ใครที่กำลังมองหาอาหารลดน้ำหนัก เพื่อควบคุมอาหารและเบื่อหน่ายเมนูเดิมๆ APEX Slim มีลิสต์เมนูอาหารที่ทานได้แบบสบายใจ สบายท้อง มาแชร์กัน.. แบบกินครบทุกมื้อ ไม่ต้องอด แถมมีเมนูของทานเล่นระหว่างวันด้วย หากใครที่กำลังควบคุมอาหาร รีบเก็บลิสต์เมนูกันเลย แต่จะให้ดีเราแนะนำให้ออกกำลังกายลดน้ำหนักควบคู่กันไปด้วยจะได้เห็นผลชัดเจนมากขึ้น! ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร สิ่งสำคัญคือ “การนับแคลอรี่”
แคลอรีคืออะไร? ต้องเผาผลาญพลังงานเท่าไรน้ำหนักถึงลด
แคลอรี (Calories) คือ หน่วยวัดพลังงานอย่างหนึ่งของอาหาร เรียกเต็มๆ ว่า “กิโลแคลอรี” ซึ่งปกติร่างกายของเราต้องการพลังงาน 25 กิโลแคลอรี ต่อ “น้ำหนักตัวเอง 1 กิโลกรัม” นั่นหมายความว่า ถ้าเราหนัก 50 กิโลฯ พลังงานที่เราต้องได้รับคือ 1,250 นั่นเอง
แต่เพราะอะไร.. ทำไมข้อมูลบางที่เขาบอกเราควรได้รับพลังงานเฉลี่ยต่อวัน 2,000-2,500 เลยล่ะ?
ยังคงเป็นความจริงสำหรับข้อเท็จจริงที่ว่า ร่างกายคนเราต้องได้รับพลังงานต่อวันคือ 25 กิโลแคลอรี x น้ำหนักตัวเอง แต่ทั้งนี้เป็นพลังงาน “ขั้นต่ำ” เท่านั้น เพราะบางคนต้องมีการทำกิจกรรมอย่างอื่นอีกเช่น เดินขึ้น-ลงบันได วิ่ง และนั่งทำงานพร้อมออกกำลังยกแขนยกขาไปมา เขาก็เลยเฉลี่ยพลังงานที่เราควรได้รับ คือ 2,000 กว่าๆ นั่นเอง
ทำไมการควบคุมอาหารด้วยการนับแคลอรี ถึงช่วยลดน้ำหนักได้?
การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร ก็คือการควบคุมพลังงานที่ได้รับต่อวันให้พอดีกับขั้นต่ำมากที่สุด เพื่อให้ร่างกายนำไขมันมาเผาผลาญเป็นพลังงาน ถ้าอยากลดน้ำหนักต้องทำกิจกรรมเผาผลาญแคลอรีให้ได้มากกว่าที่กินไป 300-500 กิโลแคลฯ (กำลังดี) พอพลังงานที่ร่างกายได้รับน้อยกว่าที่เผาผลาญไป ร่างกายจะถูก “บังคับ” ให้เอา “ไขมันในร่างกาย” ออกมาใช้แทน โดยกิโลแคลอรีที่เผาผลาญไปถึง 7,700 จะสามารถลดได้ 1 กิโลกรัม
หมายความว่าถ้าหากใช้พลังงานเกินกว่าที่ได้รับต่อวันสัก 500 กิโลแคลอรี ภายใน 1 อาทิตย์ จะสามารถเผาผลาญได้ถึง 3,500 กิโลแคลอรี เทียบเป็นน้ำหนัก 0.4-0.5 กิโลฯ
และอาหารที่เราเอามาแนะนำให้ต่อไปนี้ก็เป็นเมนูอาหารไทย “ลดน้ำหนัก” เพื่อสุขภาพ ซึ่งจัดตามกิโลแคลอรีที่เราต้องได้รับขั้นต่ำต่อวัน (บวกลบนิดหน่อย) ไปดูกันเลย..
อาหารลดน้ำหนัก ใช่ว่าจะต้องทำเองเสมอไป เพราะหลายคนก็แทบจะไม่มีเวลาทำอาหาร แต่ถ้าต้องซื้อข้างนอกบางคนก็กลัวอ้วน เพราะไม่แน่ใจว่าแคลอรี่อาหารเท่าไร ไม่ต้องกังวลไปเพราะวันนี้เราลิสต์เมนูลดหุ่น ช่วยคุมน้ำหนัก มาให้เลือกกันแล้ว แต่ละเมนูบอกเลยว่า กินง่าย แถมหาซื้อง่ายด้วย! เพราะเป็นอาหารไทยๆ ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แม้จะไม่คลีน 100% แต่ก็แคลอรี่ต่ำ ไม่ทำให้อ้วนแน่นอน
สำหรับอาหารไทยกินได้สบายหายห่วง เพราะหลายเมนูล้วนเผ็ดร้อน มีพริกที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดี รวมทั้งยังมีสมุนไพรและวัตถุดิบที่มีประโยชน์มากมาย เช่น ผักต่างๆ ซึ่งดีต่อการขับถ่ายและลดน้ำหนัก แต่สิ่งสำคัญที่ควรระวังเป็นอย่างมากสำหรับอาหารไทยก็คือ เมนูที่มีกะทิและมีรสหวานเพราะอาจจะทำให้อ้วนได้ หากหลีกเลี่ยงได้จึงดีที่สุด หรือรับประทานเพียงเล็กน้อย แต่จะมีเมนูลดหุ่นอะไรบ้าง มาดูกันเลย
15 เมนูอาหารลดน้ำหนัก แคลอรี่ต่ำ
1. ต้มยำน้ำใส เป็นเมนูสุดแซ่บที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีไม่น้อยเลยเพราะมีรสชาติเผ็ดร้อน ใครที่กินต้มยำรสจัดจ้านแล้วเหงี่อไหลซิกๆ ขอบอกเลยว่าร่างกายกำลังเผาผลาญอยู่นั่นเอง แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่ากินต้มยำแบบไม่ใส่นมจึงจะไม่อ้วน แถมแคลอรี่ยังน้อยกว่า!
2. แกงเห็ด นอกจากจะมีเห็ดที่มีประโยชน์แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งเมนูลดน้ำหนักที่กินอิ่มและให้แคลอรี่ต่ำเรียกว่าเป็นเมนูที่กินแล้วไม่อ้วนแน่นอน แต่สำหรับใครที่กินแบบใส่ปลาร้า ขอแนะนำว่าอย่าใส่เยอะเพราะในปลาร้ามีความเค็ม อาจจะทำให้ร่างกายบวมน้ำได้นั่นเอง
3. แกงส้ม เป็นเมนูลดน้ำหนักได้ดีที่กินแล้วได้ประโยชน์ไม่แพ้ต้มยำและแกงเห็ด เพราะมีผักนานาชนิดที่ดีต่อระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย อีกทั้งความเผ็ดเล็กๆ ก็ช่วยเบิร์นได้อีกด้วย
4. แกงจืดเต้าหู้ เมนูคู่บ้านช่วยให้อิ่มท้องและยังกินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะรสชาติทานง่าย มีทั้งผักและเต้าหู้ไข่ แต่ถ้าอยากให้คลีนมากขึ้นจะเปลี่ยนไปใช้หมูสับแบบไม่มีมันหรืออกไก่ก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน
5. เมนูยำวุ้นเส้น นับว่าเป็นเมนูลดน้ำหนักของใครหลายคนเลย เพราะวุ้นเส้นช่วยให้อิ่มท้อง แคลอรี่ก็น้อย แถมยังมีรสเผ็ดช่วยเผาผลาญได้ดี แต่ต้องระวังการใส่ส่วนผสมอื่นๆเพิ่มเติมระวังอย่าให้เป็นแป้งหรืออาหารทะเลที่คอเลสเตอรอล สูงมากเกินไป เน้นใส่ผักหรือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำจะดีที่สุด
6. น้ำพริกกับผักต้ม สุดยอดอาหารลดน้ำหนักอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งตัวน้ำพริกนอกจากจะได้ประโยชน์ทั้งจากพริก หัวหอม กระเทียมแล้ว ตัวเครื่องเคียงอย่างผักต้มยังทำให้ไม่อ้วนอีกด้วย แนะนำว่าควรเลือกน้ำพริกที่รสชาติไม่เค็มเกินไป ไม่อย่างนั้นโซเดียมจะสูงและเกิดอาการบวมน้ำได้ง่ายๆ
7. ปลาเผา เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่คลีนสุดๆ ไปเลย เพราะไม่ได้มีการใส่เครื่องปรุงมากมาย ทั้งยังสามารถทานกับผัก หรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้สบายๆ เป็นเมนูที่หาซื้อได้ง่ายและช่วยลดความอ้วนได้ดีมากๆ
8. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน อีกหนึ่งเมนูที่มักจะเห็นบ่อยๆ ตามตลาดนัด เพราะเป็นเมนูที่มีผักเครื่องเคียงเยอะ ส่วนผสมอื่นๆ ก็ทำให้อ้วนน้อย จะจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ช่วยเพิ่มความเผ็ดได้ดี หรือถ้าจะจิ้มกับน้ำจิ้มอื่นก็ระวังเรื่องของน้ำตาล
9. ประโยชน์ของสลัดโรลมีมากพอๆ กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เพราะอุดมไปด้วยผักที่ดีต่อระบบขับถ่าย และสำหรับไส้ใน แนะนำว่าควรเลือกเป็นไส้ที่มีแป้งน้อยและแคลอรี่ต่ำ เช่น ทูน่ากระป๋องในน้ำแร่จะดีที่สุด
10. สุกี้น้ำ เป็นลิสต์เมนูลดน้ำหนักของใครหลายคนแน่นอน เพราะนอกจากจะมีทั้งผักกาด ผักบุ้งที่ช่วยให้ขับถ่ายดีแล้ว ยังมีวุ้นเส้นที่ช่วยให้อิ่มท้องอีกด้วย แนะนำเป็นน้ำจิ้มที่สูตรน้ำตาลน้อยหรือสูตรคีโตจะดีที่สุด
11. ฟักทองผัดไข่ เพราะ ฟักทองถือเป็นอาหารที่ไขมันต่ำ แต่ควรกินฟักทองให้พอประมาณ พราะถ้ากินเยอะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้เช่นกัน
12. เกาเหลา เมนูไร้เส้นแต่เน้นผัก ทำให้แคลอรี่ต่ำ ย่อยง่าย แต่ระวังเรื่องของน้ำซุป ระวังอย่าปรุงรสเค็มหรือเติมน้ำตาลมากเกินไป เพราะจากแคลอรี่ต่ำอาจพุ่งสูงได้จากพฤติกรรมการปรุงรสนั่นเอง
13. ลาบเห็ด เมนูลาบช่วยเพิ่มการเผาผลาญ กินง่ายและอร่อย เปลี่ยนวัตถุดิบหลักจากเนื้อสัตว์เป็นผัก เช่น เห็ดด้วยสรรพคุณมากมาย อีกทั้งช่วยป้องกันโรคมะเร็งและแคลอรี่น้อยทำให้ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี
14. เมนูส้มตำ แม้จะมีโซเดียมเยอะอาจเกิดอาการบวมน้ำได้ ลองเปลี่ยนมาเป็นส้มตำผลไม้อาจจะช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด เพราะผลไม้แต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ล ฝรั่ง องุ่น ลูกพลับ แก้วมังกร ล้วนเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยหรือมีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและน้ำตาลน้อย
15. ผลไม้ เน้นเป็นผลไม้ไฟเบอร์สูงหรือน้ำตาลน้อย ดีต่อระบบขับถ่าย จำพวกมะละกอ แตงโม ฝรั่งและชมพู่ กินเป็นอาหารว่างหรือกินยามหิวก่อนนอน ก็ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นแน่นอน แถมอย่างช่วยให้อิ่มท้อง
แต่สำหรับใครหลายคน แค่การควบคุมอาหารและออกกำลังอาจจะยังไม่เพียงพอ ทาง APEX Slim จึงมีอีก 2 ตัวช่วยให้ทุกคนได้มีทางเลือกเพิ่มเติมที่เหมาะสำหรับตัวเอง ด้วยนวัตกรรม IV Drip Fat burn และ IV Drip Weight Loss ทรีตเมนต์ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย
IV Drip Fat burn และ IV Drip Weight Loss ทำงานอย่างไร?
IV Drip คือ ทรีตเมนต์ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้รวดเร็วทันใจ แก้ปัญหาที่มักเกิดอาการเรื้อรัง แม้รับประทานยาก็ไม่หาย เช่น อาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่กระฉับกระเฉง ไม่สดใส หากไม่รักษาอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
IV Drip หรือที่หลายคนเรียกกันว่า วิตามินเข้าเส้น คือการให้วิตามินหรือสารอาหารผ่านทางน้ำเกลือ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วและดูดซึมได้เต็ม 100% และสามารถแทรกซึมได้ในระดับเซลล์ต่างจากการทานวิตามินในรูปแบบเดิม ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้จริงประมาณ 10-20% อีกทั้งขึ้นอยู่กับวิตามินที่เราทานเข้าไปด้วย ซึ่งจากปริมาณที่ร่างกายดูดซึมได้นั้น อาจไม่ได้ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ตามที่ต้องการ
สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยมุ่งเน้นไปที่การออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร หากต้องการตัวช่วยเพิ่มเติม เช่น IV Drip สูตร Fat burn ถือเป็นตัวช่วยที่ดี เนื่องจากสูตรดังกล่าวเน้นไปที่การกระตุ้นการเผาผลาญทำให้ไขมันส่วนเกินในร่างกายถูกนำมาเผาผลาญเป็นพลังงานมากขึ้น ยิ่งทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว ผลที่ได้ก็จะดียิ่งขึ้น เป็นการลดน้ำหนักที่ให้ผลดีในระยะยาวทั้งในด้านรูปร่างและสุขภาพอย่างแท้จริง
ส่วนคนที่มีระยะเวลาในการลดน้ำหนักเพียงสั้นๆ หรือไม่มีเวลาออกกำลังกาย แม้จะควบคุมอาหารก็อาจทำได้ไม่ดีพอ ขอแนะนำ IV Drip สูตร Weight Loss โดยสูตรนี้แตกต่างสูตร Fat burn ตรงที่ IV Drip สูตรดังกล่าวจะมีความเข้มข้นกว่าทำให้ผู้ที่ได้รับ IV Drip สูตร Weight Loss มีกระบวนการเผาผลาญที่มากขึ้นกว่าสูตร Fat burn แบบเท่าตัวเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ดูสดชื่น และไม่โทรมเหมือนการลดน้ำหนักแบบเร่งรัดด้วยวิธีอื่นๆ และก้าวสู่เป้าหมายในการมีรูปร่างที่ดีได้ในระยะเวลาที่สั้นลง
รายละเอียดเพิ่มเติม > https://apexslim.com
ปรึกษาฟรี : 095-102-8585
LINE: line.meAPEXslim
FB Page: facebook.com/ApexSlim