ออกกำลังกายลดน้ำหนักด้วย “การวิ่ง” เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ง่าย ใครก็สามารถทำได้ แถมยังสามารถเผาผลาญพลังงงานได้ดีมาก ๆ ซึ่งส่งผลให้เราสามารถลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจึงมีคู่มือวิ่งลดน้ำหนักมาฝากกัน
โดยการเริ่มวิ่งหากเราไม่ได้วิ่งลดน้ำหนักมานาน หรือไม่เคยออกกำลังกายลดน้ำหนักเลย ควรเริ่มต้นด้วยการเดิน 2 นาที แล้วตามด้วยการวิ่งช้า ๆ 1 นาที หรือวิธีนี้ที่เรียกว่า run-walk-run จนกว่าเราจะสามารถวิ่งได้ 30 นาที โดยเริ่มแรกควรวิ่งสามวันต่อสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นถึงห้าวันต่อสัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ
การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะการวิ่งลดน้ำหนัก
รองเท้า : ควรเลือกรองเท้าจากความสูง การโค้งเว้าของเท้า การรองรับแรงกระแทก และน้ำหนักของรองเท้า
เสื้อผ้า : ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถระบายความชื้นได้ เช่น ผ้าไนลอน โพลีเอสเตอร์ และสแปนเด็กซ์ สำหรับใครที่ต้องการวิ่งเวลากลางคืน ให้สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง เพื่อความปลอดภัย
สปอร์ตบรา : สปอร์ตบราจะช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวให้หน้าอก ทำให้ช่วยลดอุปสรรคในการวิ่งได้
วิ่งลดน้ำหนัก ลดจริง เผาผลาญสุด
วอร์มอัพก่อนวิ่ง : ก่อนการเริ่มวิ่งสิ่งสำคัญ คือ “การวอร์มกล้ามเนื้อ” เพื่อที่จะเพิ่มความคล่องตัวตอนวิ่งได้มากขึ้น ทำให้ข้อต่อของเราสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันพักผ่อน : ไม่ว่าเราจะเป็นมือใหม่หรือนักกีฬามืออาชีพ เราก็ไม่ควรวิ่งทุกวัน เพราะว่าการที่กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อออกแรงทุกวัน อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ และเกิดความเหนื่อยหน่ายได้ ดังนั้น เราควรตั้งเป้าในการพักผ่อนอย่างน้อย 1-2 วัน/สัปดาห์
ระยะทาง : หากเราต้องการเพิ่มระยะทาง ควรเพิ่มระยะทางไม่เกิน 10% ต่อสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เราออกแรงมากเกินไปและได้รับบาดเจ็บ
ก่อนวิ่งกินอะไร : การวิ่งต้องใช้พลังงานที่มาจากอาหาร เราจึงควรกินอาหารล่วงหน้า 1-2 ชั่วโมง แต่เราไม่ควรกินอาหารที่ย่อยได้ยาก เช่น เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมได้ช้ากว่า ซึ่งอาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด และเป็นตะคริวระหว่างวิ่งได้ แต่ให้เน้นการกินอาหารที่ประเภทคาร์โบไฮเดรตแบบง่าย ๆ ที่ร่างกายย่อยได้เร็ว ได้แก่ ผลไม้ ขนมปังปิ้งกับแยม สมูทตี้
กินอะไรหลังวิ่ง : ควรกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและโปรตีนรวมกันภายใน 30 นาทีหลังการวิ่ง โดยคาร์โบไฮเดรตจะคืนพลังงานที่เก็บสะสมไว้ และโปรตีนจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ข้าวกล้องแซลมอนหรือไก่ ไข่ลวกผลไม้ นอกจากนี้ เรายังควรดื่มน้ำปริมาณมากหลังวิ่ง เนื่องจากภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ปวดหัว และเวียนศีรษะได้
อย่างไรก็ตาม การวิ่งลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายที่สามารถลดน้ำหนักได้จริง และเร่งการเผาผลษญได้อย่างดี แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นอาจจะรู้สึกว่าเหนื่อย และวิ่งได้ไม่นาน การลดน้ำหนักจริงค่อย ๆ เป็นไป ดังนั้น เราอาจจะต้องหาตัวช่วยที่เพิ่มความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ดีขึ้น
ตัวช่วยลดความอ้วนไม่ต้องออกกำลังกายให้เหนื่อย
Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน
