โหนกแก้มสูง ขมับยุบ แก้มตอบ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อรูปหน้าโดยตรง ทำให้มองดูแล้วใบหน้าไม่ได้สัดส่วน กระดูกที่นูนออกมาส่งผลให้ใบหน้าแข็ง ดูแมนเหมือนผู้ชาย และกระดูกที่ยุบตัวยังส่งผลให้ใบหน้าดูโทรมลงได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากให้ใบหน้าดูหวาน ละมุน มีมิติมากขึ้น ต้องทำการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เติมเต็มในส่วนที่ยุบ เป็นแอ่งให้ใบหน้ามีความสมดุล ซึ่งวิธีที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องเจ็บตัว ก็คือการ ฉีดฟิลเลอร์ Filler นั่นเองค่ะ
ปัญหาขมับยุบ – แก้มตอบ เกิดจากสาเหตุอะไร?
ส่วนใหญ่แล้วปัญหาขมับยุบ แก้มตอบมักจะเกิดจากการยุบตัวของกระดูก หรือ ไขมันฝ่อตัวลง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นปัญหาเหล่านี้จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นไปตามวัย ซึ่งปัญหาขมับยุบ แก้มตอบก็สามารถเกิดขึ้นได้กับคนอายุน้อยได้เช่นกัน เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
- โครงสร้างใบหน้า : ซึ่งมักมาจากพันธุกรรมของครอบครัว เช่น ครอบครัวที่มีโหนกแก้มสูง จะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูแก้มตอบ ขมับเป็นแอ่งยุบลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน
- ฉีดโบท็อกเยอะเกินไป : เกิดขึ้นได้เมื่อเราเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ทำให้ประเมินปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกลดกราม ถ้ากรามเล็กลงมากจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบตามมาได้
- ผลจากการลดน้ำหนัก : สำหรับคนที่ออกกำลังกายอย่างหักโหม น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มักจะส่งผลต่อผิวหน้า ทำให้หย่อนคล้อย และเกิดปัญหาใบหน้าซูบผอม แก้มตอบ ดูไม่สดใสได้
- ผลจากการจัดฟัน : สำหรับบางคนเมื่อจัดฟันแล้วจะทำให้โครงหน้าเปลี่ยนไปบ้าง เนื่องจากต้องมีการถอนฟัน ดังนั้นเมื่อจัดฟันเสร็จแล้วอาจจะทำให้เกิดปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบได้
เปลี่ยนหน้าแข็ง ให้หวานละมุน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ Filler
เปลี่ยนหน้าแข็ง ให้หวานละมุน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ Fillerปัญหาขมับยุบ แก้มตอบ ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน โหนกแก้มเด่นขึ้น จนใบหน้าดูแข็งเหมือนผู้ชายนั้นเราสามารถแก้ไขให้ใบหน้ากลับมาหวานละมุน รูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้นได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ Filler ซึ่งเป็นวิธีการเติมเต็มส่วนที่บกพร่องของใบหน้าให้มีความสมบูรณ์ ดูมีมิติ เมื่อขมับและแก้มที่เคยยุบตัวดูเต็มขึ้น จะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ เด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
โดยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ และฟิลเลอร์แก้มตอบ เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ในส่วนอื่น ๆ เลยค่ะ คือการใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปเติมเต็มส่วนที่ยุบลงไปให้เต็มขึ้นมา โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้จะคงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือนเลยทีเดียว
สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับความอันตรายของการฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ บอกเลยว่าไม่เป็นอันตรายแน่นอน ถ้าเราเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถประเมินรูปหน้าของเราได้อย่างเหมาะสม ฉีดแม่นยำตรงจุดของปัญหา และใช้ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยต่อร่างกายอย่างสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพราะสารนี้สามารถสลายตัวได้เอง 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เรามั่นใจได้แล้วว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ – แก้มตอบ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ – แก้มตอบ- ช่วยปรับรูปหน้า : เติมเต็มใบหน้าในส่วนที่บกพร่อง ให้โครงหน้าสมส่วน สวยละมุน ลดความโดดเด่นของโหนกแก้ม ใบหน้าดูเด็กลง แถมยังช่วยให้ใบหน้าดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อยได้อีกด้วย
- ช่วยปรับโหงวเฮ้ง : ตามความเชื่อของศาสตร์จีน เมื่อใบหน้าเต็มอิ่ม จะทำให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ หรือคนช่วยอุปถัมภ์ ไม่ต้องทำงานหนัก
- ปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย : สามารถฉีดเพิ่มจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้เช่นกัน
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจน : ได้ตั้งแต่หลังฉีดเสร็จ และภายใน 1-2 สัปดาห์รูปหน้าจะดูเต็มสวยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความเป็นธรรมชาติอีกด้วย
- ไม่ต้องพักฟื้น : ใช้เวลาฉีดไม่นาน ไม่มีแผล หลังฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
ฉีดฟิลเลอร์ VS ฉีดไขมัน แบบไหนดีกว่ากัน?
ฉีดฟิลเลอร์ และ การฉีดไขมัน ทั้งสองวิธีสามารถเติมเต็ม ปรับรูปหน้าให้มีความสมดุล ดูอิ่มเอบมากขึ้นได้ แต่ทั้งสองวิธีก็มีข้อแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการทำ ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงความปลอดภัย ดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์ : เป็นการใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ฉีดเข้าไปยังส่วนที่ต้องการเติมเต็ม ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น แต่ในบางเคสอาจจะมีอาการบวมจากเข็มที่ใช้ฉีดได้ประมาณ 2-3 วัน แต่จะสามารถหายไปได้เอง โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 12-18 เดือนเลยทีเดียว ทำให้ไม่ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ แต่ถ้าอยากปรับเปลี่ยนแก้ไขรูปทรงก็สามารถฉีดเพิ่ม หรือฉีดสลายฟิลเลอร์เก่าออกได้
- ฉีดไขมัน : เป็นการดูดไขมันจากส่วนอื่นในร่างกายของเรา เช่น หน้าท้อง สะโพก ออกมา เพื่อนำไปฉีดยังบริเวณจุดบกพร่องบนใบหน้า ซึ่งการฉีดไขมันในช่วงแรกจะมีอาการบวม ดังนั้นจึงต้องรอจนกว่าจะยุบตัวประมาณ 3 เดือน ถึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน และไม่แน่นอนว่าไขมันจะติดเท่าไหร่ ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ได้เพียงประมาณ 3-6 เดือน ทำให้ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ ซึ่งอาจจะทำให้ผิวบริเวณที่ถูกดูดไขมันเกิดแผล หรือ ผิวไม่เรียบเนียนได้
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพกว่าการฉีดไขมัน สามารถฉีดได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัวหลายครั้ง อีกทั้งฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid ยังมีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ค่อนข้างนาน มีความเป็นธรรมชาติ เมื่อฟิลเลอร์สลายก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้
ปัญหาขมับยุบ แก้มตอบ จนโหนกแก้มดูเด่นออกมา ไม่ใช่แค่ทำให้ใบหน้าดูแข็งเหมือนผู้ชายเท่านั้น แต่ส่วนที่ยุบ ตอบลงไปยังทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม และดูแก่กว่าวัยอีกด้วย ดังนั้นวิธีปรับรูปหน้า เติมเต็มขมับ และ แก้มให้เต็มอิ่มมากขึ้น ด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ Filler จึงสามารถช่วยให้ใบหน้าของเรากลับมาอ่อนเยาว์ แถมรูปหน้ายังสวยละมุนขึ้นได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเงินและเวลาไปทำศัลยกรรมเลยทีเดียว
