เซลล์ไขมัน (adipocyte) มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ ขนาดประมาณ 0.1 มม. รูปร่างคล้ายวงแหวน โดยมีก้อนไขมันอยู่ตรงกลาง บริเวณเยื่อผิวเปลือกของเซลล์ไขมันมีฐานรับ (receptors) สำหรับพวกฮอร์โมน เช่น insulin, glucocorticoids, growth hormone และ noradrenalin ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งตัวรับและปล่อยไขมันออกจากตัวเซลล์ พบว่าเซลล์ไขมันนั้นหลั่งฮอร์โมน leptin ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความอยากอาหาร เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กมาก แต่ก็โตได้เหมือนจะไม่มีขีดจำกัด ทำหน้าที่ที่คล้ายกับโรงงานเคมีเล็กๆ โดยการดูดและปล่อยสารบางอย่างอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของร่างกาย
เมื่อปริมาณแคลอรีที่รับเข้าสูงกว่าปริมาณที่ใช้ไป พลังงานส่วนเกินก็จะถูกเก็บสะสมไว้เพื่อใช้ในอนาคต เซลล์ไขมันยังเป็นที่กักเก็บสารพิษต่างๆ สารพิษเหล่านี้ได้มาจากอาหาร และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา รวมถึงสิ่งที่ตกค้างมาจากขบวนการเผาผลาญของร่างกาย รวมถึงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิด acid ซึ่งในคนที่สุขภาพดีสารพิษเหล่านี้จะถูกขับออกจากร่างกายผ่าน ทางลำไส้ใหญ่ ตับ ปอด ไตและผิวหนัง แต่ถ้าขยะหรือสารพิษมีมากเกินที่อวัยวะเหล่านั้นจะขับออกได้ ร่างกายก็จะนำสารพิษเหล่านี้ไปกักเก็บไว้ที่เซลล์ไขมันแทน ซึ่งเป็นกลไกเพื่อปกป้องตัวเองของร่างกายจากสารพิษ ต้องขอบคุณเซลล์ไขมันผู้เสียสละตัวเองดูดซับสารพิษมากมายให้กับอวัยวะอื่นๆ
แล้วอะไรที่ทำให้เซลล์ไขมันเปลี่ยนไป? จากเซลล์ไขมันผู้แสนดี เสียสละ และทำทุกอย่างเพื่อปกป้องร่างกาย ต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม และกลายเป็นศัตรูตัวร้าย ผู้ที่สามารถทำลายสุขภาพได้ขนาดนั้น
เนื่องจากเซลล์ไขมันถ้าหากเกิดขึ้นแล้ว มันก็จะอยู่กับเราไปตลอด ไม่มีวันพรากจากร่างกายไปได้ง่ายๆ เซลล์ไขมัน เป็นเซลล์ที่มีความน่าทึ่งเป็นอย่างมาก มันเป็นเซลล์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในร่างกายก็ว่าได้ ไม่มีวันตาย เมื่ออดอาหารเซลล์ไขมันก็เพียงแต่ฟีบเล็กลง แต่ไม่ได้หายไปไหน และสามารถโตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เซลล์ไขมันสามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ถึง 4 เท่าจากเซลล์ไขมันปกติ และเมื่อมันบรรจุไขมันไว้จนเต็มเปี่ยมจนไม่สามารถจะกักเก็บเพิ่มได้ ก็จะแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ไขมันใหม่ การลดน้ำหนักจะทำให้เซลล์ไขมันหดเล็กลง แต่ยังมีจำนวนเท่าเดิม และทำให้ขบวนการเผาผลาญลดลง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายกลับมามีพลังงานส่วนเกินมากกว่าปริมาณที่ใช้ เซลล์ไขมันก็จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีก นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่คนลดน้ำหนักกลับมาอ้วนได้เร็วกว่าคนที่ไม่เคยอ้วน
การนวดแรงๆ ช่วยกำจัดไขมันได้จริงหรือ?
คำตอบคือ ไม่จริง เพราะการนวดจะช่วยช่วยให้เกิดการไหลเวียนของเลือด และระบบน้ำเหลืองในร่างกายดีขึ้น แต่ไขมันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ผนังเซลล์ไขมันมีความแข็งแรงมาก ดังนั้นการนวดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและปลดปล่อยไขมันออกมาจนถูกดูดซึมได้ การกำจัดไขมันออกจากร่างกายหรือกำจัดไขมันแบบถาวร ทำได้เพียงใช้เครื่องมือทางการแพทย์เท่านั้น
แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถกำจัดไขมันออกได้ นั่นก็คือ CoolSculpting ซึ่งเป็นการกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายด้วยความเย็น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บและไม่มีแผล ซึ่งในการทำ CoolSculpting อุปกรณ์จะส่งความเย็นในอุณหภูมิระดับ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส เข้าไปใต้ผิวหนังและทำให้เซลล์ไขมันตายลง จากนั้นเซลล์ไขมันก็จะถูกกำจัดออกมาผ่านกลไกของร่างกายโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ตามมา อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้นหรือสวมใส่ชุดรัดรูปเพื่อพยุงรูปร่างเหมือนการผ่าตัดดูดไขมัน
ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพของ CoolSculpting ในการทำแต่ละครั้งสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้มากถึง 20-30% โดยจะสามารถเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่หลังทำ และจะยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ชัดเจนเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีรูปร่างที่ดีอย่างที่ต้องการได้อย่างไร้กังวล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
