10 ท่าโยคะ ลดพุง กระชับหน้าท้อง

สถานการณ์โควิด (COVID 19) แบบนี้ หากจะให้ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสหรือวิ่งที่สวนสาธารณะ ก็อาจทำให้หลาย ๆ คนกังวลว่าจะติดเชื้อได้ แต่ถ้าไม่ออกกำลังกายเลยจากหุ่นที่เคยเพรียวก็อาจจะกลายเป็นหุ่นอ้วนกลม พุงยื่น พุงย้อย ได้ ดังนั้น ทางเลือกการออกกำลังกายสำหรับคนที่ต้องอยู่บ้านแบบนี้ คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการทำ “โยคะ” ที่สามารถลดพุง กระชับหน้าท้องได้อีกด้วย ว่าแต่จะมีท่าอะไรบ้างไปดูกันเลย

โยคะ (Yoga) เดิมเป็นการทำเพื่อบริหารจิตใจ ฝึกสมาธิ ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดียและถูกเผยเแพร่อย่างกว้างขวาง จนประเทศตะวันตกได้นำโยคะมาเป็นการออกกำลังกาย โดยดัดแปลงจาก Hatha-Yoga ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของโยคะ โดยจะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง ซึ่งการออกกำลังกายประเภทโยคะ 30 นาที เราจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 250 กิโลแคลอรี

 

ท่าที่ 1 

ท่านี้มีลักษณะเหมือนกับทรงสามเหลี่ยม หรือตัว V คว่ำ ด้วยการการคลานเข่า แยกขาออกเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายอยู่ในท่าที่สมดุล โดยให้เข่าเท่ากับสะโพก วางแขนให้กว้างเท่าไหล่ จากนั้นใช้มือดันพื้น ยกเข่าขึ้นจนขาเหยียดตรง ทำค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก แล้วกลับสู่ท่าคลาน ทำซ้ำ 5 ครั้ง

 

ท่าที่ 2 

ท่านี้มีลักษณะคล้ายกับตัว V ด้วยการนั่งพนมมือไว้บริเวณหน้าอก แล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้น เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อให้ท่านั่งสมดุล และคงตัวได้นาน ซึ่งท่านี้ทำให้เกร็งหน้าท้อง ช่วยให้หน้าท้องกระชับได้ 

 

ท่าที่ 3 

เริ่มจากการนอนคว่ำลำตัวนอนราบไปกับพื้น ขาเหยียดตรง แล้วใช้ฝ่ามือดันลำตัวขึ้นมา แขนเหยียดตรง  พยายามดัดตัวไปข้างหลังให้มากที่สุด แต่ส่วนของขานั้นให้นอนราบไว้ที่เดิม จากนั้นค้างไว้ 15-20 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้นจะช่วยเผาผลาญไขมันช่วงหน้าท้อง ก้น ต้นแขน ต้นขา ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องส่วนบน  

 

ท่าที่ 4

ท่านี้คล้าย ๆ กับการวิดพื้นออกกำลังกาย เริ่มจาการนอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้นแล้วใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างยันพื้นไว้ วางมือใต้ไหล่ แขนขาเหยียดตรง ยืนบนนิ้วเท้าทั้งห้า อยู่ในท่านี้ 15-30 วินาที หรือนานกว่าเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นทำซ้ำในท่านี้อย่างน้อย 5 รอบ 

 

ท่าที่ 5

เริ่มจากนอนคว่ำ ยกลำตัวด้านบน ศีรษะ และขาขึ้นจากพื้น โดยให้มือซ้ายจับเท้าซ้าย มือขวาจับเท้าขวาไว้ ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที แล้วคลายท่ากลับสู่จุดเริ่มต้น เท่านี้จะช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง หลังส่วนล่าง แขน และขาของเราได้เป็นอย่างดี ยิ่งกับคนที่วันๆ นั่งติดเก้าอี้ ไม่ค่อยได้ลุกไปไหน ได้เวลามาผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อร่างกายด้วยท่านี้กันแล้ว

 

ท่าที่ 6

เริ่มจากการทำท่าชันเข่ากับพื้น ตั้งหลังตรง แล้วเอนลำตัวไปด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับส้นเท้าไว้ จากนั้นค่อย ๆ ดันหลังกลับสู่ท่าเริ่ม

 

ท่าที่ 7 

ยืนตรงแล้วก้มตัวลงมาข้างหน้ามากที่สุดจนหน้าอกสัมผัสต้นขา พยายามใช้ฝ่ามือทั้งสองสัมผัสกับพื้นโดยไม่ต้องงอเข่า ทำค้างไว้ 60 วินาที ถึง 90 วินาที หายใจออก จากนั้นแยกเท้าของคุณและยกลำตัวขึ้นมาเพื่อกลับไปยังท่าเดิม ทำซ้ำแบบนี้ 10 รอบ โดยผ่อนคลายเป็นเวลา 10 วินาทีหลังก่อนจะเริ่มรอบถัดไป

 

ท่าที่ 8

ยืนตรง พนมมือไว้ที่อกหรือวางมือไว้ที่เอว ยกแขนทั้งสองเขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นย่อเข่าลง ลำตัวโน้มไปด้านหน้าเล็กน้อย แยกเท้าประมาณ 3-4 ช่วงไหล่  สลับข้างแล้วทำซ้ำอีกข้างเช่นเดียวกัน

 

ท่าที่ 9

นั่งหลังตรงในท่านั่งขัดสมาธิ ยกขาขวาตั้งเข่าขึ้น พร้อมบิดลำตัวไปด้านขวา แขนขวายันพื้นไว้ที่ด้านหลัง แขนซ้ายเหยียดตรงพาดไปบนเข่าขวา ค้างท่าไว้ 30 วินาที แล้วสลับข้างกันไปมา ท่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยเรื่องการลดหน้าท้องได้นั่นเอง

 

ท่าที่ 10 

 

นั่งหลังตรงแล้วยืดขาออกไปข้างหน้า จากนั้นก้มโค้งไปข้างหน้า สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกโยคะสามารถใช้มือแตะที่ข้อเท้าหรือต้นขาเพียงอย่างเดียวก่อนได้ จากนั้นค้างในท่านี้ไว้ประมาณ 60-90 วินาที สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกโยคะทำซ้ำในท่านี้ 10 รอบ และเพิ่มเป็น 25 ครั้งหรือมากกว่านี้

 

 

Emsculpt ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย 

 

ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค บอกลาพุงพร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน 

 

ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่

Emsculpt  ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

 

*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%

 

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง EmSculpt จากประเทศอังกฤษด้วยเทคโนโลยี HIFEM นวัตกรรมแรกและนวัตกรรมเดียวที่มีงานวิจัยมากที่สุดถึง 20 งานวิจัยว่ารองรับ Build Muscle & Claim Fat

 

ปรึกษาได้ที่นี่

095-102-8585

LINE: https://line.me/ti/p/%40APEXslim

FB INBOX: http://m.me/apexslim

FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim