ไม่อยากเป็นหมีแพนด้า จัดการปัญหาใต้ตาดำด้วย Filler

     

    ใต้ตาดำเป็นปัญหาที่พบได้ทั้งชายและหญิง โดยมีลักษณะเป็นรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตา ซึ่งมีสีเข้มกว่าผิวส่วนอื่นบนใบหน้า และบางคนอาจมีปัญหาถุงใต้ตาซึ่งยิ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า อิดโรย และดูแก่กว่าวัย แม้ปัญหาใต้ตาดำมักไม่ได้เกิดจากโรคร้ายแรง แต่อาจทำให้เรารู้สึกเครียดและเสียความมั่นใจได้

    ปัญหาใต้ตาดำเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงของผิวตามวัย การถ่ายทอดทางพันธุกรรม และปัจจัยอื่น ๆ หากเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา จะช่วยป้องกันและจัดการกับปัญหาใต้ตาดำให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

    สำหรับใครที่กำลังมองหา วิธีลดขอบตาดํา ตาลึก ตาโหล วิธีรักษาขอบตาคล้ำ ขอบตาดำมากๆ ขอแนะนำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีแก้ขอบตาดํา รอยคล้ำหรือร่องลึกใต้ตา ที่ตรงจุดและเห็นผลรวดเร็ว และยังสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    โดยบทความนี้ จะมาบอกเล่าจัดการปัญหาใต้ตาดำ ว่าเกิดจากอะไร และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยได้อย่างไรได้บ้าง

     

    ขอบตาดำ เกิดจากอะไร ? 

    ส่วนมากที่รู้ๆ กัน ว่าถ้านอนดึกมากๆ หรืออดนอนมาอย่างหนัก ใต้ตาก็จะเริ่มคล้ำ แต่ทำไมนะทำไมเวลาที่เรานอนเต็มอิ่มวันแล้ว ขอบตาก็ยังคล้ำอยู่ ใต้ตาคล้ำ ขอบตาคล้ำ เบาตาดำเกิดจากอะไรได้บ้างมาดูกันค่ะ

    กรรมพันธุ์ หลายคนก็ได้รับสืบทอดเป็นความคล้ำใต้ตา เพราะได้พันธุกรรมมาจากพ่อและแม่ได้ค่ะ

    อาการภูมิแพ้ บริเวณตาและจมูกบวมทำให้ปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด เมื่อมีเลือดคั่งอยู่บริเวณผิวใต้ตา จึงทำให้ขอบตาดำ คล้ำ

    ขยี้ตาบ่อยๆ ตากแดดมากเกินไป จะทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานิน บริเวณดวงตาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    อายุที่เพิ่มขึ้นและพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาบางลง เห็นเส้นเลือดดำชัดเจน จึงมองเห็นว่าขอบตาดำมากขึ้น

    ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวแห้ง เซลล์ผิวฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ผิวไม่กระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบางอย่างใต้ตา ขอบตา ก็จะสังเกตเห็นรอยคล้ำได้ง่าย

    ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่จะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาเครียด ผิวจะคล้ำเสียรวมไปถึงขอบตาดำมากขึ้น

     

    ฟิลเลอร์ใต้ตา

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มบริเวณใต้ตาในจุดที่มีปัญหา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึก โดยฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

     

    วิธีแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา

    ฉีดไขมัน 

    การฉีดไขมันใต้ตา เหมาะกับคนที่ร่องใต้ตาลึกและกว้างมาก ซึ่งการฉีดไขมันโดยใช้ไขมันของผู้เข้ารับบริการเองค่ะ ตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นจากบริเวณต้นขาหรือหน้าท้อง นำมาฉีดลงไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา เพื่อให้เซลล์ไขมันไปสัมผัสกับเนื้อเยื้อภายในให้มากที่สุด ผิวที่ได้ก็จะกระชับ เต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

    วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีร่องใต้ตาไม่ลึกหรือกว้างมากมัก เอาง่ายๆ มีปัญหาแค่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ โดยฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่เป็นร่องลึก เพื่อช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ใต้ตาดูอวบอิ่มสดใสมากขึ้นกว่าเดิม

     

     

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาใต้ตายังไง?

    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใต้ตาที่สลายไป ทำให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น เติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ได้อีกหลายประการ ดังนี้

    • ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ที่อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ที่ใต้ตาทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยาย และอายุที่มากขึ้น
    • เบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น มักพบได้ในคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ทำให้เนื้อเยื่อใต้ตาจะค่อยๆ ยุบลง
    • ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมที่ทำให้เกิดไขมันใต้ตา เช่น ขยี้ตาแรง พักผ่อนน้อย
    • ริ้วรอยใต้ตา จากอายุที่มากขึ้น การใช้สายตาหนักเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตามีริ้วรอย

     

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องขอบตาคล้ำจากภูมิแพ้ได้ไหม?

    การที่ผิวบริเวณใต้ดวงตามีสีดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ โดยหลัก ๆ แล้วมักจะเกิดจากภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือภูมิแพ้ตา ผู้ป่วยภูมิแพ้จมูกอักเสบมักจะมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก และจาม ผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง เยื่อบุจมูกมักจะบวม การบวมจะทำให้เลือดดำไหลผ่านได้ยาก เลือดดำจึงคั่งอยู่บริเวณใต้ตาล่างทำให้ผิวบริเวณใต้ตาล่างดำคล้ำนั่นเองค่ะ ส่วนผู้ป่วยภูมิแพ้ตา จะมีอาการคันตา เคืองตา อาการเหล่านี้ทำให้เผลอขยี้ตาแรงๆ ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตาดำคล้ำ หรือมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้น

    การฉีดฟิลเลอร์จึงถือเป็นช้อยส์ที่ดีสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ เพราะฟิลเลอร์สามารถปกปิดความคล้ำได้ดี เมื่อฉีดแล้วจะช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาจางหายไป และจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ นอกจากนี้ยังทำให้ใบหน้าดูสดใส หน้าดูเด็กลง แถมไม่ต้องพักฟื้นหรือผ่าตัดให้เจ็บด้วยค่ะ

     

     

    ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

    ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็คือ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย เช่น แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา เห็นผลลัพธ์หลังฉีดรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง 

    ส่วนข้อเสียในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็คือ ความไม่คงทนก็คือจะอยู่ไม่ได้นานถาวร สลายไว เมื่อเจอความร้อน หรือหากทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อยๆ เช่น ออกกำลังกาย ซาวหน้า ทำเลเซอร์ เป็นต้น แต่เมื่อสลายไปแล้วก็ต้องมาเติมอยู่บ่อยๆ  อีกทั้งยังมีความเสี่ยงหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้ผิวบวม ช้ำ ฟิลเลอร์จับเป็นก้อนได้ค่ะ

    ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?

    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาแต่ไม่อยากผ่าตัด แต่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับ 

    • คนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ที่เป็นสาเหตุให้ใบหน้าดูไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนน้อย
    • คนที่มีปัญหากระดูกใต้ตาที่ยุบตัวลง จากอายุที่มากขึ้น ทำให้ดูตาโบ๋ ตาลึก
    • คนที่มีปัญหาใต้ตาที่เกิดลักษณะทางพันธุกรรม ที่เป็นส่วนหนึ่งของตาโหล ตาดำ

     

     

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

    เรื่องที่ใครหลายๆ คนกังวลมากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คงไม่พ้นเรื่องของความเสี่ยง จะเป็นอันตรายไหม? จะตาบอดรึเปล่า? กรณีที่จะทำให้ตาบอดได้ก็ต่อเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วพลาดเข้าในเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปอุดต้นเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไม่หล่อเลี้ยงบริเวณดวงตา อาการเริ่มแรกจะมีอาการตาพร่ามัวหลังจากนั้นจะเริ่มมองไม่เห็นและตาบอดในที่สุด

    หากเกิดความผิดพลาดดังกล่าวขึ้นมาจะมีอาการทันที ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงต้องมีความระมัดระวังอย่างมากค่ะ แต่ใช่ว่าจะมีโอกาสเกิดกันได้ง่ายๆ เพราะถ้าเราเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์จริงๆ มีความชำนาญในด้านของกายวิภาค ก็จะสามาถหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้ โดยต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง ทั้งคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อทางเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ค่ะ ส่วนหมอกระปงกระเป๋าอย่าไปหาฉีด! เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก อย่าหาไปฉีดนะสาวว

     

     

    เริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC ?

    โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-3 CC หากคนไข้อายุ 50 ปีขึ้นไป กระดูกกลางหน้าทรุดลงเยอะ หรือมีปัญหาใต้ตาลึกมากๆ จากการยุบตัวของกระดูกเบ้าตา อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ 4 CC หรือ มากกว่านั้นค่ะ ซึ่งฟิลเลอร์ที่ทางเราเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm เพราะเป็นฟิลเลอร์อันดับ 1 จากอเมริกา ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสของผู้รับบริการ ซึ่งทางคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินค่ะว่า ปัญหาใต้ตาของแต่ละคนจำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC แต่ปัญหาที่พบโดยทั่วไป เช่น ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา จะใช้ปริมาณเพียงแค่ 1-2 CC เท่านั้นค่ะ

     

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ?

    โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีแค่อาการบวมที่ใต้ตา รอยบวมนี้จะค่อยๆ หายไปเองใน 2-3 วันค่ะ และจะเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนระยะเวลาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ด้วยนะคะ ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน

     

    Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

     

    Q : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวรไหม?

    A : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ไม่ถาวรค่ะ เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง แต่จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ฉีดค่ะ บางยี่ห้อสามารถอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี และบางยี่ห้ออยู่ได้นาน 8 เดือนถึง 1 ปี ทั้งนี้หากว่าดูแลตัวเองดี หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วก็จะช่วยฟิลเลอร์มีอายุอยู่ได้นานขึ้น

    Q : การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

    A : ก่อนฉีดฟีลเลอร์ใต้ตา เพื่อนๆ ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมและเตรียมตัวเองก่อนจะเข้าไปฉีดฟิลเลอร์นะคะ

    • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
    • เลือกแพทย์ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
    • ก่อนการฉีด 1 วัน ควรงดรับประทานแอลกอฮอล์ใน 24 ชั่วโมง
    • ก่อนการฉีด 1 วัน งดการทานยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินอีและอาหารเสริมใบแปะก๊วย ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมใต้ตาหลังฉีดได้เร็วขึ้น

    Q : ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นยังไง?

    A : หลังจากที่นัดแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเรียบร้อย แพทย์จะประเมินปัญหาและอธิบายขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้คนรับบริการ เข้าใจในการฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 5–20 นาที และมีขั้นตอนดังนี้

    • ล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้หมดจด
    • แพทย์จะทำการวาดจุดที่จะฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
    • แพทย์จะทายาชาบริเวณใต้ตาเพื่อเตรียมตัวฉีด จากนั้นให้ผู้รับบริการรอ 2-3 นาทีให้ยาชาออกฤทธ์
    • แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณจุดที่วาดไว้ก่อนหน้า

     

    Q : ดูแลตัวเองยังไงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

    A : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว อาจจะมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตาในจุดที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน แต่ไม่ต้องกำลังไปค่ะทางแพทย์จะให้ยาแก้ปวดและยาลดอาการบวมมาให้ร่วมด้วยค่ะ และหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ แนะนำให้ผู้รับบริการดูแลตัวเอง ตามข้อแนะนำนี้ได้เลยค่ะ

    • ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากเดิมได้
    • ประคบน้ำเย็นที่ใต้ จะช่วยลดอาการบวมหลังฉีดได้
    • ดื่มน้ำให้มากขึ้น จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวยาวนานขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายง่าย
    • งดการทำเลเซอร์ที่ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

    Q : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?

    A : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาที่ใต้ตาในบริเวณที่จะฉีด ทำให้ขณะฉีดความเจ็บลดน้อยลง และใช้เวลาฉีดเพียงไม่กี่นาที หลังจากฉีดเสร็จ จะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แต่จะค่อยๆ หายไปเองค่ะ

     

    โดยสรุปแล้วนะคะ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นแค่หนึ่งในทางเลือกแก้ไขปัญหาใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึกให้ดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด และเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากอย.ด้วยนะคะ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อลดโอกาสเกิดอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

     

    สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

    นัดปรึกษาแพทย์และสอบเพิ่มเติมได้ที่เอเพ็กซ์ทั้ง 35 สาขาในกรุงเทพ อยุธยา พัทยา ชลบุรี โคราช เชียงใหม่และภูเก็ตค่ะ 

    📱 085-​0000855

    📱 Line @apexlifting แอดไลน์คลิกเลย

    สถาบันเสริมความงาม APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการค่ะ