น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วน ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้แล้ว ยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย เรียกได้ว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นไอเทมความงามของสาว ๆ อย่างแท้จริง สำหรับใครที่อยากลองลดความอ้วนด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ต้องกินเท่าไหร่บ้าง เรามีวิธีการกินมาฝากกันค่ะ
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil) คืออะไร
เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากวิธีการสกัดเย็น โดยใช้สารเคมีในการสกัดแยกน้ำมันออกจากเนื้อมะพร้าว ซึ่ง ไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อน จึงยังคงคุณประโยชน์จากมะพร้าวไว้อย่างครบถ้วน จึงสามารถลดความอ้วน และมีวิตามินอีที่ทำหน้าต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้อีกด้วย
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนได้อย่างไร
การกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนเป็นแนวคิดของ Atkins Diet จากทฤษฎี “Coconut Oil Therapy” โดยการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารประเภทแป้งที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งอินซูลิน และส่งผลต่อการสะสมไขมันของร่างกาย แล้วกินไขมัน (น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น) เข้าไปแทนคาร์โบไฮเดรตนั้น ไขมันก็จะไปลดความรู้สึกอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ซึ่งการกินได้น้อยลงก็จะสามารถลดความอ้วนได้นั่นเอง
นอกจากนี้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นยังมี “กรดไขมันอิ่มตัว” ขนาดโมเลกุลปานกลางที่ไม่ค่อยพบในอาหารชนิดอื่น ๆ โดยจะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานได้เร็วขึ้น
โดยมีการศึกษากับผู้หญิงที่มีภาวะอ้วนลงพุง 40 คน อายุระหว่าง 20-40 ปี กลุ่มหนึ่งให้ดื่มน้ำมันถั่วเหลือง กลุ่มสองให้กินน้ำมันมะพร้าววันละ 30 มิลลิลิตร นาน 12 สัปดาห์ ซึ่งทั้งสองกลุ่มจะลดการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แต่เพิ่มโปรตีนและเส้นใยอาหารมากขึ้น ส่วนไขมันนั้นกินเท่าเดิม ร่วมกับการเดินออกกำลังกายอีกวันละ 50 นาทีควบคู่ไปด้วย ผลลัพธ์พบว่าอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่มมีค่า BMI ลดลง แต่มีเพียงกลุ่มสองที่กินน้ำมันมะพร้าวเท่านั้นที่รอบเอวลดลง นั่นหมายความว่าน้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็นลดความอ้วนและลดรอบเอวได้พร้อม ๆ กันนั่นเอง
วิธีการกินน้ำมันมะพร้าวลดความอ้วน
การกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลดความอ้วนไม่มีกฎตายตัว แต่ไม่ควรกินมากจนเกินไป โดยควรกินไม่เกินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อมื้ออาหาร สามารถกินได้ 3 มื้อ หากอยากรู้สึกขับถ่ายมากขึ้น ให้กินน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่น 1 แก้ว ก่อนการกินอาหาร 30 นาที-1 ชั่วโมง เมื่อกินน้ำมันมะพร้าวเข้าไปแล้วไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง จะรู้สึกอยากขับถ่าย
แต่หากใครไม่ชอบการกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นอย่างเดียว ก็สามารถนำมาผสมกับชาร้อน นมร้อน โกโก้ร้อน กาแฟร้อน สมูตตี้ น้ำสลัด ซุบ โจ๊ก แกงจืด น้ำผลไม้ โดยไม่ได้ทำให้อาหารและเครื่องดื่มเปลี่ยนรสชาติความอร่อยไป
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นกับการออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตาม แม้น้ำมันมะพร้าสกัดเย็นจะสามารถช่วยลดความอ้วนได้ เราก็ยังควรออกกำลังกายคสบคู่ไปด้วย โดยให้กินน้ำมันมะพร้าว 1-2 ช้อนโต๊ะ ก่อนการออกกำลังกาย 10 นาที จะช่วยให้เราเผาผลาญได้เท่าเดิม แต่ใช้เวลาน้อยลงนั่นเอง
IV Drip Weight Loss ตัวช่วยลดความอ้วน เผาผลาญไขมัน
จะเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากการออกกำลังกาย ไม่ดูเหนื่อย ไม่โทรม ช่วยให้ดูสดใส และมีชีวิตชีวา รวมส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Apex ซึ่งประกอบไปด้วย
Vitamin B Complex : ช่วยลดภาวะเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด สมาธิไม่ดี มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
Vitamin C : ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้ประโยชน์ ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า
Lipotropic : ช่วยสลายไข เปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงานส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
Vitamin B 12 : เป็นขุมพลังสำหรับร่างกาย ช่วยสร้าง DNA เส้นประสาท และเซลล์เม็ดเลือด ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวิตามิน Vitamin B 12 หากขาดจะทำให้อ่อนเพลียเหนื่อยล้า
L-carnitine : ช่วยการเผาผลาญ สลายไขมันส่วนเกิน (ไตรกลีเซอร์ไรด์) ในเลือด ทำให้การเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอัตราการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักด้วย IV Weight Loss ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ถึง 100 % สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ จึงเป็นผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว และสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ นอกจากนี้สารอาหารต่าง ๆ อย่างกรดอะมิโนแอซิดและวิตามินหลายชนิด เมื่อต้องผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สหรืออาการปวดกระเพราะ และอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ในขณะที่ทำการให้สารอาหารผ่านทาง IV จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น