4 ท่าปั้นจมูกโด่ง โดยไม่ต้อง เสริมจมูก

 เสริมจมูก

การมีรูปทรงที่โด่ง คงเป็นความต้องการของใครหลาย ๆ คนใช่ไหม เพราะแค่จมูกรูปทรงสวย ก็ทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์ขึ้นมาได้ แต่ยังคงมีหลายคนที่ยังไม่พร้อมจะทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขรูปทรงจมูก อาจเพราะกลัวเจ็บ กลัวมีด หรือกลัวผลที่เราคาดเดาไม่ได้ในอนาคต จึงไม่กล้าทำ วันนี้ทางเราเลยมาแชร์วิธีทำให้จมูกโด่งขึ้นได้ โดยไม่ต้องศัลยกรรม มีวิธีอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

  • นวดบริเวณสันจมูก ใช้นิ้วชี้แล้วนิ้วกลางทั้งสองข้างนวดบริเวณสันจมูกขึ้นลง เป็นเวลา 5 – 10 นาที เพื่อเป็นการยกบริเวณสันจมูกให้สูงขึ้น
  • ยกสันจมูก ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้ง คลึงบวิเวณกลางจมูก ขึ้นลงเบา ๆ เป็นเวลา 5 – 10 นาที ระวังอย่าออกแรงมากเกินไปนะคะ อาจทำให้จมูกแดงและช้ำได้
  • บีบปลายจมูกและดึงสันจมูกขึ้น ใช้มือข้างนึงบีบบริเวณปลายจมูกไว้ โดยไม่ต้องปิดรูจมูก เหลือไว้หายใจ แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ดึงบริเวณสันจมูกเบา 5 – 10 นาที วิธีนี้จะทำให้เราได้เห็นเนื้อจมูกเราด้วย แล้วนวดให้ขึ้นรูปนั้นเอง
  • ดึงปลายจมูกและหัวคิ้ว ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้ง ดึงปลายจมูกขึ้น ให้พุ่งออกไปข้างหน้า เบา ๆ 3 – 5 นาที และนิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างคลึงบริเวณหัวคิ้วเบา ๆ เป็นเวลา 3 – 5 นาที ทำให้บริเวณหัวคิ้วสูงขึ้น

 

เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้จมูกเราโด่งขึ้นแล้ว แต่ไม่ใช่ทำปุ๊บแล้วขึ้นเลยนะ การทำลักษณะแบบนี้ต้องใช้ระยะเวลาระดับหนึ่ง อาจจะเป็นปี ๆ เลยก็ว่าได้ หรือใครที่กำลังมีลูก อยากให้ลูกโตมาดั้งโด่ง ก็ลองใช้วิธีนี้ได้ แต่เบามือให้มาก ๆ นะคะ เพราะอาจจะทำให้เจ็บ แดงและช้ำได้

 

การทำลักษณะแบบนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการทำ บางทีเราก็คงไม่มีเวลาทำตลอดปัจจุบันมีอุปกรณ์มากมายทำขึ้นมาช่วยให้เราใช้ได้ง่ายขึ้น โดยที่หนีบมีลักษณะเข้าทรงรับรูปจมูก ควรหนีบไว้เพียงแค่ 3 – 5 นาที เพื่อไม่ให้จมูกช้ำ เพราะการใช้อุปกรณ์ เราไม่สามารถควบคุมน้ำหนักในการดึงได้ จึงไม่ควรใช้ในระยะเวลานานเกินไป อาจส่งผลเสียต่อจมูกของเรา

 

การปั้นจมูกแบบข้างต้นสามารถช่วยให้จมูกโด่งได้เพียงเล็กน้อยและระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ถ้าอยากมีจมูกที่โด่งขึ้นบางที อาจจะต้องให้ศัลยแพทย์ช่วยเหลือบ้างนิดหน่อย และในปัจจุบันก็มีวิธีทำให้จมูกโด่งได้หลากหายวิธี 

ฉีด Filler 

 

ฟิลเลอร์คือการฉีดสารเติมเต็ม ส่วนที่เราต้องการเติม เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หน้าผาก หรือปัจจุบันมีการฉีดเติมเต็มส่วนบริเวณสันจมูก โดยใช้สาร Hyaluronic acid เข้าไปบริเวณสันจมูก ทำให้จมูกดูโด่งขึ้น ทำให้ปรับสันจมูก ให้ดูโด่งเป็นธรรมชาติ แต่ต้องทำการฉีดโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ในการฉีดจมูก

โดย Filler มี 3 ประเภท ได้แก่

  1. Filler แบบชั่วคราว สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน มีอายุ 6 เดือน – 2 ปี
  2. Filler แบบกึ่งถาวร ในปัจจุบันยังไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เนื่องจากมีผลข้างเคียง เช่นตกค้างในร่างกาย ไม่เป็นรูปร่าง มีอายุ 2 – 5 ปี
  3. Filler แบบถาวร ไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยเช่นเดียวกับแบบกึ่งถาวร เนื่องจาก ไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ต้องทำการสารเพื่อละลาย แต่ก็ไม่สามารถนำออกจนหมดได้ อาจตกค้างในร่างกาย จึงไม่แนะนำ

ร้อยไหม 

 

เป็นเทคนิคการกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย ทำให้รูปหน้าดูเรียว โดยใช้เส้นไหม ไม่ต้องผ่าตัด และในปัจจุบันการร้อยไหมสามารถทำให้จมูกโด่งขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ข้อดี คือไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ ซึ่งจะขึ้นเป็นสัน คมกว่าการฉีด ฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีจมูกโด่งอยู่แล้วเล็กน้อย แต่ต้องการให้จมูกโด่งชัดขึ้น นอกจากนี้ยังไม่อุดตัน ไหมสามารถละลายเองได้ตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน – 2 ปี จำเป็นต้องทำการร้อยไหมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เพราะมีความเสี่ยงเนื่องจากอยู่ใกล้บริเวณดวงตา

 

ศัลยกรรมเสริมจมูก

 

เป็นวิธีแนะนำที่สุด เสริมจมูกให้เข้ากับรูปหน้า เพราะทำครั้งเดียวแล้วจบ สามารถอยู่ได้นาน มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ทำให้มีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เสริม มีวัสดุอะไรบ้าง ?

1.Silicone ซิลิโคน แท่งซิลิโคนเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เพราะมีหลากหลายราคา ผลิตเพื่อใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ สามารถดัดแปลงให้ได้รูปทรงที่ผู้เสริมต้องการได้ โดย APEX ใช้ซิลิโคนคุณภาพดี มีความยืดหยุ่นสูง ปรับแต่งได้ตามรูปทรงที่ต้องการ

 

2.Silicone + เนื้อเยื่อเทียม (ADM) เป็นการใช้ซิลิโคนในบริเวณสันและใช้เนื้อเยื่อเทียมบริเวณปลายจมูก เป็นที่นิยมในเกาหลี เนื้อเยื่อเทียมเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นมาทำให้มีความใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อมนุษย์ แยกเซลล์ออก ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ เป็นวัสดุใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น มีรูพรุน เพื่อให้ร่างกายได้สร้างเนื้อเยื่อเข้าไป เสมือนเป็นวัสดุเดียวกับร่างกาย ดูเป็นธรรมชาติ 

 

3.Silicone + กระดูกอ่อนหลังหู เป็นการใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู มาเสริมบริเวณปลายจมูก กระดูกอ่อนหลังหู เป็นวัสดุจากร่างกาย สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามผู้เสริมต้องการ หากต้องการทำปลายจมูกทรงหยดน้ำ ผู้ที่มีปลายจมูกบางสามารถใช้กระดูกอ่อนหลังหูในการทำได้ และแผลบริเวณหูสังเกตเห็นได้ยากเนื่องจากอยู่บริเวณรอยพับหลังใบหู

 

4.กระดูกอ่อนละเอียด เป็นวัสดุที่ได้จากการผ่าตัดบริเวณซี่โครงนำกระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงนำมาสร้างทรงจมูก ให้ได้ทรงที่ผู้เสริมต้องการ ไม่ขึ้นรูปทรงเหมือนซิลิโคน  ในระยะยาวสามารถบิดได้เหมือนจมูกจริง ดูธรรมชาติ เนื่องจากเป็นวัสดุจากร่างกายทำให้นำมาเสริมจมูกแล้วไม่เกิดการต่อต้าน ไม่แพ้ และไม่ทำให้ปลายจมูกทะลุ สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดและจะเป็นส่วนโครงสร้างจมูกถาวรเมื่อกระดูกที่นำไปวางบริเวณฐานจมูกเข้ารูปกับทรงจมูกแล้ว โดยเทคนิคการใช้กระดูกอ่อนละเอียนในการเสริมจมูกมีที่ APEX เท่านั้น

 

Close Rhinoplasty

 

การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบ Close Rhinoplasty หรือ การผ่าตัดแบบปิด เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกผ่านใต้ปลายจมูก ทำให้แผลสังเกตเห็นได้ยาก สอดวัสดุเข้าไปภายในแล้วเขยิบวัสดุไปบริเวณสันจมูก  ใช้เวลาไม่นาน แต่ต้องศัลยกรรมโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ความชำนาญในการสอดวัสดุเข้าไปสร้างเป็นรูปทรงจมูกตามความต้องการของผู้เสริม ถ้าหากไม่มีความชำนาญ อาจทำให้รูปทรงจมูกบิดเบี้ยว ได้รูปทรงจมูกที่ไม่สวย จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของสถานพยาบาลและศัลยแพทย์ให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจ 

Open Rhinoplasty

 

การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบ Open  Rhinoplasty หรือการผ่าตัดแบบเปิด การผ่าตัดเทคนิคนี้ช่วยให้การผ่าตัดศัลยกรรม เสริมจมูก Open ทำได้มีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบเปิด จึงทำให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างต่าง ๆ ของจมูก และสามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ป้องกันการเกิดปัญหาของจมูกในอนาคต โดยศัลยแพทย์สามารถวางวัสดุได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้รูปทรงที่ผู้เสริมต้องการ ลดโอกาสบิดเบี้ยวและปลายจมูกทะลุได้สูง เนื่องจากแพทย์จะทำการวัดวัสดุให้เหมาะสมกับผู้เสริมก่อนวางวัสดุลงบริเวณจมูก จึงมั่นใจได้ว่ารูปทรงจมูกจะออกมาตามที่ต้องการแน่นอน

และเทคนิคการผ่าตัด เสริมจมูก Open Rhinoplasty ยังเหมาะกับผู้ที่เคยเสริมจมูก และต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนวัสดุใหม่ในการเสริม เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบเปิดจึงทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำการเปลี่ยนหรือแก้ไขได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัยต่อผู้เสริม เมื่อเป็นการผ่าตัดแบบเปิดจึงสามารถนำวัสดุเดิมออกได้ง่าย และไม่ทิ้งสิ่งตกค้างไว้ หรือผู้ที่มีปัญหา จมูกเสริมแล้วอักเสบ ปลายทะลุ จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดแบบเปิด เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นปัญหาได้ชัดเจน และใช้วิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับผู้เสริมมากที่สุด 

 

ถ้าต้องการเสริมจมูกต้องทำอย่างไร ? 

 

การศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมที่ต้องผ่าตัด จำเป็นอย่างมากที่ต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เช่น สถานพยาบาลปลอดภัยหรือไม่ ศัลยแพทย์มีประสบการณ์การศัลยกรรมมากน้อยเพียงไหน รีวิวจากผู้เสริมจมูกของสถานพยาบาลนั้น ๆ เพราะการศัลยกรรมจมูกต้องผ่าตัด มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้ ถ้าเลือกสถานพยาบาลที่ดี มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ สามารถลดโอกาสกันเกิดปัญหาได้อย่างมาก โดย APEX มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเสริมจมูก มีประสบการณ์กว่า 15 ปี มั่นใจความปลอดภัยได้แน่นอน

 

วิธีเตรียมตัวในการทำศัลยกรรมเสริมจมูก

 

ก่อนการศัลยกรรมเสริมจมูกผู้เสริมต้องมีการเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์รูปทรงจมูกที่ต้องการเสริม ให้เหมาะสมกับผู้เสริมมากที่สุด ก่อนได้รับการผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งก่อนผ่าตัดจำเป็นจะต้องมีข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม ดังนี้

  1. แจ้งโรคประจำตัวและยาที่จำเป็นต้องรับประทาน ให้ศัลยแพทย์ทราบ เพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดศัลยกรรม ศัลยแพทย์จึงต้องวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมกับผู้เสริมมากที่สุด
  2. งดรับประทานอาหารและดิ่มน้ำ ก่อนการศัลยกรรม 6 – 8 ชั่วโมง เนื่องจากอาจใช้การวางยาสลบก่อนการผ่าตัด ผู้เสริมอาจสำลักอาหารระหว่างผ่าตัดได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม ควรงดรับประทานอาหารและดื่มน้ำก่อนการศัลยกรรม
  3. งดอาหารเสริม และ วิตามิน 1 – 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด เนื่องจากอาหารเสริมหรือวิตามิน เป็นส่วนช่วยการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เป็นอันตรายในการผ่าตัด
  4. งดยาแก้อักเสบ และ ยาแก้ปวด เพราะยาในกลุ่ม Aspirin และ NSAIDs เป็นกลุ่มยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้า เป็นอันตรายในระหว่างผ่าตัดศัลยกรรม
  5. งดเครื่องอื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้แผลอักเสบ หรือติดเชื้อ ควรงด เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม
  6. งดแต่งหน้า และทำเล็บ การแต่งหน้าและทำเล็บอาจทำให้เชื้อโรคแทรกซึมเข้าไประหว่างผ่าตัด อาจทำให้แผลติดเชื้อ เป็นอันตราย

 

วิธีดูแลในการทำศัลยกรรมเสริมจมูก 

 

  1. รับประทานยา ตามที่ศัลยแพทย์สั่ง และเข้าพบศัลยแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
  2. ใช้หมอนรองคอ เลี่ยงการนอนราบ ยกหัวให้สูง เพราะการนอนราบ ทำให้เลือดไหลคั่ง อาจทำให้เกิดรอยช้ำ
  3. ประคบเย็นบริเวณแก้มและหน้าผาก เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  4. ทำความสะอาดด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ ไม่ควรใช้น้ำ ในการทำความสะอาด เพราะในน้ำอาจมีเชื้อโรค ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
  5. ไม่ควรรับประทานอาหาร หมัก ดอง เนื่องจากเราไม่มั่นใจถึงความสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยง
  6. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่ อาจทำให้แผลติดเชื้อ และยังทำให้การฟื้นฟูร่างกายช้าลง แผลจึงหายช้า

 

หากใครมีความสนใจอยากเสริมจมูก ที่ปลอดภัย และรับการศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูก มีประสบการณ์ APEX เป็นสถานพยาบาลที่มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้เสริม มีประสบการณ์ด้านการศัลยกรรมเสริมจมูก ใช้เครื่องมือศัลยกรรมที่ทันสมัย และห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรอง JCI ผู้เสริมสามารถไว้วางใจถึงความปลอดภัยได้แน่นอนค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ เสริมจมูก Open

โทร : 0888-7000-39 , 0888-7000-16
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery