อัตราส่วนรอบเอวต่อสะโพก บ่งบอกโรคจากอ้วนลงพุง

อ้วนลงพุง พุงใหญ่ พุงย้อย มีไขมันใต้พุง ไขมันในช่องท้อง เป็นจำนวนมาก นอกจากจะรู้สึกอึดอัด ใส่ชุดอะไรก็ดูไม่สวย ไม่เข้ากับหุ่นแล้ว ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ มากมาย หากว่าใครที่กำลังกังวลหรือสงสัยว่าตัวเองกำลังอ้วนลงพุงอยู่หรือเปล่า เรามีวิธีวัด “อัตราส่วนรอบเอวต่อสะโพก” ประเมินว่าเราอยู่ในเกณฑ์อ้วนลงพุงหรือไม่มาฝากกัน

 

อัตราส่วนรอบเอวต่อสะโพก (WHR) 

อัตราส่วนของรอบเอวต่อรอบสะโพก หรือ WHR (Waist-to-hip Ratio) เป็นหนึ่งวิธีที่ใช้วัดไขมันและบ่งชี้ถึงภาวะสุขภาพของเรา ตลอดจนความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ หรือแม้แต่โรคมะเร็งได้ด้วย 

 

ค่า WHR คำนวณจากอะไร

ค่า WHR จะคำนวณจากความยาวเส้นรอบเอว (หน่วยเป็นเซนติเมตร) แล้วหารด้วยความยาวเส้นรอบสะโพก (หน่วยเป็นเซนติเมตร) ซึ่งค่าที่ได้จะเป็นจุดทศนิยม

ตัวอย่าง ผู้หญิงมีรอบเอว 66 เซนติเมตร (26 นิ้ว) และสะโพก 97 เซนติเมตร (38 นิ้ว)

WHR = 66/97 

= 0.68

 

เกณฑ์ประเมิน

ผู้หญิงมากกว่า 0.85 เริ่มอ้วนลงพุง 

ผู้ชายมากกว่า 0.90 เริ่มอ้วนลงพุง 

 

**จากตัวอย่างข้างต้น ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ได้ผลคำนวณเท่ากับ 0.68 แต่ไม่เกิน 0.85 จึงยังไม่ทำให้อ้วนลงพุงนั่นเอง

 

วิธีการวัดเส้นรอบเอวและสะโพกเพื่อความแม่นยำ

เส้นรอบเอว

อยู่ในท่ายืน เท้า 2 ข้าง ห่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร จากนั้นหาตำแหน่งขอบบนสุดของกระดูกเชิงกรานและตำแหน่งชายโครงซี่สุดท้าย หรือวัดที่ตรงระดับสะดือพอดี โดยควรวัดในช่วงหายใจออก ให้สายวัดแนบกับลำตัว ไม่รัดแน่น ทำให้ระดับของสายวัดรอบเอวอยู่ในแนวขนานกับพื้น

 

เส้นรอบสะโพก

วัดจากจุดที่กว้างที่สุดของบั้นท้ายของเรา แต่ด้วยความที่ขนาดสะโพกและบั้นท้ายผู้หญิงและผู้ชายต่างกัน จุดที่กว้างที่สุดอาจจะอยู่ข้างบน ข้างล่าง หรือตรงกันกับกระดูกสะโพกก็ได้ ทำให้มีอีกวิธีหนึ่งโดยจะวัดจากเอวลงมาประมาณ 7 นิ้ว จะได้ขนาดสะโพกที่พอดี โดยให้สายวัดอยู่ระนาบเดียวกันกับพื้นทุกจุด

 

โรคจากอ้วนลงพุง 

โรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด เกิดจากไขมันดันกระบังลมขึ้นไปเบียดกับขนาดของปอด ทำให้ปอดมีขนาดเล็กลง และอัตราการหายใจต่ำลง

โรคหัวใจและหลอดเลือด เกิดจากระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

โรคเบาหวาน เกิดจากไขมันผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ตัวรับสัญญาณอินซูลินทำงานผิดปกติ ทำให้ตัวควบคุมระดับน้ำตาลมีประสิทธิภาพลดลง

โรคความดันโลหิตสูง เกิดจากไขมันส่งผลให้ร่างกายผลิต LDL หรือ ไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

โรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ เกิดจากไขมันเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงเซลล์สมองไม่สะดวก สมองจึงขาดออกซิเจน และทำให้เซลล์ตาย

โรคมะเร็ง ผลการศึกษาจากกองทุนวิจัยมะเร็งโลก (WCRF) พบว่า WHR ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 0.1 จะทำให้โอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น โดยหญิงรายหนึ่งที่มีอัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพกเพิ่มขึ้นจาก 0.7 เป็น 0.8 พบว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นถึง 21% เลยทีเดียว

 

สำหรับคนที่ยังไม่เข้าเกณฑ์อ้วนลงพุง ไม่ควรละเลยการควรดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ด้วยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การใช้เกณฑ์อัตราส่วนรอบเอวต่อสะโพกเป็นเพียงวิธีประเมินเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการความแม่นยำมากขึ้นควรตรวจด้วยเครื่องตรวจมวลไขมันด้วย และหากพบว่ามีมวลไขมันในช่องท้องหรือไขมันในพุงของเรามากเกินไป ควรรีบกำจัดไขมันนั้นออก เพื่อป้องกกันไม่ทำให้เราอ้วนลงพุง และเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมาได้

 

การตรวจมวลไขมัน

Inbody (Body Composition Analysis) เป็นนวัตกรรมวัดค่าไขมันในอวัยวะหรือในช่องท้อง  ด้วยการวัดความต้านทานต่อการไหลของกระแสไฟฟ้า ปริมาณน้อย ๆ เพียง 1-2 โวลต์ ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งมีแรงต้านทานต่อการไหลของกระแสไฟฟ้าไม่เท่ากัน ทำให้สามารถวัดองค์ประกอบต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างละเอียด รวดเร็ว ปลอดภัย และมีความแม่นยำสูง โดยจะวิเคราะห์แยกส่วนประกอบของร่างกาย ได้แก่ น้ำ กล้ามเนื้อ กระดูก และไขมัน นั่นเอง

 

กำจัดไขมันในช่องท้องได้อย่างไร

Indiba นวัตกรรมของ Proionic เป็นเทคโนโลยีการแพทย์จากสเปน โดยระบบการรักษาจะใช้คลื่นความถี่วิทยุเดียวที่ 448 kHz มาฟื้นฟูถึงระดับเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยโครงสร้างและการทำงานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ทำให้เซลล์ไขมันฝ่อตัวลง “ลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังและไขมันในช่องท้อง” เพิ่มการเผาผลาญลึกถึงระดับเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนเลือด กำจัดของเสียออกจากเซลล์ เพิ่มระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อและเซลล์ ยับยั้งการสร้างเซลล์ไขมัน กระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระชับสัดส่วน

 

👉ปรึกษาลดไขมันในช่องท้องทัก
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/