เซลลูไลท์เป็นปัญหาที่สามารถเกิดได้กับทุกคน ทั้งคนที่มีรูปร่างอ้วนและผอมบาง หรือแม้แต่ในช่วงเวลาที่เรากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายมากกว่าปกติ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายและการใช้ชีวิต ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนที่ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของหุ่นเกิดความไม่สบายใจ
เซลลูไลท์ (Cellulite) เป็นเซลล์ไขมันที่ไม่สามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้หมด ซึ่งจะกระจายอยู่ทั่วร่างกายในชั้นผิวหนังแท้ และแทรกขึ้นในผิวด้านบน มีลักษณะขรุขระ จับตัวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน มักพบได้บริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขน ก้น หน้าท้อง ซึ่งสำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์มักมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้นจาก 4 ปัจจัยดังนี้
4 ปัจจัย ทำให้เกิดเซลลูไลท์ ขณะตั้งครรภ์
- ผิวแห้งในขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์ที่มีระดับสูงขึ้น ทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อผิวพรรณอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ผิวเกิดอาการแห้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งอยู่แล้วก็จะแห้งขึ้นไปอีก ซึ่งผิวแห้งนี้เองจะทำให้เซลล์ไขมันถูกดันออกมาเรียงตัวไม่สม่ำเสมอ ทำให้เราเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สาเหตุของการเกิดไขมันสะสมที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเซลลูไลท์ แต่ผิวแห้งจะเป็นสาเหตุให้เซลลูไลท์เห็นชัดเจนมากขึ้นในขณะตั้งครรภ์นั่นเอง
วิธีการดูแลผิวในขณะตั้งครรภ์ให้คุณแม่ดื่มน้ำมากกว่าปกติ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากนี้ น้ำยังสามารถช่วยไปหล่อเลี้ยงเซลล์ให้ทำงานได้ตามปกติ ช่วยเรื่องการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ทำให้เห็นเซลลูไลท์ได้น้อยลงได้นั่นเอง
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล
ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมาก ทำให้การทำงานของหลอดเลือดมีความผิดปกติทำให้น้ำที่อยู่ในหลอดเลือดออกมาจากหลอดเลือด และเข้าไปอยู่ในเซลล์ผิวหนังทำให้เกิดการคั่งของน้ำจนตัวบวม และร่างกายก็ไม่สามารถขับของเสียออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสะสมของไขมันและของเสียจนเกิดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงฮอร์โมเอสโตรเจนได้ แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์สามารถใช้วิธีการขัดผิวและการนวดผิว เพื่อทำให้เลือดและระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่ใต้ชั้นผิว จึงสามารถทำให้ลดเซลลูไลท์ได้
- การกินที่มากขึ้น
ในขณะตั้งครรภ์คุณแม่จะหิวบ่อย และกินมากขึ้น เนื่องจากต้องกินเผื่อลูกในท้อง ซึ่งหากคุณแม่กินเกินความต้องการของร่างกายและลูกน้อย หรือตามใจปากตัวเอง จำทำให้ไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเกิดเป็นเซลลูไลท์ได้
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จึงควรให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหาร โดยลดปริมาณอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาล ที่เมื่อกินในปริมาณมากเกินไปจะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย แต่การลดปริมาณจะต้องไม่มากเกินไป จนเกิดเป็นการอดอาหาร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในท้องได้
- ขาดการออกกำลังกาย
ในขณะการตั้งครรภ์หลาย ๆ คนจะนอนมากขึ้น และไม่ได้ออกกำลังกายเหมือนก่อนตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน และเซลลูไลท์ได้ ซึ่งความจริงแล้วในขณะเราตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายเบา ๆ อย่างพิลาทิสได้ แต่ต้องอยู่ในการดูแลหรือได้รับอนุญาตจากแพทย์ หรือหากไม่กล้าออกกำลังกายก็ควรหมั่นลุกขึ้นเดินบ่อย ๆ ประมาณ 15 นาที
หากคุณแม่ทำตามที่เราแนะนำได้ก็จะช่วยลดเซลลูไลท์ได้นั่นเอง ซึ่งหากในบางข้ออาจจะฝืนเกินไปหรือทำไม่ได้ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องกดดันตัวเอง ไม่ต้องเครียด เมื่อคุณแม่คลอดลูกน้อยแล้วและยังมีเซลลูไลท์สะสมอยู่ หากร่างกายพร้อมแล้วแต่ยังไม่พร้อมสำหรับการออกกำลังกาย คุณแม่สามารถใช้เทคโนโลยีลดเซลลูไลท์เป็นตัวช่วยได้ค่ะ
ตัวช่วยลดเซลลูไลท์ที่ได้ผลลัพธ์ดี ใช้เวลาไม่นาน ทำควบคู่ไปกับเคล็ดลับข้างต้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เราแนะนำ X-WAVE พลังงานการสั่นสะเทือนของคลื่นสะท้อน หรือ Acouting wave pulses ที่ออกแบบพิเศษ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนัง กระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว และบางส่วนถูกดูดซึมออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ช่วยผิวกระชับ เรียบเนียน แน่นขึ้น
***จากการศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์พบว่า การยืดหยุ่นของผิวดีขึ้นถึง 110% ในผู้หญิง สามารถเห็นผลชัดเจนตั้งแต่การรักษาครั้งแรก แต่ละครั้งใช้เวลา 30-60 นาที ทำ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ประมาณ 6-10 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณเซลลูไลท์ของผู้ที่ทำด้วยค่ะ
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง X-WAVE ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration)
