อาหาร ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักสำหรับการดำรงชีพ กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างมาก ดังนั้นจึงได้เห็นการที่มีผู้คนแพ้อาหารชนิดต่างๆ มากขึ้น ซึ่งอาการที่แสดงออกมามักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่มีอาการแพ้อาหารชนิดที่เรียกว่า ภูมิแพ้อาหารแฝง ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับภาวะภูมิแพ้อาหารแฝงให้มากขึ้น เพื่อการเฝ้าระวังอย่างถูกวิธี
ภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นภาวะที่ร่างกายสร้างแอนติบอดีชนิด IgG ขึ้นในร่างกาย โดยสารดังกล่าวจะทำปฏิกิริยากับอาหารที่แพ้ ซึ่งจะไม่แสดงอาการออกมาในทันที แต่แอนติบอดีชนิดดังกล่าว จะค่อยๆ ทำลายเนื้อเยื่อที่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเนื้อเยื่อนั้นคือสิ่งแปลกปลอม ทั้งนี้หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน หรือรับประทานอาหารที่ร่างกายแพ้ซ้ำๆ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายของอวัยวะที่รุนแรงขึ้น จนกลายเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรง
อาการของภูมิแพ้อาหารแอบแฝงจะไม่แสดงออกมาอย่างเฉียบพลัน แต่จะต้องใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ ซึ่งอาการจากภาวะดังกล่าวอาจแสดงออกมามักไม่รุนแรง แต่จะเกิดขึ้นอย่างเรื้อรังและหลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละคน
อาการของโรคภูมิแพ้อาหารแฝง
- ท้องอืด ท้องผูก
- ท้องเสียบ่อย มีอาการลำไส้แปรปรวน
- ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือปวดไมเกรน
- รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่สบาย
- ขอบตาคล้ำ
- ไอ จาม
- หอบหืด คัดจมูก
- จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ
- มีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ผิวบวม หรือมีอาการบวมน้ำที่ผิวหนัง
สำหรับแนวทางในการรักษาภูมิแพ้อาหารแฝง ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจให้แน่ชัดก่อนว่า ตนเองมีอาการแพ้ชนิดใด เมื่อทราบแล้วแพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้ลดหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดังกล่าว อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งหากงดอาหารที่แพ้ตามที่แพทย์สั่ง จะช่วยให้อาการลดลง และร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ภาวะภูมิแพ้อาหารแฝงจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น จนกว่าร่างกายจะได้รับผลกระทบมากๆ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจหาภูมิแพ้อาหารแฝงก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE : http://line.me/ti/p/%40apexmedicalcenter