กว่าจะลดน้ำหนักไปจนถึงในระดับที่พึงพอใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเองเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากบางคนเคยน้ำหนักตัวมาก ๆ การลดน้ำหนักก็เปรียบเสมือนการเดินทางไกลที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างมากเลยทีเดียว ทว่าการลดน้ำหนักลงคราวละมาก ๆ ก็ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป เพราะเมื่อรูปร่างเริ่มเล็กลงก็มักจะเจอกับปัญหาผิวเหี่ยว ไม่กระชับ หรือมีรอยย่นตามบริเวณที่เคยเป็นรอยแตกของผิวมาก่อน ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง แต่ปัญหา ผอมแล้วผิวเหี่ยว เกิดจากอะไร มีวิธีแก้ปัญหาหรือไม่ ลองมาดูคำตอบกันค่ะ
ปัญหา ผอมแล้วผิวเหี่ยว ซึ่งเกิดหลังจากลดน้ำหนักมาก ๆ เป็นสิ่งที่พบได้ในคนที่เคยมีน้ำหนักมาก ๆ และมีรูปร่างย้วย เนื่องจากผิวหนังของคนเรามีลักษณะที่ค่อนข้างยืดหยุ่น ดังนั้นเมื่อมีไขมันสะสมที่ร่างกายมากขึ้น ผิวหนังจะเกิดการขยายตัวออกเพื่อรองรับปริมาณไขมันสะสมที่มากขึ้น และหากมีลดลงของไขมันสะสมตามร่างกายอย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้ผิวหนังคืนสู่สภาพเดิมได้ไม่ทัน นอกจากนี้ความยืดหยุ่นของผิวยังขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวไม่ว่าจะเป็น อายุ กรรมพันธุ์ สารอาหาร ปริมาณน้ำที่บริโภคในแต่ละวัน การสูบบุหรี่ ซึ่งถ้าหากความยืดหยุดของผิวลดลงก็จะทำให้ผิวหนังไม่สามารถคืนตัวหลังจากน้ำหนักลดลงปริมาณมาก ๆ ในเวลาอันรวดเร็วได้ ผลที่ตามมาก็คือจะเกิดปัญหาผิวเหี่ยว มีผิวหนังส่วนเกิน ผิวย้วย ซึ่งถ้าหากไม่รักษาความสะอาดให้ดี ก็อาจเกิดปัญหาการเสียดสีของผิว เกิดการอับชื้น และนำมาสู่การติดเชื้อที่ผิวหนังได้
อยากผอม แต่ไม่อยากผิวเหี่ยว ต้องทำอย่างไร ?
หากคุณต้องการจะมีรูปร่างที่ดีมากขึ้นโดยไม่มีปัญหาผิวเหี่ยวหลังน้ำหนักลด คุณควรเริ่มออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งควบคู่กับการลดน้ำหนักไปด้วย เพราะการที่จะมีผิวหนังและกล้ามเนื้อที่กระชับได้นั้น การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งสามารถช่วยได้เป็นอย่างดีเลย อีกทั้งยังควรค่อย ๆ ลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรลดให้มากกว่าสัปดาห์ละ 1 กิโลกรัม เนื่องจากการลดน้ำหนักมาก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ได้ส่งผลแค่เพียงเรื่องผิวพรรณ แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
หรือถ้าหากคุณไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย แต่ต้องการจะมีรูปร่างที่ดี ไม่มีผิวย้วยตามมาในภายหลัง ปัจจุบันก็มีทรีตเมนต์ลดสัดส่วนหลายวิธีที่สามารถช่วยได้ แต่ถ้าคุณต้องการวิธีการลดสัดส่วน สลายไขมันส่วนเกินที่ไม่ทำให้คุณกังวลใจว่าจะส่งผลกระทบอื่น ๆ ตามมาหรือไม่ เราขอแนะนำเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ค่ะ
CoolSculpting เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น วิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินของร่างกายที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA เป็นทรีตเมนต์ลดสัดส่วนที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเพราะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นในการลดสัดส่วน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง หรือบริเวณอื่น ๆ โดยรอบ
ซึ่งในการทำ CoolSculpting จะมีการนำ Applicator วางลงบนบริเวณที่ต้องการลดสัดส่วน และปล่อยความเย็นอุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 35 – 75 นาที เซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำก็จะตาย และถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ ใช้เวลาเพียง 1 – 3 เดือนคุณก็มีรูปร่างที่ดีขึ้น โดยไม่มีปัญหาผิวเหี่ยว ผิวย้วย หรือรอยแตกให้กังวลใจอีกต่อไป
ซึ่งที่ APEX เราก็มีเทคโนโลยี CoolSculpting และทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรม และมีประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีดังกล่าวประจำในทุก ๆ สาขา คุณสามารถเข้าไปเพื่อเข้ารับคำปรึกษา และออกแบบรูปร่างใหม่ได้เลย อย่าปล่อยให้รูปร่างที่ไม่ได้ดั่งใจทำลายความมั่นใจที่คุณเคยมีอีกเลย ให้ APEX ช่วยดูแลคุณด้วย CoolSculpting แล้วรูปร่างที่ดีจะไม่ใช่ความฝันที่ไกลตัวอีกต่อไปค่ะ
