สีผิวไหนแต่งตัวสีอะไรเกิด! เช็ค Personal Color ตัวเองได้ง่ายๆ

สาวๆ เคยเจอปัญหาการเลือกใส่เสื้อผ้ากันบ้างไหมคะ ใส่อะไรก็ไม่เข้ากับตัวเอง จะหยิบเสื้อตัวโปรดมาใส่แต่สีมันก็ไม่เข้ากับตัวเองมากๆ ใส่แล้วดูหมองไม่ขับผิว บางสีใส่แล้วก็ดูซีดไปเลยจ้าา ยิ่งวันไหนที่เราจะต้องนัดเดทกับแฟน ซึ่งวันนั้นจะต้องเป็นวันที่เราสวยที่สุดจะต้องดูดีหมดทุกอย่าง แต่ดันเลือกสีเสื้อผ้าไม่ได้สักที วันนี้มีคำตอบสำหรับสาวๆ ที่เป็นกังวลกับปัญหาเหล่านี้จริงๆ แล้วปัญหานี้แก้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณรู้จัก Personal Color คุณก็สามารถเอนจอยกับการเลือกสีชุดเสื้อผ้าที่คุณอยากใส่มาได้แล้ว ไม่เพียงเท่านั้นนะ ยังสามารถนำมาใช้กับการแต่งหน้าและสีผมได้อีกด้วยค่ะ

Personal color คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Personal color หรือ สีประจำตัว เป็นโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้เรานั้นได้มีไอเดียว่าเครื่องสำอาง เสื้อผ้า และเครื่องประดับสีอะไรที่เหมาะกับสีผิวของตัวเองมากที่สุด และจะช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่งมีออร่าและเพิ่งเสน่ห์ในตัวเรามากขึ้น

ซึ่งโทนสีหลักๆ จะมีด้วยกัน 2 โทน ก็คือ Yellow Base และ Blue Base ซึ่งแต่ละโทนสีจะแบ่งออกไปอีกโทนสีย่อย ๆ อีก 4 ประเภท 

Yellow Base หรือ Warm Tone จะประกอบไปด้วยโทนสี 

Spring หรือ ฤดูใบไม้ผลิ สำหรับคนที่เหมาะกับสีโทนนี้ จะสังเกตง่ายๆ เลยก็คือ เวลาตากแดดนานๆ กลับมา ผิวจะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมได้ไวมาก เหมาะกับสีโทนอุ่น เช่น สีส้ม เหลือง เขียว พีช พีชอมชมพู คนที่เป็นโทนนี้มักจะมีบุคลิกที่ร่าเริงสดใส เป็นผู้หญิงน่ารักๆ ใครอยู่ใกล้ก็แฮปปี้

Autumn หรือ ฤดูใบไม้ร่วง สำหรับคนที่เหมาะกับสีโทนนี้มักจะเป็นคนเท่ๆ แต่งตัวสไตล์สายฝอ เพราะเหมาะกับสีโทนธรรมชาติ เช่น สีทอง บรอนซ์ เหลืองมาสตาร์ดหรือสีกากี หรือจะสังเกตตัวเองง่ายๆ เลยก็คือ เวลาไปตากแดดนานๆ ผิวมักจะคล้ำแดดนาน กว่าผิวจะกลับมาเป็นปกติ ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูค่อนข้างนาน

Blue Base หรือ Cool Tone จะประกอบไปด้วยโทนสี 

Summer หรือ ฤดูร้อน ถึงจะเป็นชื่อสี Summer ก็ไม่ได้หมายความว่าจะร้อนเสมอไปเด้อสู พราะคนสีโทนนี้เหมาะกับสีโทนเย็น สีอ่อน เช่น สีชมพู ฟ้า ม่วงลาเวนเดอร์ หรือไปทางสีโทนเทาอ่อน ก็จะดูเป็นสาวหวานหนึ่งกรุบ 

Winter หรือ ฤดูหนาว เป็นสาวผิวขาวที่เหมาะกับสีโทนเย็น เช่น สีโทนม่วงอมแดง แดง น้ำเงินอมม่วง แดงเบอร์กันดี เขียวเข้ม แต่จะให้เบสิคสุดอย่างสีขาวหรือสำ จะให้บุคลิกที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และยังเป็นคนทันสมัย ดูชิคๆ คูลๆ 

มาเช็ค Personal color ด้วยตัวเองกัน

เมื่อเรารู้โทนสีกันแล้ว ถึงเวลาที่เรามาเช็ค Personal color ของตัวเองกัน บอกว่าเลยศาสตร์ค่อนข้างลึกซึ้ง และต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีทักษะเฉพาะด้านมาวิเคราะห์กันแบบละเอียดเป็นรายบุคคลกันไปเลย แต่เราสามารถเช็คด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ค่ะ 

 

วิธีที่ 1 เช็คเส้นเลือดที่ข้อมือ

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายสุดๆ แล้วนั่นก็คือการดู Undertone คือ การดูโทนสีผิวจริงของเรา โดยจะแสดงสีผิวจากเม็ดสีเมลานินที่อยู่ใต้ชั้นผิว วิธีเช็คโทนสีผิวก็ง่ายๆ เลย แค่สังเกตเส้นเลือดที่ข้อมือของตัวเองค่ะ

เส้นเลือดออกสีเขียว >> สีผิวโทนอุ่น (Warm undertones)
เส้นเลือดออกสีม่วง >> ผิวโทนชมพู (Cool undertones)
เส้นเลือดออกทั้งสีเขียวและสีน้ำเงิน >> ผิวโทนธรรมชาติ (Neutral undertones)

วิธีที่ 2 เช็คหลังออกแดด

เคยสังเกตผิวตัวเองกันมั้ยคะว่า หลังออกแดดผิวของแต่ละคนเปลี่ยนสีแตกต่างกันออกไป อยากจะบอกว่าการที่สีผิวเปลี่ยนไปหลังออกแดดนี่ก็สามารถบอกถึง Undertone ได้เหมือนกัน วิธีการดูก็ง่ายมาก ๆ ค่ะ ให้ลองสังเกตผิวตัวเองหลังจากออกแดดดูค่ะ สามารถแบ่งได้เป็น 2 โทน ก็คือ หลังออกแดดแล้วผิวแดง จะจัดอยู่ในกลุ่ม Blue Base และอีกหากหลังออกแดดแล้วผิวคล้ำ นั่นก็แปลว่าเราอยู่ในโทน Yellow Base นั่นเองค่า~~ 

วิธีที่ 3 เช็คพื้นสีทองหรือสีเงิน

วิธีนี้หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าสีทอง สีเงิน มันเกี่ยวอะไรกันกับการเช็ค Personal color ซึ่งอยากจะบอกว่าสีทองและสีเงินเป็นสีของเครื่องประดับที่เราใส่กันนั่นแหละค่ะ ซึ่งวิธ็เช็คง่ายมากอีกเช่นเคย เพียงแค่ลองใส่เครื่องประดับสีทองหรือสีเงิน พอใส่แล้วก็ดูว่าสีไหนที่มันขับผิวเราที่สุด เราใส่แล้วรู้สึกว่ามันผ่อง ออร่าจับ แต่ถ้าหากใครคิดว่าเราใส่สีเงินแล้วรอด นั่นก็หมายถึงว่าผิวของเราอยู่ในโทน Blue Base และถ้าหากว่าเราใส่สีทองแล้วรอดก็แปลว่าเราอยู่ในโทน Yellow Base นั่นเองจ้า

สีผิวโทนไหนเหมาะกับเสื้อผ้าโทนไหน ?

Cool undertones – เหมาะกับเครื่องประดับเงิน ทองคำขาวและแพลทตินัม สีเสื้อผ้าเหมาะกับสีชมพู ฟ้า น้ำเงิน เขียว ม่วง ขาว ดำ ใส่เสื้อผ้าสีสว่างๆ จะทำให้ดูดีขึ้นมาก และรองพื้นเหมาะกับสีออกโทนชมพู

Neutral undertones – คนสีผิวโทนนี้บอกเลยว่าเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุด เพราะสามารถใส่เสื้อผ้าได้แทบทุกสีเลย เครื่องประดับก็ได้ทั้งทองและเงินเลยค่ะ และรองพื้นเหมาะกับสีออกสีเนื้อ ซึ่งเป็นสีกลางของสีรองพื้น

Warm undertones – สำหรับคนสีผิวโทนนี้บอกเลยว่ามีข้อจำกัดเยอะหน่อย เพราะเนื่องจากว่าเป็นโทนสีเข้มที่สุดก็อาจจะใส่สีที่ชอบไม่ได้ ต้องเป็นคนช่างเลือกจริง ๆ แหละ เหมาะกับเครื่องประดับสีทอง ใส่แล้วจะขับผิวมาก ๆ สีเสื้อผ้าที่เหมาะกับคนสีผิวโทนนี้ คือ ส้ม เขียวใบไม้ เขียวอมฟ้า เหลือง น้ำตาล สีเอิร์ทโทน หรือสีอื่น ๆ ที่ออกโทนเหลือง และรองพื้นเหมาะกับสีออกโทนเหลือง

ซึ่งไม่ว่าเราจะมีสีผิวแบบไหน สุดท้ายแล้วไม่มีนิยามว่าโทนไหนสวยหรือไม่สวยหรอกค่ะ อยากจะใส่เสื้อผ้าสีอะไร ขอแค่ให้เรามีความมั่นใจกล้าที่จะใส่ก็สวยในแบบของเราได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะสาวๆ นอกจากสีผิวแล้วเนี่ยยังมีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามไปค่ะ นั่นก็คือการดูแลผิวนั่นเองค่าาา ซึ่งอยากจะบอกว่าตอนนี้มลภาวะมันก็เยอะ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวมากมาย อาทิเช่น ผิวหมองคล้ำ ไม่เปล่งปลั่ง และใครที่กำลังมีผิวแห้งกร้านไม่เรียบเนียนอยากจะฟื้นฟูผิวให้มีความเรียบเนียน ชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน อีกทั้งอยากให้ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง แบบเร่งด่วน เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ด้วย Plasma Bright Program นั่นเอง

Plasma Bright Program 

โปรแกรม Plasma Bright เป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ มีความพิเศษที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกมากกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่นๆ เพราะเป็นโปรแกรมการเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ รักษาได้ถึงต้นเหตุของปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ รอยดำ รอยสิว ผิวหน้าหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน ให้กลับมาเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ดูสุขภาพดีได้อีกครั้ง ด้วยการเคลียร์ผิวหน้า 3 ขั้นตอน

• Plasma Laser

เริ่มด้วยขั้นตอนแรกเป็นการเลเซอร์ เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าที่คล้ำเสียให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้นเหตุของการเกิดปัญหาสิวต่าง ๆ เช่น สิวผด อุดตัน อีกทั้งยังช่วยลดความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ให้ผิวหน้ามีความเรียบเนียนมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยลดรอยแดง รอยดำ กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย   

• Ultra Bright Treatment

ขั้นตอนต่อมาเป็นการผลักวิตามินที่มีคุณภาพ สูตรเข้มข้นเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถช่วยลดปัญหาหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใส ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ดูมีออร่ามากขึ้นได้อีกด้วย

• Collagen Mask

ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการมาสก์หน้าบำรุงผิว ที่สามารถช่วยฟื้นฟูได้อย่างล้ำลึก โดยสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวหน้าจึงดูฉ่ำวาว กระจ่างใส เปล่งปลั่ง สดใสมากขึ้น หมดปัญหาผิวหน้าโทรมหยาบกร้านไปเลยจ้าา

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Plasma Bright Program

Plasma Bright Program ช่วยให้ผิวของเราขาวใสขึ้น x3 สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟู บำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหน้าอย่างรวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพชัดเจน ดังนี้

• ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้หลุดออกไปได้อย่างออกโยน ส่งผลให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นทันที
• ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดสิว ผิวหน้าสะอาดล้ำลึก
• ช่วยเปิดเซลล์ผิว ให้วิตามินเข้าสู่ผิวได้ลึกมากยิ่งขึ้น
• สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำ รอยแดง รอยดำจากสิวจางลงอย่างชัดเจน
• รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น
• ช่วยลดความมันบนใบหน้า ส่งผลให้สิวอุดตันลดน้อยลง
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูเปล่งปลั่งมากขึ้น

ไม่ว่าเราจะเป็น Personal color โทนไหน เราก็สวยได้ในสไตล์ที่เป็นตัวเองค่ะ แต่ก็อย่าลืมที่จะดูแลผิวกันด้วยนะคะ และสำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวหน้า อยากหน้าใสขึ้น แต่ลองบำรุงรักษาด้วยตัวเองเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล หรือใช้เวลาค่อนนาน อยากฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาขาวใสเรียบเนียนขึ้นอย่างรวดเร็ว แนะนำตัวช่วยนี้เลยค่ะ Plasma Bright Program รับรองเลยว่าเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก

 

APEX Clear “เคลียร์ทุกเรื่องผิว” 

สอบถามหรือปรึกษาปัญหาผิวได้เลย

Line@ https://lin.ee/wB4l0p0

#ApexBeauty #ApexClear #เรื่องผิวไว้ใจAPEXClear #ผิวเคลียร์ใสแบบไร้ที่ติ #PlasmaBright #เลเซอร์หน้าใส  #ApexClearเครียร์ทุกเรื่องผิว