ปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้นทำยังไงก็ไม่หายสักที ท่าบริหารเพื่อลดเหนียงยังไม่สามารถจัดการได้ ถือว่าเป็นปัญหาที่ใครต่างหนักใจ ไหนจะปัญหาหน้าอ้วน เหนียงออก คางสองชั้นโผล่ ทำให้ใบหน้าดูแก่ไม่สมส่วน ออกกำลังกายหุ่นลดลงแต่บางทีเหลือส่วนเดียวคือเหนียงเจ้าปัญหาที่ยังไม่ออกไปสักที มาดูสาเหตุการเกิดเหนียงกันว่าคืออะไรแล้วจะจัดการอย่างไรได้บ้าง
เหนียงเกิดขึ้นได้อย่างไร?
การเกิดเหนียง สาเหตุหลักเกิดจากปริมาณไขมันที่สะสมใต้ชั้นผิวเป็นจำนวนมากและผิวหนังบริเวณใต้คางและคอห้อย หย่อนคล้อย การแก้ไขปัญหาเหนียงยานเหนียงห้อย ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากปริมาณไขมันใต้ผิวหนังที่มีปริมาณมาก มักเกิดจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น, ไม่ควบคุมอาหาร, ไม่ออกกำลังกาย
จะลดเหนียงได้อย่างไร?
วิธีลดเหนียงมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการของแต่ละบุคคล
- ทางที่เร็วที่สุดคือ ดูดไขมันเหนียงใต้คาง
- ออกกำลังกาย
- ฉีดสลายไขมันใต้คาง (Mesofat)
- ผ่าตัดลดเหนียงยกกระชับคอ
ดูดไขมันเหนียงใต้คาง Body Jet EVO ดีอย่างไร?
- เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
- ไม่เกิดความบอบช้ำต่อเนื้อเยื่อคอลลาเจนเพราะใช้พลังงานน้ำในการดูดไขมัน
- ไขมันที่ดูดออกนำมาใช้เติมเต็มส่วนอื่นได้
- ลดเหนียงใต้คางอย่างได้ผล
ดูดไขมันเหนียงใต้คาง Body Jet EVO เหมาะกับใคร?
เหมาะกับผู้ที่มีคางสองชั้นมีไขมันใต้คางปริมาณมากต้องการมีกรอบหน้าที่ชัดขึ้นอายุ 20-45 ปี เนื่องจากอายุน้อยผิวหนังภายนอกและกล้ามเนื้อภายในยังตึงกระชับอยู่ แต่เมื่ออายุมากขึ้นทำให้ผิวภายนอกและกล้ามเนื้อภายในจะหย่อนยาน การรักษาด้วยการดูดไขมันเหนียงใต้คางเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
ผลลัพธ์การดูดไขมันเหนียงอยู่ได้นานหรือไม่?
หลังการรักษาด้วยการดูดไขมันเหนียงใต้คางด้วย Body Jet EVO ผลลัพธ์จะคงอยู่เมื่อสามารถควบคุมน้ำหนักได้ แต่เมื่อมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ไขมันจะสามารถกลับมาสะสมบริเวณที่ดูดไขมันไปได้เช่นกัน
การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันเหนียง Body Jet EVO ทำอย่างไร?
- งดสูบบุหรี่ก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดแอลกอฮอล์ก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดยากลุ่ม aspirin หรือ ibuprofen อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดวิตามิน อาหารเสริม สมุนไพร ทุกชนิดก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับการดูดไขมัน
- แจ้งประวัติการฉีด เสริม และผ่าตัดตกแต่งใบหน้าทุกประเภท
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา และยาที่ใช้เป็นประจำ
การปฏิบัติตัวหลังการดูดไขมัน Body Jet EVO ทำอย่างไร?
- ประคบเย็นบริเวณใต้คาง 2 วัน หลังจากดูดไขมัน
- เริ่มประคบอุ่นในวันที่ 3 หลังการดูดไขมัน ประคบอุ่นจนยุบบวม
- นอนศีรษะสูง หนุนหมอน 2 ใบ เป็นเวลา 2 วันหลังดูดไขมัน
- ใช้ผ้ารัดหน้าบริเวณใต้คางหลังการดูดไขมันต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
- ใช้ผ้ารัดหน้าบริเวณใต้คางทุกวัน อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เดือน
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์
- งดวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด 1 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายทุกชนิด 1 สัปดาห์
- ตรวจติดตามอาการตามที่แพทย์นัด
ทำไมต้องดูดไขมันเหนียง ที่ Apex
- ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ Apex Medical Center ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน
- ทีมงานพยาบาลมืออาชีพที่ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดทุกขั้นตอนของการรักษา
- การก้าวทันนวัตกรรมเครื่องมือที่ทันปัจจุบันเสมอของ Apex Medical Center
- สถานที่มีมาตรฐานระดับสากลได้รับการรับรอง JCI
Body Jet EVO แตกต่างกับการดูดไขมันชนิดอื่นอย่างไร?
การดูดไขมันด้วยวิธีอื่นจะใช้พลังงานความร้อน หรือเลเซอร์เป็นหลังในการสลายไขมัน อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณต่างๆ ได้ จึงเกิดการบอบช้ำบวม แต่ความร้อนหรือเลเซอร์จะช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ไขมันที่ถูกดูดจะตายไปโดยไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ส่วนวิธีการดูดไขมันหน้าท้องด้วย Body Jet EVO เป็นวิธีที่ใช้พลังงานน้ำในการแยกไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยและไขมันยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สามารถนำมาใช้เติมเต็มส่วนบกพร่องอื่นๆ ได้
วิธีดูดไขมันเหนียงด้วย Body Jet EVO
ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินพื้นที่ ที่ต้องทำการดูดไขมันต้นแขนและออกแบบให้ได้สัดส่วนตามที่คนไข้กังวล แล้วจากนั้นแพทย์จะทำการ ดูดไขมันส่วนเกิน ซึ่งไขมันที่ถูกดูดออกจะถูกเก็บในระบบปลอดเชื้อเพื่อใช้ในการเติมเต็มส่วนอื่นที่คนไข้ต้องการ เช่น หน้าอก, ร่องแก้ม, ใต้ตา เป็นต้น
ผลการรักษาของการดูดไขมันเหนียงใต้คางด้วย Body Jet EVO
เหนียงใต้คางจะค่อยๆ ลดลงและเริ่มเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนประมาณ 1 เดือนหลังการดูดไขมันเหนียงใต้คาง และผลลัพธ์ของการดูดไขมันจะดีที่สุดประมาณช่วง 3 เดือนหลังการดูดไขมัน