ฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ หรือ เลเซอร์ยกกระชับ เลือกอะไรดี?

ความกังวลเกี่ยวกับผิวพรรณอันหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบนใบหน้า ทำให้หญิงสาวและชายหนุ่มหลายคนเริ่มมองหาตัวช่วยในการเรียกคืนความอ่อนวัยกลับคืนมา

ยกกระชับ

สิ่งที่คนส่วนใหญ่ปรารถนา คือการมีรูปร่างหน้าตาอันดึงดูดใจ ผิวยกกระชับเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย ดูอ่อนกว่าวัย แต่พออายุเริ่มมากขึ้น ความกังวลต่างๆเกี่ยวกับผิวพรรณก็เพิ่มตามไปด้วย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หญิงสาวรวมถึงชายหนุ่มหลายคนจึงเริ่มมองหาตัวช่วย ที่จะเรียกคืนความอ่อนวัยกลับมาอีกครั้ง และด้วยวิทยาการอันก้าวล้ำในปัจจุบัน ได้มอบโอกาสทางความงามเหล่านั้นให้กับเรา จากเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นนวัตกรรม ยกกระชับผิว ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายทางเลือก แบ่งเป็น 2 ประเภทที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับและเลเซอร์ยกกระชับ

ฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ ยกกระชับ 

ฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็ม ที่เรียกว่า เอชเอ (HA) หรือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเข้าไปทดแทนและเติมเต็มใยคอลลาเจนใต้ผิวที่เสื่อมสลาย ช่วยพยุงโครงหน้าให้เกิดการ ยกกระชับ กลับมาดูอิ่มเอิบ เพิ่มความยืดหยุ่น เติมร่องริ้วรอยลึกให้ตื้นขึ้น แลดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งฟิลเลอร์มีอยู่หลายชนิดเพื่อช่วยแก้ปัญหาในจุดที่ต่างกันไปบนใบหน้า โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ในการ ยกกระชับ ใบหน้าจะมีลักษณะคงตัวและเนื้อข้นกว่าฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ ซึ่งคุณหมอจะใช้ฟิลเลอร์ชนิดนี้ ฉีดเข้าไปเพื่อทดแทนไขมันและมวลกระดูกที่ฝ่อตัวลง เมื่อฉีดแล้วนอกจากจะช่วยเติมเต็ม ยังทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น เปรียบเสมือนการเสริมโครงสร้างปักเสาเข็มให้ใบหน้า

สารไฮยาลูโรนิค แอซิด เป็นสารที่ร่างกายเราสร้างขึ้นได้เองอยู่แล้ว แต่พออายุมากขึ้นจะทำให้สร้างได้น้อยลง ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ ด้วยสารเอชเอ (HA) จึงสามารถย่อยสลายไปเองได้ตามกระบวนการทำงานของร่างกาย หลังจากฉีดสามารถเห็นผลได้ทันที แต่จะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากผ่านไปแล้ว 3 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี

เลเซอร์ยกกระชับเลเซอร์ยกกระชับ

เลเซอร์ ยกกระชับ

คือการยกกระชับโดยใช้เครื่องมือฉายเลเซอร์แบบคลื่นความถี่ลงบนผิว เพื่อให้คลื่นความถี่เหล่านั้นลงไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของเซลล์ผิว มีความปลอดภัยสูง และไม่ค่อยพบผลข้างเคียง

อัลเทอรา (Ulthera) หรือ อัลเทอราพี (Ultherapy) ช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ด้วยการปล่อยคลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีพลังงานความถี่สูง แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ระดับชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เน้นกระตุ้นไปที่เซลล์ของชั้นผิวหนัง เพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ อยู่ได้นาน 1-2 ปี และถ้าหากทำเป็นประจำต่อเนื่องทุก 1-2 ปี จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลงไปอีกถึง 10 ปี

เทอร์มาจ (Thermage) คือการยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (RF : Radio Frequency) ความถี่สูงเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปใบหน้าให้ ยกกระชับ โดยความร้อนที่ออกจากคลื่นวิทยุจะถูกส่งลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ตื้นกว่าชั้นผิวหนัง SMAS) ทำให้คอลลาเจนถูกกระตุ้นอย่างทันที แก้ปัญหาเส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่นสปริงตัว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดกลับ และมีเกลียวที่ขึงตึงขึ้น เห็นผลลัพธ์แทบทันทีแต่เป็นผลลัพธ์ประมาณ 20% ของผลลัพธ์จริง และสังเกตเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในเดือนที่ 2-3 โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี

ยกกระชับ

หน้าแบบไหนเหมาะกับการทำอะไร

โดยปกติแล้วก่อนรับการรักษาไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด คุณหมอจะใช้การประเมินเป็นเคสต่อเคสไปค่ะ แต่หากคุณอยากลองสังเกตตัวเองดูก่อนจากที่บ้าน คุณหมอได้ให้คำแนะนำง่ายๆไว้ด้วย คือ ให้คุณลองหยิบแก้มของตัวเองดู

  • หากรู้สึกว่ามันหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น อาจเป็นเพราะคอลลาเจนใต้ผิวลดลงหรือผลิตได้น้อยลง ควรเลือกวิธีการทำเลเซอร์ยกกระชับ 
  • หากจับดูแล้วรู้สึกว่าใบหน้ายังเต่งตึง ความยืดหยุ่นก็ยังดีอยู่ แต่ดูหย่อนคล้อย อาจเกิดจากสาเหตุที่เรียกว่าวอลลุม ลอส (Volume Loss) คือการสูญเสียปริมาตรใต้ชั้นผิว ไม่ว่าจะจากไขมัน กระดูก หรือกล้ามเนื้อ ควรเลือกการฉีดยกกระชับ

การทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งในข้างต้น อาจเพียงพอแล้วสำหรับบางคน แต่อีกหลายคนอาจยังไม่เพียงพอ และไม่ตอบโจทย์ปัญหาผิวทุกส่วน การพิจารณาว่าจะทำมากหรือน้อย ควรคำนึงถึงช่วงอายุ สภาพผิว การดูแลตนเอง การดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วย และทางที่ดีควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อความปลอดภัย จนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการเผยผิวสวยของคุณ

หรือหากคุณยังไม่แน่ใจว่าอะไรที่เหมาะกับตัวเอง สามารถสอบถาม หรือส่งรูปใบหน้าของคุณเข้ามาทาง Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) เพื่อรับการประเมินและคำปรึกษาโดยตรงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ APEX