการผ่าตัดเสริมหน้าผากสามารถอยู่ได้ถาวร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิค และความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วยเช่นกัน
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน เหมาะกับคนที่มีลักษณะหน้าผากแบนมาก เพราะสามารถเลือกขนาดของซิลิโคน และ ชนิดของซิลิโคนที่ต้องการเสริมได้

ข้อเสียผ่าตัดเสริมหน้าผาก

  • หากไม่พอใจในผลลัพธ์ หรืออยากเพิ่มเติมแก้ไข ต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนใหม่เท่านั้น
  • ซิลิโคนหน้าผากมีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงต้องทำการเปิดแผลกว้าง ทำให้อาจมีรอยแผลเป็นบริเวณโคนผมได้
  • เป็นวิธีการผ่าตัด ดังนั้นจึงต้องมีการพักฟื้น ซึ่งต้องดูแลรักษาแผลหลังทำการผ่าตัดให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้แผลอักเสบ หรือ ติดเชื้อได้
  • ถ้าแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอในการใส่ซิลิโคนหน้าผาก อาจจะทำให้ผลลัพธ์ของหน้าผากดูลอย ลอกตา ไม่เป็นธรรมชาติได้
  • ซิลิโคนไม่สามารถเปลี่ยนไปตามรูปหน้าที่เปลี่ยนไปได้ ความหย่อนคล้อยของใบหน้าอาจจะทำให้เห็นแผ่นซิลิโคนชัดเจนและไม่สมูทไปกับผิวเหมือนตอนทำแรก ๆ

สำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน อยากให้หน้าผากโค้งนูนสวยขึ้น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือ ผ่าตัดเสริมหน้าผาก สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งจะเลือกทำวิธีไหน สามารถตัดสินได้จากข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีได้เลยนะคะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ทุกคนได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย คือความเชี่ยวชาญ ประกอบกับเทคนิคของแพทย์ ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำฉีดหรือเสริมหน้าผากกับที่ใด ต้องเลือกทำกับคลินิกที่ความน่าเชื่อถือเท่านั้น

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) เอเพ็กซ์ของเรายินดีให้บริการด้วยมาตรฐานสากล พร้อมการเลือกใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ เครื่องมือต่างๆ ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจถึงเรื่องผลลัพธ์และความเป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการได้