ทราบแล้วเปลี่ยน 7 สาเหตุที่ทำให้ กลั้นฉี่ไม่อยู่ !

กลั้นฉี่ไม่อยู่
ในปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ทั้งการเดินทางไปกลับนาน ๆ หรืออาชีพการงานสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ด้วยเหตุนี้สาว ๆ ส่วนใหญ่จึงต้องพยายามกลั้นปัสสาวะอย่างช่วยไม่ได้ หรือหลาย ๆ ครั้งอาจทำโดยไม่รู้ตัวจนติดเป็นนิสัย แรก ๆ อาจไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก ทว่าหากคุณกลั้นปัสสาวะไปนาน ๆ ก็สามารถนำไปสู่ปัญหา กลั้นฉี่ไม่อยู่ หรือปัสสาวะเล็ด ซึ่งอาจส่งผลให้ขาดความมั่นใจในระยะยาว และนอกเหนือจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้สาว ๆ ต้องเสี่ยงต่อภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่อีกด้วยค่ะ ได้แก่

  • การสูบบุหรี่
  • ดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมมากเกินไป เนื่องจากในเครื่องดื่มเหล่านี้มีสารที่กระตุ้นให้เกิดการปัสสาวะบ่อย
  • อายุที่มากขึ้น จึงเกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน
  • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงจะส่งผลให้เยื่อบุในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะเสื่อมสภาพ
  • ภาวะน้ำหนักตัวมาก หรือเป็นโรคอ้วน
  • ท้องผูกเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยที่ระบบประสาทส่วนควบคุมกระเพาะปัสสาวะสูญเสียจากอุบัติเหตุบริเวณไขสันหลัง หรือภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน

กลั้นฉี่ไม่อยู่ รักษาอย่างไร ?

วิธีป้องกันหรือรักษามักจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของอาการค่ะ ทว่ายังมีวิธีที่ช่วยบรรเทาภาวะปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในเบื้องต้นให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเองค่ะ

  1. งดสูบบุหรี่ 

การสูบบุหรี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดค่ะ เนื่องด้วยสารต่าง ๆ ในควันบุหรี่สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และขับออกทางกระเพาะปัสสาวะได้ อีกทั้งสารก่อมะเร็งจากบุหรี่ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย ฉะนั้นหากคุณมีภาวะปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ควรงดสูบบุหรี่จึงจะดีที่สุดค่ะ

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ในหนึ่งวันคุณควรดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วเป็นอย่างน้อยค่ะ เพื่อให้ร่างกายสามารถขับปัสสาวะได้เป็นปกติ และทางที่ดีควรงดเว้นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม เพราะจะกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติได้

  1. ฝึกปัสสาวะให้เป็นปกติ 

อย่าลืมคอยหมั่นสังเกตตัวเองให้ไปเข้าห้องน้ำโดยไม่เผลอกลั้นปัสสาวะด้วยนะคะ ซึ่งโดยปกติแล้วคุณควรปัสสาวะทุก 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 4-8 ครั้งค่ะ

  1. บริหารอุ้งเชิงกราน

อีกวิธีคือควรฝึกขมิบช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอค่ะ เช่น ขมิบค้างไว้ 5 วินาที และค่อย ๆ ขยับเพิ่มเป็น 15 วินาที หากเบื้องต้นคุณไม่ได้มีอาการรุนแรง วิธีนี้จะสามารถช่วยให้อาการค่อย ๆ เบาลงค่ะ

  1. ลดน้ำหนัก

น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรืออ้วนมากจนเกินไปเป็นอีกสาเหตุของปัญหาปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นไม่อยู่ค่ะ ฉะนั้นการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะช่วยให้อาการและความเสี่ยงลดลงได้เช่นกัน

เมื่อคุณสาว ๆ ได้ทราบถึงสาเหตุและวิธีดูแลรักษาอาการปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่กันไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบในระยะยาว อย่าลืมหันกลับมาสังเกตพฤติกรรม และดูแลใส่ใจตัวเองกันให้มากขึ้นนะคะ เพราะอาการเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนอาจก่อให้เกิดความเครียดสะสม และขาดความมั่นใจได้ง่าย ๆ แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนทดลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือลองวิธีอื่น ๆ แล้วยังไม่ได้ผล ยังมีอีกหนึ่งหนทางดี ๆ ที่รักษาภาวะเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ และนั่นก็คือนวัตกรรมล่าสุดอย่าง Emsella หรือเก้าอี้รีแพร์นั่นเอง 

การแก้ไขภาวะปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ของสาว ๆ จะไม่เป็นปัญหายุ่งยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำเลเซอร์รีแพร์ Vaginal Lift แล้วค่ะ 

Vaginal Lift คือเลเซอร์รีแพร์สำหรับดูแล และส่งเสริมสุขภาพจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสี่ยงกับการเจ็บตัว ปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากล ปราศจากผลข้างเคียงกวนใจ และแน่นอนว่าไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จอีกด้วยค่ะ Vaginal Lift เหมาะกับผู้หญิงทุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความกระชับของช่องคลอด กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อย มีปัญหาปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ทั้งนี้ผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาจุดซ่อนเร้นก็สามารถทำเพื่อยกกระชับจุดซ่อนเร้นภายในให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยตกแต่งภายนอกของจุดซ่อนเร้นให้ดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ได้อีกด้วยค่ะ

ที่ APEX เรามีทีมงานมืออาชีพ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณด้วยนวัตกรรม เลเซอร์รีแพร์ Vaginal Lift ตลอดการรักษา สาว ๆ จึงบอกลาปัญหาปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ไปได้เลย รับรองว่าคุณจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมโดยไร้กังวลค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen