คนอายุ 50+ น้ำหนักเพิ่มง่ายแถมยังลดน้ำหนักยาก จริง ๆ แล้วปัญหาเรื่องของรูปร่างสัดส่วนในวัยที่อายุมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน หากเรารู้ว่าปัญฆาของเรานั้นเกิดจากอะไร ก็จะช่วยกอบกู้หุ่นพังในวัย 50+ ได้
-
ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง
เมื่อเรามีอายุมากขึ้นอัตราการเผาผลาญพลังงานก็จะลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเปลี่นแปลงไป การที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเราเปลี่ยนไปก็จะส่งผลอย่างมากต่อการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม และทำให้ร่างกายของเราสะสมไขมันมากขึ้นโดยเฉพาะไขมันที่หน้าท้อง สะโพก ต้นแขนและต้นขานั่นเอง
-
มวลกล้ามเนื้อลดลง
โดยปกติร่างกายของผู้หญิงนั้นก็จะสร้างกล้ามเนื้อได้ช้ากว่าผู้ชายอยู่แล้ว ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นและเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ก็จะยิ่งทำให้เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นไปอีก ซึ่งเมื่อมวลกล้ามเนื้อลดลงก็จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อยลงด้วย และส่งผลให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันมากขึ้น
-
ร่างกายเริ่มดื้อต่ออินซูลิน
ภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินหรือ Insulin Resistance เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้ ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือร่างกายจะเกิดการสะสมไขมันมากขึ้น รวมถึงยังเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูงและโรคความดันโลหิตสูงตามมาด้วย ซึ่งวิธีการป้องกันลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง ลดการกินขนมหวานและผลไม้หวานจัด หันไปกินคาร์บเชิงซ้อนและผลไม้ที่ไม่หวานสัก 1 กำมือต่อวัน
-
เริ่มหิวและอิ่มผิดปกติ
เกิดจากการที่ระดับฮอร์โมนแลปตินซึ่งเป็นฮอร์โมนในการควบคุมความอิ่ม และระดับฮอร์โมนเกรลินซึ่งเป็นฮอร์โมนในการควบคุมความหิวผิดเพี้ยนไป ส่งผลให้ร่างกายของเราเริ่มหิวและอิ่มที่ผิดปกติ โดยเราอาจจะมีอาการหิวทั้งที่เพิ่งกินอาหารไปไม่นาน หรืออิ่มและไม่อยากกินอาหารทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไรเลย
-
เริ่มนอนไม่ค่อยหลับ
หลายคนเมื่อมีอายุมากขึ้นก็มักจะมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือหลับได้ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ตื่นแล้วกลับไปหลับต่อไม่ได้ ซึ่งเมื่อเราตื่นขึ้นมาในเช้าก็อาจจะยังรู้สึกเหนื่อย เพลีย อารมณ์ไม่ปกติและอาจส่งผลกระทบไปถึงกิจกรรมตลอดทั้งวันของเราได้ เราควรระวังอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เพราะส่งผลทำให้เราหลับยาก มีอาการร้อนวูบวาบในตอนกลางคืนและลุกมาปัสสาวะบ่อยได้
โปรแกรม 1 week 1 kg. คนอายุ 50+ ก็ลดน้ำหนักได้ไม่ยาก
-
ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape
เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
- Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง” ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
- ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
- Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%
นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา
-
IV WEIGHT LOSS
จะเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากการออกกำลังกาย ไม่ดูเหนื่อย ไม่โทรม ช่วยให้ดูสดใส และมีชีวิตชีวา รวมส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Apex ซึ่งประกอบไปด้วย
Vitamin B Complex : ช่วยลดภาวะเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด สมาธิไม่ดี มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
Vitamin C : ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้ประโยชน์ ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า
Lipotropic : ช่วยสลายไข เปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงานส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
Vitamin B 12 : เป็นขุมพลังสำหรับร่างกาย ช่วยสร้าง DNA เส้นประสาท และเซลล์เม็ดเลือด ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวิตามิน Vitamin B 12 หากขาดจะทำให้อ่อนเพลียเหนื่อยล้า
L-carnitine : ช่วยการเผาผลาญ สลายไขมันส่วนเกิน (ไตรกลีเซอร์ไรด์) ในเลือด ทำให้การเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอัตราการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักด้วย IV Weight Loss ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ถึง 100 % สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ จึงเป็นผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว และสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ นอกจากนี้สารอาหารต่าง ๆ อย่างกรดอะมิโนแอซิดและวิตามินหลายชนิด เมื่อต้องผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สหรืออาการปวดกระเพราะ และอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ในขณะที่ทำการให้สารอาหารผ่านทาง IV จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น
-
Fit Firm
สามารถกระชับผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ใช้เวลาเพียง 30 นาที เป็นเทคโนโลยีแรก และเทคโนโลยีเดียวที่ผสมผสานพลังงานคลื่นวิทยุเข้ากับพลังเสียงอัตร้าซาวด์ ส่งพลังงานเข้าถึงเนื้อเยื่อผิวในหลายระดับความลึก จึงสามารถกำจัดไขมันและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวตั้งแต่ในระดับลึกจนถึงระดับผิวชั้นบน มีหัวส่งความเย็นที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมสอดคล้องกับการทำงานตลอดเวลา จึงปลอดภัยสูงสุด ไม่เจ็บ ตลอดการทำทรีทเมนท์
ทำสัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่องทั้งหมด 4 ครั้งต่อเดือน ผลลัพธ์หลังทำกระชับทันที และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำครั้งสุดท้าย 1-3 เดือน ทำได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ทั่วใบหน้า ลำคอ แขน ขา ก้น หน้าท้อง และอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีหลายหัวที่ใช้ทำ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ