อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่า การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงระบบเผาผลาญที่ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงและไม่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งหลักการนอนพักผ่อนให้เพียงพอควรจะนอน 7-8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนเกิน 4 ทุ่ม แต่หลาย ๆ คนทำได้เพียงการนอนครบให้ครบ 8 ชั่วโมง หรือนอนเร็วก่อน 4 ทุ่ม แต่ไม่ครบ 8 ชั่วโมงจะทำให้การนอนมีประสิทธิภาพหรือไม่
การนอนหลับพักผ่อนจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร
- ฮอร์โมนความหิวลดลง
จากการทดลอง 1,000 คน พบว่า กลุ่มคนที่นอนน้อย “ระดับฮอร์โมนเลปติน” ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มลดลง 15.5% “ระดับฮอร์โมนเกรลิน” ที่กระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกหิว สูงขึ้น 14.9% กว่าอีกกลุ่มที่นอนหลับเพียงพอ เมื่อระดับฮอร์โมนเกรลินสูงขึ้น จะทำให้รู้สึกหิว อยากอาหาร กินจุบจิบ โดยไม่รู้ตัว โดยการทดลองกับคนนอน 4 ชั่วโมง จะทำให้กินอาหารที่มีแคลอรี่สูงขึ้น 22% และกินอาหารที่มีไขมันสูงเพิ่มเป็น 2 เท่า ซึ่งนำไปสู่ความอ้วนในที่สุด
- ระบบเผาผลาญทำงานปกติ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอจะทำโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ระบบเผาผลาญทำงานปกติช่วยในการเผาผลาญไขมัน หากร่างกายขาดโกรทฮอร์โมน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งอินซูลินมากขึ้น ทำให้สะสมไขมันมากขึ้น รวมทั้งระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานช้าลงนั่นเอง
นอนครบ 8 ชั่วโมง แต่นอนดึก จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ไหม?
คำตอบ การนอนครบ 8 ชั่วโมง แต่นอนดึก หรือนอนเร็วก่อน 4 ทุ่ม แต่ไม่ครบ 8 ชั่วโมง อาจจะทำให้ประสิทธิภาพของการนอนลดลง นอกจากนี้ ยังส่งผลทำให้อ้วนขึ้นได้อีกด้วย เนื่องจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ร่างกายสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์
สาเหตุที่เราควรนอนในช่วงเวลา 4 ทุ่ม-6 โมงเช้า เนื่องจาก ร่างกายจะสัมพันธ์กับพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก นั่นหมายความว่าร่างกายและสมองจะพักผ่อนได้เต็มที่ ทำให้ร่างกายเกิดการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญออกมา
- วงจรการนอนหลับ
การนอนหลับที่ได้ประสิทธิภาพจะต้อง มีวงจรการหลับครบ 3 ระยะ คือ หลับตื้น หลับฝัน และที่สำคัญ
หลับลึก ที่ร่างกายจะหลับสนิทที่สุด ใช้เวลา 30–60 นาที ทำให้ Growth Hormone ที่ช่วยทำให้การเผาผลาญทำงานปกติจะหลั่งในระยะนี้ โดยการหลับลึกนั้นจะต้องอาศัยระยะเวลาในการนอนหลับพักผ่อนพอสมควร นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราควรจะนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง ซึ่งในบางคนได้นอนหลับเพียง 4–5 ชั่วโมง แต่เข้าใจว่าการนอนตัวเองเป็นการหลับลึก ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่งัวเงีย นั่นอาจะไม่ใช่การหลับลึกแต่เป็นการหลับตื้นก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น ระยะเวลาการนอน กับช่วงเวลาในการนอน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องทำร่วมกัน เพื่อประสิทธิภาพในการนอน และเป็นตัวช่วยเผาผลาญไขมัน นั่นเอง
COOL WAVE กำจัดไขมันด้วยความเย็น พร้อมกระชับผิว
COOL WAVE เป็นการผสาน 2 เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็นล่าสุดจากเยอรมัน ZLIPO และ Z-wave เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจนมากขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดไขมันด้วยความเย็น Cool อื่น ๆ โดยใช้พลังงานเทคโนโลยีในการกำจัดไขมันใต้ผิวหนังด้วยพลังงานคลื่นกระแทก (Shock waves) ไม่มีการบาดเจ็บใด ๆ ใช้เวลาทำ 60 นาที/ครั้ง มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำเหลือง กระตุ้นการเผาผลาญและสลายไขมันใด้รวดเร็ว กระชับผิวเหี่ยวย้วยหลังคลอด เพิ่มการไหลเวียน กำจัดเซลลูไลท์ ให้ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่ง
การทำงาน
- กำจัดไขมันด้วยความเย็น -11 °C แช่แข็งเซลล์ไขมันให้ตายลง จากนั้นร่างกายจะขับเซลล์ที่ตายแล้วออกตามธรรมชาติ สามารถทำได้ 2 บริเวณ พร้อมกัน ๆ (Duo Fat Freezing)
- กำจัดไขมันใต้ผิวหนัง และเซลลูไลท์ เพิ่มการไหลเวียน ด้วยพลังงาน Shock waves ทำให้กำจัดไขมันได้มากขึ้นเร็วขึ้น
ผลลัพธ์
ไขมันลดลง 25-35% เห็นผลสัดส่วนลดหลังทำครั้งแรก 4-6 สัปดาห์ สามารถทำซ้ำเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่มากขึ้น โดยเว้นระยะ 1-2 เดือน
ทำส่วนไหนได้บ้าง
โดยสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณท้องส่วนบน ท้องส่วนล่าง สะโพก ต้นแขน ปีกสะโพกด้านหลัง ไขมันข้างรักแร้ เอว หน้าอกผู้ชาย ต้นขา (ทั้งข้างในและข้างนอก)
ความปลอดภัย
เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมัน โดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญดานความเย็นมากกว่า 50 ปี และมีงานวิจัยรองรับจำนวนมากได้รับความนิยมสูงสุดในยุโรป มาตราฐานยุโรป CE, TUV:SUD ได้รับอย.ไทย
โดยผลลัพธ์มีงานวิจัยที่พิสูจน์ได้รองรับสามารถลดสัดส่วนได้รวดเร็ว เหมาะกับคนที่มีสัดส่วนหรือไขมันในปริมาณมาก ๆ และยังลดเซลลูไลท์ ได้ผิวที่ เรียบเนียน กระชับ เปล่งปลั่ง
