ดวงตา นอกจากจะเป็นหน้าต่างของหัวใจแล้ว ยังสามารถบ่งบอกอายุที่แท้จริงของคุณได้ ชนิดที่ว่าจะปิดยังไงก็ปิดไม่มิดค่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะหญิงหรือชายจึงควรดูแลทะนุถนอมผิวรอบดวงตาให้ดี เพื่อทำให้อายุของผิวดูอ่อนวัยกว่าอายุจริง ผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมาก จึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การทาครีมบำรุงเข้มข้นที่ทำมาเพื่อผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ และที่สำคัญทุกคนต้องไม่ทำร้ายผิวรองดวงตาด้วยการขยี้ตาแรงๆ อย่างเด็ดขาดนะคะ
ปัญหาของดวงตามีหลายปัญหา ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะเจอกับปัญหารอยคล้ำใต้ตาแบบหมีแพนด้า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี ทำให้เส้นเลือดดำขยายตัว เกิดเลือดคั่ง ก็จะเห็นเป็นรอยคล้ำชัดเจนที่บริเวณใต้ตา ส่วนใหญ่เกิดจากการอดนอน เคร่งเครียด เมาค้าง และอีกหลายสาเหตุค่ะ
แต่ถ้าเป็นในผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ก็มักจะต้องพบกับปัญหาถุงไขมันใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา และพาลไปถึงคิ้วตกอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น สำหรับทางออกของปัญหานี้หากไม่อยากผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาออก เพราะต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด หรือแผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้ ในปัจจุบันจึงมีวิธีที่ทำให้ดวงตากระชับตึงได้อย่างดูเป็นธรรมชาติได้หลายวิธี เช่น อัลเธอรา ซึ่งได้รับ US FDA approved ในการยกคิ้ว เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการยกกระชับส่วนลึก โดยใช้พลังงานอัลตร้าซาวด์ด์ทำงานไปถึงชั้นพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) โดยส่งพลังงานลงไปเป็นจุดถี่ๆ ในแนวกล้ามเนื้อ ทำให้ SMAS ที่ยืดย้วยด้วยกาลเวลากลับมากระชับตึงอีกครั้ง หรือจะเป็น เทอร์มาจ ก็ทำได้เช่นกัน โดยใช้พลังงาน RF ที่สร้างความร้อนอย่างสม่ำเสมอให้แก่คอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้โครงสร้างของผิวหนังกระชับตึงขึ้นทันที หนังตาตกก็จะตึงขึ้น ถุงใต้ตาและริ้วรอยก็จะยกกระชับ เรียบเนียน อีกทั้งยังมีหัวทิปที่ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อกระชับผิวที่มีความบอบบางบริเวณรอบดวงตา ทำให้แก้ไขปัญหาหย่อนคล้อยของผิวหนังและริ้วรอยรอบดวงตาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งอัลเธอราและเทอร์มาจ เป็นการลงไปฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระดับลึก จึงต้องใช้ระยะเวลาให้ผิวมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำประมาณ 2 สัปดาห์ และจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ จนหลังทำ 2 เดือน ผลที่ได้ก็จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 2 ปี
ที่สำคัญหลังการทำไม่ว่าจะเป็นอัลเธอราหรือเทอร์มาจ คนไข้สามารถแต่งหน้า และกลับไปทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
แต่หากในบางรายที่มีริ้วรอยค่อนข้างลึกหรือรอยตีนกาที่เห็นเด่นชัด ก็ควรทำโบท็อกซ์ร่วมไปด้วย ก็จะทำให้ผิวใต้ตาเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยก็จะจางไปในทันที และจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานราว 6 เดือน โดยโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นชั่วคราว ทำให้ไม่ปรากฎรอยย่นให้เห็น ผิวหนังบริเวณนั้นจะเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
อีกวิธีหนึ่งในการแก้ไขริ้วรอยเล็กๆ และรอยหมองคล้ำรอบดวงตา คือการใช้ แฟรคชันนัล เลเซอร์ เป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำ ด้วยลำแสงขนาดเล็กนับล้านๆ จุด เปรียบเสมือนการถ่ายภาพดิจิตอลแบบพิกเซลต่อพิกเซล โดยสามารถลงลึกได้ทุกความถี่ของผิวหนังแบบจุดเว้นจุด โดยยังคงรักษาเส้นใยผิวหนังที่แข็งแรงไว้ และเซลล์ที่เหลืออยู่ก็จะช่วยเร่งการรักษาผิวหนังภายนอก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยขจัดรอยคล้ำใต้ตา และริ้วรอยหมองคล้ำต่างๆ ให้ดวงตากลับมาสดใสอีกครั้ง เพียงครั้งเดียวก็เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ในไม่กี่สัปดาห์
จะเห็นว่าปัญหาบริเวณเดียว มีวิธีแก้ไขมากมาย ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาของแต่ละคน เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน จึงไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับคนทุกคนนะคะ จึงควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาดูก่อนว่าควรจะรักษาด้วยวิธีใดจึงจะเหมาะสมและได้ผลดีที่สุด
หลังการเข้ารับการดูแลด้วยเครื่องมือแล้ว จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของตัวเองแล้วที่จะต้องดูแลผิวรอบดวงตาให้สวยสดใสดูอ่อนกว่าวัยตลอดไป ด้วยการเลือกใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวรอบดวงตาเป็นประจำ และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาที่เป็น เช่น ถ้ามีปัญหารอยคล้ำใต้ตาจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี ต้องเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารแอคทีฟ ที่ช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรง รอยคล้ำและถุงใต้ตาจางลง แต่หากรอยคล้ำเกิดจากการอดนอน ควรเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
ถ้าเกิดปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาจากการแสดงอารมณ์ เช่น ยิ้ม หัวเราะ ควรเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์คล้ายโบท็อกซ์หรือวิตามินเอ เป็นต้น
วิธีทั้งหมดนี้ต้องร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ทะนุถนอมผิวบริเวณรอบดวงตาอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แค่นี้ดวงตาสวยๆ ก็จะอยู่คู่กับคุณไปอีกนานเลยล่ะค่ะ
แพทย์หญิง นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call center 080-500-0123
