การบริโภคอาหารเป็นบทบาทที่สำคัญในการเอาชีวิตรอด และหลายประเทศบนโลกนี้มีอาหารที่หลากหลายและมีเมนูต่าง ๆ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการในการบริโภคของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน มีความกังวลเกี่ยวกับผู้บริโภคที่มักละเลยการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เนื่องจากการอาศัยความสะดวกสบายเป็นหลัก นี้อาจทำให้บางครั้งมีการบริโภคอาหารโดยที่ไม่ทราบว่าตนเองมีภูมิต้านทานต่ำต่ออาหารบางชนิด ซึ่งอาจไม่แสดงอาการทันที หรือที่เรียกว่า “ภูมิแพ้อาหารแฝง” ได้
ภูมิแพ้อาหารแฝงคืออะไร?
โรคภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายตอบสนองต่ออาหารหรือสารต่างๆ ในอาหารที่เข้าสู่ร่างกาย ภูมิต้านทานที่ผิดปกตินี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอวัยวะหรือระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เกร็ดเลือด, ลำไส้, หัวใจ, หรือระบบประสาท เป็นต้น
สาเหตุของภูมิแพ้อาหารแฝง
โรคนี้มีสาเหตุหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิด โรคภูมิแพ้อาหารแฝง โดยเริ่มจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ร่างกายจึงจดจำว่าอาหารชนิดที่ทานเป็นตัวกระตุ้น เมื่อใดที่รับประทานอาหารชนิดนั้นอีก เม็ดเลือดขาวจะสร้างแอนติบอดี้ทำปฏิกิริยาส่งผลให้เกิดการระคาายเคืองของเยื่อบุลำไส้มากขึ้น และนำไปสู่ปัญหาลำไส้แปรปรวน ลำไส้รั่วซึม
หากเรายังรับประทานอาหารเหล่านี้อยู่ ร่างกายก็จะถูกกระตุ้นอยู่เรื่อยๆ จะทำให้กระทบกับระบบภูมิต้านทาน สร้างสารอักเสบเชิงซ้อนขึ้นมา และทำให้เกิดกระบวนการอักเสบ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าอักเสบจะเกิดกับอวัยวะใด
อาการของภูมิแพ้อาหารแฝง
- ระบบประสาท
ไมเกรน, ปวดหัว, การเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมอารมณ์, ซึมเศร้า ความวิตกกังวล,ความเมื่อยล้า และสมาธิสั้น - ระบบทางเดินหายใจ
โรคจมูกอักเสบ, ไซนัสอักเสบ และโรคหอบหืด - ระบบกล้ามเนื้อ
โรคไขข้อ, ปวดข้อ, ปวดกล้ามเนื้อ และความอ่อนแอ - ระบบทางเดินอาหาร
อาเจียน, ท้องอืด, คลื่นไส้, ท้องผูก, ท้องเสีย, ปัญหาการควบคุมน้ำหนัก และ อาการจุกเสียด - ผิวหนัง
ลมพิษ, ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้, กลาก และผื่นคัน
อาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้อาหารแฝง
อาหารทุกชนิดสามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้อาหารแฝงได้ เนื่องจากร่างกายแต่ละบุคคลมีภูมิคุ้มกันไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่เราจะเกิดภูมิแพ้อาหารแฝงได้ในอาหารที่รับประทานอยู่ประจำ เช่น
- นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต เนย เป็นต้น
- ไข่
- ถั่ว
- ข้าว
- ถั่ว
- รำข้าวสาลี
- มันฝรั่ง
- ข้าวสาลี
วิธีการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง
- แม้การสังเกตอาการที่เกิดขึ้น หลังจากกินอาหารจะเป็นไปได้ยากเพราะบางทีเราอาจมีภาวะแพ้อาหารแฝงในอาหารที่กินประจำ
- ตรวจโดยการเจาะเลือด ไปตรวจหาสารแอนติบอดี้ IgG หรือหากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือสารภูมิคุ้มกันหากภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารอาหารที่ทดสอบ ก็อาจบอกได้ว่ามีภาวะแพ้อาหารแฝงชนิดใด ซึ่งผลทดสอบ จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับเช่น ได้แก่
- สีแดง ร่างกายมีปฏิกิริยาต่ออาหารชนิดนั้น
- สีเหลือง ร่างกายมีภาวะเสี่ยงที่จะมีปฏิกิริยาต่ออาหารชนิดนั้น
- สีเขียว ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาต่ออาหารชนิดนั้น
ภูมิเเพ้อาหารแฝง ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ในระยะยาวก็ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ เช่น เกิดอาการท้องเสียประจำ ท้องอืด สิว เกิดการอักเสบในร่างกายแบบไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้น หากสงสัยว่าตัวเองกำลังมีภาวะดังกล่าว ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหา และรับคำปรึกษาในการปรับอาหารให้เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลสุขภาพที่ดีในระยะยาว การให้ความเข้าใจและการสนับสนุนจากครอบครัว, ทีมแพทย์, และสังคมมีความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อาหารแฝง ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
📍APEX WELLNESS ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและชะลอวัยครบวงจร
เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับคุณ
Line : @apexlifecenter
Instagram : apexwellness
Facebook : APEX Wellness
Tel : 0957958784 , 0659500799