5 ปัจจัย ทำให้ผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ก่อนวัย

ผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เปลี่ยนแปลง แต่หลายคนกลับเจอกับปัญหาผิวเหี่ยวและหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ซึ่งปัญหานี้มีโอกาสเกิดได้กับทุกคน เนื่องจากปัจจัยการใช้ชีวิตต่าง ๆ หากใครที่หลีกเลี่ยงได้ทันก็อาจจะสามารถป้องกันปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ก่อนวัยได้ทัน ใครที่ยังไม่รู้ว่าผิวเราเหี่ยวหย่อนคล้อยได้จากอะไร เราไปดูกัน

 

  1. อายุ

Free photo thoughtful blonde middle aged woman ponders on something keeps hand near face has healthy skin minimal makeup makes choice wears white blouse poses indoor blank copy space for your promotion

เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายที่ให้ผิวตึงกระชับจะลดลง ผิวจึงค่อย ๆ เกิดความหย่อนคล้อยคล้อยทำให้ผิวเหี่ยวย้อยลงมา โดยช่วงอายุ 20+ คอลลาเจนเกิดการเสื่อมสลายไป มีการสร้างใหม่น้อยลง ผิวเริ่มมีริ้วรอยและเกิดความหย่อนคล้อย ช่วงอายุ 30+ ชั้นหนังกำพร้ามีการผลัดตัวช้าลง ทำให้เริ่มเห็นริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ชัดเจนขึ้น ช่วงอายุ 40+ เนื้อเยื่อพังผืดที่อยู่ระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ ทำหน้าที่โอบอุ้มผิวให้มีความกระชับได้รูป เริ่มเสื่อมสภาพและอ่อนแรง ทำให้การพยุงผิวแย่ลง รูปหน้าจึงเริ่มหย่อนคล้อย และช่วงอายุ 50+ พอเข้าสู่วัยนี้ ผิวหนังเริ่มบางลง มีการหย่อนคล้อยอย่างมาก

 

  1. แสงสีฟ้า

Free photo playing. caucasian girl's portrait isolated on dark studio background in neon light. beautiful female model using tablet. concept of human emotions, facial expression, sales, ad, modern tech, gadgets.

แสงสีฟ้า (Blue Light) ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในแสงอาทิตย์เท่านั้น แต่ยังอยู่ตามหน้าจอโทรศัพท์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่เราต้องใช้ทุกวัน ทำให้หลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งหากเราไม่ได้หาทางป้องกันแสงสีฟ้าจะส่งผลต่อผิวของเราโดยตรง สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกไปทำลายคอลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวของเราเสื่อมสภาพเร็ว หย่อนคล้อย ดูแก่ก่อนวัยนั่นเอง

 

  1. มลภาวะที่เป็นพิษ

Free photo view of metro city buildings cityscape

สภาพอากาศในปัจจุบันเต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และมลพิษต่าง ๆ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ จนมีส่วนทำลายคอลาเจน และส่งผลทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอย และผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ก่อนวัยได้

 

  1. พักผ่อนไม่เพียงพอ

Free photo tired woman yawning after too long work on laptop

ช่วงไหนที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือนอนดึกมาก ผิวจะหมองคล้ำแล้วก็โทรม เนื่องจากช่วงที่เรานอนหลับร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ออกมาเพื่อซ่อมแซมร่างกายขณะหลับ ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง ผิวชุ่มชื้น และเพื่อสร้างคอลาเจนสำคัญต่อโครงสร้างผิว ทำให้ผิวตึง ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนคล้อย แต่หากเรานอนดึก นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ออกมาน้อย ทำให้ผิวของเราเหี่ยวเร็ว และเกิดริ้วรอยก่อนวัยเร็วขึ้น

 

  1. ความเครียด

Free photo exhausted young woman touching her head with eyes closed. female exchange worker suffering from unbearable headache. health concept

ความเครียดเป็นอีกสาเหตุของปัญหาผิวหลาย ๆ ปัญหาผิว รวมไปถึงปัญหาผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยก่อนวัย และผิวหนังมีความหย่อนคล้อย เพราะความเครียดส่งผลทำให้ร่ายกายหลั่งฮอร์โมน Cortisol หรือฮอร์โมนความเครียดออกมา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผิวพรรณ เพราะฮอร์โมน Cortisol จะเข้าไปลดความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และนอกจากนั้น ผลของความเครียดยังมีส่วนเข้าไปยับยั้ง Growth Hormone ทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน มีริ้วรอยก่อนวัย และทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะอายุเยอะหรืออายุน้อย หากมีปัญหาหย่อนคล้อยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ก็สามารถลดปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อยได้ระดับหนึ่ง แต่หากปัญหาเหล่านี้หนักจนแก้ไขได้ยากเรามีตัวช่วยจัดการผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ก่อนวัยอย่างเห็นผลมาฝากกัน 

 

Thermage FLX Body ตัวช่วยกระชับผิว เหี่ยวย้อย ก่อนวัย

Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดียว (Monopolar RF) โดยปล่อยพลังงานความร้อนกระจายตัวลงไปสู่ชั้นใต้ผิวหนังที่ความลึกถึง 4.3 มิลลิเมตร ได้แก่ 

  • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิว
  • ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว
  • ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล

โดย Thermage FLX ที่สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว จึงช่วย “ฟื้นฟูผิว” ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น และเกิดการ “กระตุ้นการสร้างคลอลาเจนและอิลาสตินใหม่” ขึ้นมา 

 

ผลลัพธ์หลังทำ

ผิวหนังกระชับ เรียบเนียบ มีความยืดหยุ่น แน่นเฟิร์ม ไม่ห้อยย้อย หลังทำทันที 20-30% และค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนมากขึ้น 2-6 เดือน โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีดสารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ โดยผลลัพธ์ในการทำเทอร์มาจครั้งเดียว อยู่ได้นาน ได้ถึง 1 ปี

 

Thermage FLX เจ็บไหม

มี Vibration ระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น และช่วยลดความเจ็บลง และในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมาจะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn 

 

หลังทำ Thermage FLX ดูแลอย่างไร ?

หลังทำอาจมีผิวแดง ชมพูระเรื่อหรืออาจมีอาการหน้าบวมเล็กน้อย สามารถหายได้เอง ประมาณ 1-2 ชั่วโมงครับ หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ให้พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ ทาครีมกันแดดทุกครั้ง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์

 

ความปลอดภัย

มีผลงานวิจัยทางการแพทย์รองรับเรื่องผลการรักษาและความปลอดภัย มากกว่า 50 ฉบับ ได้รับรางวัล                 Best new technology – (2017 Thermage® FLX system) The Aesthetic Guide และยังเป็นทรีตเมนต์การยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูงสุดมากกว่า 2 ล้านทรีตเมนต์ทั่วโลก  

 

 

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ Thermage ทรีตเมนต์ที่มีผลงานวิจัยรองรับมากมาย ที่บ่งบอกว่าสามารถส่งพลังงานได้ว่าลึกและร้อนเพียงพอต่อการ ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยหดตัว 

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/