ดูดไขมัน Vaser Tite ทางลัดของคนอ้วนอยากผอม

สวัสดีค่ะ วันนี้จ๊ะเอ๋มาต่อจากภาคที่แล้วที่จ๊ะเอ๋เคยได้ทำการดูดไขมัน จากนั้นก็นำไขมันที่ได้มาฉีดเติมเต็มบนใบหน้า (Fat Transfer) ซึ่งทุกคนสามารถอ่านรีวิวย้อนหลังได้ที่ Cell assisted Lipo-Transfer ส่วนสำหรับบทความนี้จะเป็นเรื่องของพุงและต้นขาค่ะ ว่าหลังจากที่จ๊ะเอ๋ได้ดูดไขมันส่วนเกินออกไปแล้วนั้นสัดส่วนที่ได้เป็นยังไง ตามมาดูกันค่ะ

ก่อนดูดไขมัน

เอวมันก็จะหนาๆ ขามันก็จะดูตันๆ หน่อย

ดูดไขมัน BodyTite
ก่อนดูดไขมัน
ดูดไขมัน BodyTite
ก่อนดูดไขมัน

ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนไปก่อนที่จ๊ะเอ๋จะดูดไขมันเนี่ย จ๊ะเอ๋มีปัญหาเรื่องส่วนเกินตรงช่วงเอวกับต้นขา สร้างความยุ่งยากในการแต่งตัวมากค่ะ ซึ่งโดยปกติจ๊ะเอ๋ก็จะออกกำลังกายบ้าง แต่ว่าไขมันส่วนเกินบางจุดบนร่างกาย แค่การออกกำลังกายคงไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมด จ๊ะเอ๋จึงเลือกใช้วิธีลัดโดยการดูดไขมัน เพราะสามารถกำจัดไขมันได้อย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจนและไม่ต้องพักฟื้นนาน

หลังดูดไขมัน

ดูดไขมัน BodyTite
หลังดูดไขมัน

หลังดูดไขมันก็ใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะ อาจจะมีปวดๆ บ้าง แต่ไม่เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน จ๊ะเอ๋สามารถไปทำงานได้ตามปกติ เที่ยว ช้อปปิ้ง เดินเล่นได้ชิลๆ แต่ช่วงแรกต้องงดออกกำลังกายหนักๆ ก่อนนะคะ ส่วนอาการบวมและรอยเขียวช้ำต่างๆ ก็หายเร็วมาก

ส่วนแผลก็เล็กนิดเดียวแทบมองไม่เห็น

เปรียบเทียบก่อนและหลังการดูดไขมัน

หลังทำต้นขาดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

ดูดไขมัน BodyTite
เปรียบเทียบก่อนและหลังการดูดไขมัน
ดูดไขมัน BodyTite
เปรียบเทียบก่อนและหลังการดูดไขมัน
ดูดไขมัน BodyTite
เปรียบเทียบก่อนและหลังการดูดไขมัน

ตอนนี้ครบ 2 เดือนแล้วค่ะ สำหรับการดูดไขมันที่ต้นขาและเอว ผลลัพธ์ของแต่ละคนนั้นคงจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวินัยและโครงสร้างสรีระของแต่ละคนด้วย แต่สำหรับตัวเอ๋นั้นสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนเลย เพราะเราออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย แถมยังเข้ามานวดกระชับผิวที่ Apex Medical Center เป็นประจำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่พึงพอใจ วิถีคนอ้วน อยากผอมก็ต้องอดทนนะคะ!