เชื่อว่าหลายคน คงอยากได้รูปทรงจมูกสวยเป็นที่นิยม เพราะจมูกเป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า ทำให้ไม่ว่าใครก็ตามสามารถเห็นได้ชัดเจน การที่มีรูปทรงจมูกที่สวย ทำให้สร้างความมั่นใจของเราได้ และเพียงแค่มีทรงจมูกที่พอดีกับใบหน้า ก็สามารถช่วยทำให้ดูดีขึ้นมาเลยทีเดียว แต่การจะได้รูปทรงจมูกที่สวยงาม บางครั้งก็ต้องพึ่งมือหมอ แต่มีวิธีอื่นไหมที่สามารถช่วยทำจมูกสวยได้? วันนี้ขอมาแนะนำวิธีดึงจมูกกันง่ายๆ ที่จะช่วยให้จมูกโด่งสวย
- ดึงบริเวณปลายจมูก ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ ดึงปลายจมูกเข้าออกเบาๆ ประมาณ 3-5 นาที จะช่วยให้ปลายจมูกเชิ่ดออกมาเล็กน้อย ช่วยเสริมให้จมูกดูพุ่งขึ้นได้เล็กน้อย
- ดึงบริเวณสันจมูก ใช้นิ้วชี้ข้างซ้ายและขวา นวดคลึงบริเวณสันจมูก ดึงเข้าออกเบาๆ ประมาณ 3-5 นาที ช่วยให้บริเวณสันจมูกกระชับและดูสูงขึ้นได้
- ดึงบริเวณหัวคิ้ว ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ คลึงบริเวณจมูกส่วนหัวคิ้ว ดึงเข้าออกเบา ๆ ประมาณ 3-5 นาที วิธีนี้จะช่วยให้บริเวณหัวคิ้วสูงขึ้นเล็กน้อย
การดึงจมูก เป็นเพียงวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้จมูกโด่งขึ้นเพียงเล็กน้อย และควรทำอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น สิ่งที่เราดึงอาจจะกลับมารูปทรงเดิม และยังมีข้อเสียอีกด้วย เพราะการดึงจมูกต้องเบามือให้มาก ถ้าหากใช้แรงดึงมากเกินไป อาจทำให้เกิดรอยช้ำ หรือรอยแดงได้ ยังต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลานาน กว่าจะได้จมูกที่โด่งสวย อาจหมดกำลังใจแล้ว
หรือจะเลือกเป็นการเสริมจมูกดี? เพราะในปัจจุบันการเสริมจมูกไม่ใช่เรื่องยาก และอันตรายอีกต่อไปแล้ว เพราะมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์อยู่มากในประเทศไทย การทำศัลยกรรมเสริมจมูกจึงทำได้ไม่ยากและมีความปลอดภัย แต่ต้องศึกษาและเลือกสถานพยาบาลที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัย การดูแลเอาใจใส่ และมีความน่าเชื่อถือ การเสริมจมูกจะทำให้เราได้รูปทรงจมูกที่พึงพอใจ มีอายุการใช้งานอยู่ได้นาน หรือในบางวัสดุสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตเลย
อยากทำจมูก ให้ปลายดูพุ่ง สวย แบบธรรมชาติ
การเสริมจมูก มักจะมาพร้อมกับการเสริมปลายจมูก เพราะการศัลยกรรมเสริมจมูกจะใช้วัสดุที่เรียกว่า ซิลิโคน ในการใส่เข้าไปในบริเวณสันจมูก และรองฐานบริเวณปลายจมูก ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย หรือปลายจมูกบาง ถ้าหากอยากได้ปลายที่พุ่ง อาจเป็นอันตราย เพราะสามารถทำให้เกิดปัญหาปลายทะลุได้ในอนาคต การศัลยกรรมเสริมจมูกจึงจำเป็นต้องปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด เพื่อให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับผู้เสริม
แต่ไม่ได้แปลว่าการที่ไม่มีเนื้อจมูกหรือจมูกบางจะทำปลายให้พุ่งไม่ได้ เพราะปัจจุบันวัสดุในการทำศัลยกรรมเสริมจมูกมีให้เลือกหลายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนละเอียด ซึ่งวัสดุที่สามารถจะช่วยผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อยหรือปลายจมูกบาง คือ การใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนละเอียด สามารถช่วยเติมเต็มบริเวณปลายจมูกทำให้สามารถสร้างทรงจมูกได้ตามที่เราต้องการ
โดยการใช้วัสดุซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู เป็นวัสดุที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากกระดูกอ่อนหลังหูเป็นวัสดุที่มาจากส่วนหนึ่งในร่างกายของเรา ทำให้ร่างกายไม่เกิดอาการต่อต้าน ซึ่งถ้าหากเสริมด้วยวัสดุซิลิโคน มีโอกาสสูงที่ร่างกายจะเกิดการต่อต้านทำให้จมูกที่เสริมอักเสบ และต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไขต่อไป แต่หากใช้วัสดุ ซิลิโคน และกระดูกอ่อนหลังหู ส่วนของกระดูกอ่อนหลังหูจะเป็นฐานบริเวณปลายจมูกซึ่งเป็นจุดที่มีโอกาสสูงที่ทำให้เกิดการทะลุ จึงเหมาะกับการใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาเป็นฐาน เพราะเป็นวัสดุจากร่างกาย เนื้อเยื่อในร่างกายจะทำการผสานกลายเป็นเนื้อเดียวกัน และลดโอกาสปลายจมูกทะลุได้อย่างมาก
หรือการใช้วัสดุกระดูกอ่อนละเอียด ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมอย่างมากในประเทศเกาหลีในปัจจุบัน เพราะเป็นวัสดุที่ดีต่อจมูก และได้ความธรรมชาติมากกว่าวัสดุอื่นๆ เพราะกระดูกอ่อนละเอียดเป็นวัสดุจากร่างกาย โดยศัลยแพท์นำมาจากบริเวณกระดูกอ่อนซี่โครงของผู้เสริมเอง สร้างเป็นทรงจมูกตามที่ผู้เสริมต้องการ ทำให้ไม่เป็นอันตราย และร่างกายไม่เกิดการต่อต้าน ไม่ทำให้ปลายจมูกทะลุแน่นอน เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่เหมาะมากกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยและปลายจมูกบาง เพราะสามารถเติมเต็มบริเวณจมูกมากขึ้น ผู้ที่ปลายจมูกบางแต่ต้องการปลายจมูกเชิ่ด พุ่ง หรือหยดน้ำ วัสดุกระดูกอ่อนละเอียดสามารถช่วยได้
พอเข้าใจแล้วใช่ไหมคะ? ว่าการเสริมจมูกปัจจุบันมีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ใครที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย ปลายจมูกบาง ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะวัสดุที่ยกตัวอย่างมา จะช่วยให้เราได้ทรงจมูกที่ใช่ ปลายจมูกที่ชอบ มีอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราได้ทรงจมูกที่เพอร์เฟค ไร้กังวลเรื่องการเบี้ยวระหว่างผ่าตัด นั้นคือเทคนิคการผ่าตัด เทคนิคการผ่าตัดมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ การผ่าตัดแบบปิด Close Rhinoplasty และ การผ่าตัดแบบเปิด Open Rhinoplasty เป็นอย่างไร จะมาอธิบายให้เข้าใจกัน
เทคนิคการผ่าตัดแบบปิด Close Rhinoplasty
การผ่าตัดในลักษณะนี้เป็นการผ่าตัดที่สะดวก ง่าย รวดเร็ว แผลเล็ก สังเกตเห็นได้ยาก ใช้วิธีผ่าตัดบริเวณปลายจมูกและสอดซิลิโคนเข้าไปบริเวณสันจมูกจนถึงปลายจมูก เทคนิคต้องใช้ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การศัลยกรรมเสริมจมูก เพราะจำเป็นต้องมีความแม่นยำในการสอดซิลิโคน เพื่อให้ตรงกับสันจมูก หากไม่ชำนาญหรือไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้ซิลิโคนบิดเบี้ยว ไม่พอดีกับจมูก และอาจเป็นอันตรายในอนาคต เช่น จมูกเบี้ยว ปลายจมูกทะลุ อักเสบ จึงจำเป็นต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่พึงพอใจและปลอดภัยที่สุด
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด Open Rhinoplasty
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด เป็นการผ่าตัดที่ทำการเปิดผิวจมูกทำให้สามารถเห็นโครงสร้างต่างๆ ของจมูก จึงมีความปลอดภัยสูง ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างตรงจุด และแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง ผู้เสริมที่ใช้วิธีการผ่าตัดแบบเปิดจะได้รูปทรงจมูกตามที่ต้องการ และจัดวางได้อย่างพอดี ซึ่งเหมาะทั้งกับผู้ที่ศัลยกรรมเสริมจมูกครั้งแรก และผู้ที่เคยเสริมจมุกหรือต้องการแก้ไข เพราะเป็นการผ่าตัดแบบเปิด จึงทำให้สามารถเห็นถึงปัญหาได้ถูกจุด นอกจากนี้สามารถนำวัสดุเดิมที่เคยเสริมมาออกได้อย่างสะดวก ไม่ทิ้งสิ่งตกค้างไว้ภายใน วิธีผ่าตัดแบบเปิดจึงมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการผ่าตัดแบบปิด
อ่านมาจนถึงตอนนี้ สนใจอยากทำขึ้นมาแล้วใช่ไหม? การทำศัลยกรรมจมูกแน่นอนว่าต้องมีการศึกษามาในระดับหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม แต่มีข้อแนะนำในการเตรียมตัวอีกเล็กน้อย เพื่อให้ผู้เสริมสามารถเตรียมตัวได้ถูกก่อนได้รับการศัลยกรรมเสริมจมูก หรือผู้ที่กำลังตัดสินใจ
- การเสริมจมูก เป็นการผ่าตัด จึงจำเป็นต้องเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรม เพื่อรับฟัง และข้อเสนอแนะในการเสริมจมูก ให้ผู้เสริมได้รูปทรงจมูกตามที่ต้องการมากที่สุด
- ตรวจสุขภาพเบื่องต้น เพื่อทำให้การผ่าตัดศัลยกรรมผ่านไปได้ด้วยดี
- หากมีโรคประจำตัวและยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์รับทราบ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาตามมาภายหลัง
วิธีการเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมจมูก
- งดรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เนื่องจากใช้วิธีการวางยาสลบ อาจทำให้เกิดเหตุผู้เสริมสำลักอาหาร ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เสริม
- งดอาหารเสริม และวิตามิน เพราะอาหารเสริม และวิตามิน จะไปช่วยการทำงานของระบบไหลเวียน ทำให้เลือดหยุดไหลได้ช้า เป็นอันตรายในการผ่าตัด
- งดรับประทานยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวด เพราะยาในกลุ่มนี้จะทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้า เพื่อความปลอดภัยจึงแนะนำให้งด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อาจทำให้แผลผ่าตัดเสี่ยงติดเชื้อ และยังทำให้แผลหายได้ช้า
- งดการแต่งหน้า เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่แผลผ่าตัด ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
เมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ยังมีข้อปฏิบัติที่จำเป็นจะต้องทำตามอีกเล็กน้อย เนื่องจากการผ่าตัดเสริมจมูกเมื่อผ่าตัด พักฟื้นที่สถานพยาบาล ต้องมีการพักฟื้นต่อด้วยตนเอง
วิธีการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก
- เมื่อผ่าตัดเสริมจมูก จำเป็นต้องนอนด้วยหมอนรองคอ เพื่อป้องกันการนอนราบ การนอนราบอาจทำให้เลือดไหลคั่งบริเวณตา เกิดอาการช้ำ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ทำให้แผลหายได้ช้า และเสี่ยงติดเชื้อ อักเสบ
- ทำความสะอาดด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ
- ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเด็ดขาด ในน้ำอาจมีเชื้อโรค ทำให้แผลอักเสบ เสี่ยงติดเชื้อ
- งดรับประทานของหมัก ดอง เนื่องจากการหมัก ดอง อาจไม่สะอาด สามารถส่งผลเสียต่อแผลผ่าตัดได้
- ประคบเย็นบริเวณ แก้ม และหน้าผาก เพื่อลดอาการบวมได้
- ควรรับประทานยา และปฏิบัติตามที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม
และนี่คือวิธีการดูแลที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ สำหรับผู้ศัลยกรรมเสริมจมูก การดูแลตัวเองเป็นวิธีที่ป้องกันไม่ให้ผ่าศัลยกรรมเสริมจมูกเกิดปัญหา ซึ่งมีผลต่อไปในอนาคต จึงจำเป้นต้องปฏิบัติตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม หากมีปัญหาหรือต้องการคำแนะนำ APEX มีศัลยแพท์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำให้แก่ผู้เสริม ผ่าตัดโดยเครื่องแพทย์ที่ทันสมัย และมีห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรอง JCI จึงไว้วางใจความปลอดภัยได้แน่นอน