คำถามคาใจของใครหลายคน ที่เริ่มอายุมากขึ้นแล้ว ความหย่อนคล้อยของใบหน้าตามมา คืออยากให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ด้วยการใช้ตัวช่วยอย่างเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับใบหน้า แต่ยังคงลังเลว่าจะใช้เครื่องไหนอยู่ดี? เพราะว่าในปัจจุบันเครื่องมือเหล่านี้มีด้วยกันหลายชนิด อย่างที่เราเคยได้ยินชื่อกันกันบ่อยๆ ช่วงนี้ เพราะกำลังมาแรงได้ความรับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้น อัลเทอร่า (Ulthera) และ เทอร์มาจ (Thermage) ซึ่งทั้งสองเครื่องแม้ว่าจะเป็นเครื่องมือยกกระชับใบหน้าเหมือนกัน แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ค่อนข้างหลายด้าน มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยกันแล้วว่าทั้งสองเครื่องมีความแตกต่างกันอย่างไร เครื่องไหนดีกว่ากัน แล้วรูปหน้าอย่างเราควรจะทำเครื่องไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด วันนี้เราพามาหาคำตอบกันกับ Ulthera vs Thermage เครื่องไหนเหมาะกับหน้าเรา ทำอะไรดีกว่ากัน?
อัลเทอร่า (Ulthera)
อัลเทอร่า (Ulthera) หรือมีชื่อเต็มๆ ว่า อัลเทอราพี (Ultherapy) ตัวเครื่องมีลักษณะคล้ายกับเครื่องอัลตราซาวด์ มีหน้าจอแสดงผลแบบ Real Time เหมือนเวลาคุณแม่อัลตราซาวด์ดูทารกในครรภ์ คุณหมอสามารถมองเห็นปัญหาชั้นผิวภายในทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเครื่องนี้จะส่งผ่านพลังงานความถี่สูง และแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ในรูปแบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ลงสู่ใต้ชั้นผิวหนัง ในระดับ SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวของชั้นกล้ามเนื้อ จนเกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ออกมาเรื่อยๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้ายกกระชับขึ้น และริ้วรอยลดเลือนลง
อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะกับใคร
อายุที่มากขึ้นทำให้โครงสร้างกล้ามเนื้อชั้น SMAS ขาดความแข็งแรง เสื่อมสภาพไม่สามารถยึดคอลลาเจนให้มีความตึงกระชับ ยืดหยุ่นได้ดีเหมือนเดิม อีกทั้งกระบวนการผลิตคอลลาเจนยังลดน้อยลงอีก ส่งผลให้ผิวคล้อยลง เกิดริ้วรอย
การทำอัลเทอร่า (Ulthera) จึงเหมาะกับคนที่อายุมากขึ้น แล้วเกิดปัญหาผิวตามวัย อย่างเช่น ชั้นไขมันฝ่อตัวลง ไขมันน้อย แล้วผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ มีริ้วรอย หางคิ้วตก หางตาตก ซึ่งปัญหาผิวหน้าเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-60 ปี แล้วต้องการให้ผิวกลับมายกกระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง และนอกจากนั้นยังมีผลพลอยได้คือกรอบหน้าดูเรียวขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน เปล่งปลั่ง
เทอร์มาจ (Thermage)
เทอร์มาจ (Thermage) เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าอีกอย่างหนึ่ง เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF : Radio Frequency) แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของไขมันและคอลลาเจน ดังนั้นจึงเป็นกระตุ้นคอลลาเจนโดยตรง ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัว และมีเกลียวที่ตึงขึ้น ส่งผลให้ยึดเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวจะมีความกระชับ ลดรอยลดเลือนลง และผิวหน้ายังดูสุขภาพดีมากขึ้นอีกด้วย
เทอร์มาจ (Thermage) เหมาะกับใคร
การทำเทอร์มาจเหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันหนา แก้มเยอะ ผิวนิ่ม ผิวหน้าดูย้วย ทำให้เกิดปัญหาใบหน้าขาดความกระชับ ตามแนวกรอบหน้า หรือบริเวณคาง จนเกิดเป็นคางสองชั้น มีเหนียง ซึ่งเทอร์มาจสามารถทำได้ทั้งทั้งใบหน้า และลำตัว ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้อง ให้กลับมามีความเฟิร์ม เต่งตึง กระชับขึ้นได้ นอกจากนั้นผู้ที่มีปัญหาผิวโทรม แห้งกร้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีสลาติน การทำเทอร์มาจ (Thermage) ยังสามารถช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียน สดใสมากขึ้นอีกด้วย
เครื่องไหนเหมาะกับหน้าเรา ทำอะไรดีกว่ากัน?
อย่างที่ได้อธิบายไปข้างต้นว่า อัลเทอร่าและเทอร์มาจ เป็นเทคโนโลยีเครื่องมือยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1-2 ปีเหมือนกัน แต่มีความต่างกันตรงเรื่องกระบวนการของพลังงานที่ส่งไปยังชั้นใต้ผิว และผลลัพธ์ที่ได้อัลเทอร่าจะลงลึกไปยังชั้น SMAS จึงทำให้เกิด skin lifting คือหน้าดูยกขึ้น ส่วนเทอร์มาจจะลงไปสู่ชั้นไขมันและคอลลาเจน ทำให้เกิด skin tightening คือผิวแน่นเฟิร์มขึ้น และลดไขมันได้ดีกว่า ดังนั้นถ้าถามว่า ทำเครื่องอะไรดีกว่ากัน เราคงต้องดูว่าปัญหาของผิวหน้าเรานั้นว่ามาจากสาเหตุอะไร เพื่อแก้ไขได้อย่างตรงจุด และได้ประสิทธิภาพมากกว่า
แต่จริงๆ แล้วผิวหนังของคนเรา ก็ต้องการยกกระชับทั้ง 2 แบบ คือผิวหน้าแน่นเฟิร์ม เต่งตึง และในขณะเดียวกันก็ต้องยกกระชับขึ้นด้วย โดยเฉพาะในคนที่อายุมาก เพราะผิวหน้าจะเสื่อมสภาพลงทุกชั้นผิว ดังนั้นบางครั้งแพทย์จะแนะนำคนไข้ให้ทำทั้งสองเครื่องมือ เพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น
- คนมีอายุ ผิวหน้ามักจะหย่อนคล้อย แต่ไม่ค่อยมีไขมันสะสมเท่าไหร่ จะแนะนำให้ทำอัลเทอร่า เพื่อเป็นการยกผิวในส่วนที่หย่อยคล้อยขึ้น แล้วเว้นไปประมาณครึ่งปี จึงกลับมาทำเทอร์มาจ เพื่อให้ผิวหน้าเฟิร์มมากขึ้น หลังจากนั้นสามารถทำสลับกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
- ส่วนคนอายุน้อย มักจะมีไขมันสะสมอยู่เยอะ แต่ผิวหน้ายังหย่อนคล้อยไม่มาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าของแต่ละคนด้วยว่าควรทำเทอร์มาจ หรืออัลเทอร่าก่อน แล้วสามารถเว้นไป 2-3 ปี ถึงค่อยกลับมาทำอีกตัวนึง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้ง 2 ด้าน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำเครื่องมือยกกระชับ
การที่จะได้ผลลัพธ์ออกมาดี นอกจากเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าของเราแล้ว ยังมีข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำเครื่องมือยกกระชับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้
1.ระวังเจอเครื่องอัลเทอร่า – เทอร์มาจของปลอม
แม้ว่าเทคโนโลยีเครื่องมือยกกระชับใบหน้าจะมีมานานหลายปีแล้ว แต่ความนิยมก็ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนมีความสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น และด้วยความเข้าถึงง่ายของคลินิกที่ในปัจจุบันนี้มีอยู่เยอะมาก ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่เราจะเข้าไปใช้บริการต่างๆ แต่ด้วยราคาของเครื่องมือที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้บางคลินิกใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นเครื่องปลอม แล้วทำการโปรโมทว่าเป็นเครื่องแท้ ทำได้ในราคาที่ถูกลง เพื่อเป็นการดึงดูดให้คนหลงเชื่อเข้ารับบริการ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากผิวหน้าที่ควรจะยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ กลับกลายเป็นเกิดรอยไหม้ หน้าบวมแทน ทั้งเสียเงิน แล้วหน้ายังพังแบบนี้ ก่อนตัดสินใจทำอัลเทอร่า หรือ เทอร์มาจที่ไหน ควรเช็คให้แน่ใจก่อนนะคะ ว่าเป็นเครื่องแท้ได้มาตรฐานหรือไม่
โดยวิธีเช็คว่าคลินิกที่เราจะเข้ารับบริกาจใช้เครื่องอัลเทอร่า (Ulthera) ของแท้หรือไม่ เราสามารถเช็คได้จากบริษัทผู้นำเข้าเครื่องมือนี้ในประเทศ คือบริษัท Merz Aesthetics Thailand เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ www.merzclubthailand.com
2.แพทย์มีความเชี่ยวชาญ
ประสบการณ์ของแพทย์ ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมาก ควรเลือกทำกับแพทย์เฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้า เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง นอกจากนั้นเทคนิคของแพทย์ก็สำคัญเช่นกัน เพราะสามารถวิเคราะห์ ช่วยออกแบบใบหน้าของเราได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดูธรรมชาติเป็นที่น่าพอใจและคงอยู่ได้นานขึ้น
3.ความน่าเชื่อถือของคลินิก
เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานได้รับใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง มีรีวิวจากผู้ที่เคยทำอัลเทอร่าหรือเทอร์มาจให้พิจารณาก่อนตัดสินใจทำ นอกจากนั้นเราต้องดูถึงการบริการ ทั้งก่อนและหลัง ทำหัตถการด้วย สามารถติดต่อสอบถามขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลาก็ถือเป็นบริการที่ดี เผื่อว่าเรามีข้อสงสัยภายหลังจะได้ขอคำแนะนำได้อย่างถูกต้อง และอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ความมั่นใจกับเราคือรางวัลที่ทางคลินิกได้รับซึ่งเป็นเครื่องการันตีได้ว่า คลินิกมีคุณภาพและมีมาตรฐาน
เพราะอะไร.. ถึงต้องเลือกยกกระชับใบหน้ากับ APEX
เลือกทำหัตถการใดๆ ก็ตาม แน่นอนว่าทุกคนต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ทั้งในแง่ของความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้ผลอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งที่ Apex Medical Center สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าใช้บริการทุกท่านได้ เพราะเราเป็นศูนย์รวมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณโดยเฉพาะ พร้อมกันนั้น APEX ยังมี training center คอยอัปเดตเทรนด์เทคนิควิธีการใหม่ๆ อยู่ตลอด จากอาจารย์แพทย์ผู้มีประสบการณ์ อย่างคุณหมอนัน – แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ซึ่งเป็นผู้เริ่มใช้เทคโนโลยียกกระชับ อย่างอัลเทอร่า (Ulthera) และเทอร์มาจ (Thermage) ในประเทศไทย นอกจากนั้นคุณหมอนันยังเป็นคุณหมอเพียงท่านเดียวที่ทำอัลเทอร่า (Ulthera) มากที่สุดในโลกจนได้รับรางวัล Most Treatments Throughout the World ในปี 2011 อีกด้วย
และการได้รับรางวัลล่าสุดอย่าง THE THAILAND TOP ACHIEVER FOR ULTEHRAPY TRANSDUCER presented by MERZ AESTHETICS THAILAND หรือรางวัลยอดผู้เข้าใช้บริการอันดับ 1 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นรางวัลที่ APEX ได้รับมาอย่างต่อเนื่องตลอด 15 ปี ก็สามารถช่วยยืนยันถึงความสำเร็จของเรา และสร้างความมั่นใจ ไว้ใจให้กับผู้ที่สนใจเข้ารับบริการกับ APEX เป็นอย่างมาก
