เลเซอร์รักษาหลุมสิว

การรักษาหลุมสิว สามารถเริ่มได้ตั้งแต่การทายา เช่น อนุพันธุ์ของวิตามินเอ การแต้มกรดผลไม้ การกรอผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้บ้าง แต่ไม่เห็นผลชัดเจน ต่อมาจึงมีการใช้เลเซอร์มากระตุ้นการสร้าง­เนื้อเยื่อ

เลเซอร์สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม

  1. เลเซอร์ชนิดมีแผล หรือ Ablative Laser เช่น Carbondioxide Laser หลังทำเลเซอร์มักมีสะเก็ดแผลอยู่นานประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นผิวหนังจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นสู่ภ­าวะปกติ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ในสมัยก่อนมีการใช้เลเซอร์ชนิดนี้รักษาปัญ­หาผิวหนังมากมาย เช่น การรักษาริ้วรอย เปรียบเหมือนการทำ face off แต่มักพบปัญหาเกี่ยวกับการดูแลหลังทำเลเซอร์ เพราะค่อนข้างยุ่งยาก มีโอกาสเกิดรอยดำหรือเป็นฝ้าค่อนข้างมาก
  1. เลเซอร์ชนิดไม่มีแผล หรือ Nonablative Laser ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสม สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ หลังทำเลเซอร์สามารถทำงาน หรือใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนปกติในทันที ประสิทธิภาพอาจไม่ดีมาก แต่มีผลข้างเคียงน้อย
  1. Semiablative หรือ Fractional Laser เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจกันอย่างแพ­ร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างจากการยิงเลเซอร์แบบมีแผล เนื่องจากการทำลายผิวส่วนบนจะน้อยกว่าลำแส­งจะลงไปเป็น column เล็กๆ ทำให้การหายของแผลนั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม ได้ผลชัดเจน มีอาการข้างเคียงน้อยกว่าแบบอื่นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

LINE : @Apexbeauty