บอลลูนกระเพาะ ทางเลือกใหม่ “ลดน้ำหนัก” โดยไม่ต้องผ่าตัด

    The gastric balloon is a weight loss solution that does not involve surgery or pharmaceutical intervention and is employed in the management of obesity.

    Gastric Balloon คือ การกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ทำให้คนไข้รู้สึกถึงความอิ่มตัวในกระเพาะอาหารตลอดเวลา โดยข้อดีของการกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหารนี้ จะเป็นตัวช่วยในการรักษาคนไข้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานให้มีน้ำหนักที่ลดลง 12-15% จากปริมาณน้ำหนักเดิม วิธีนี้จะเป็นการรักษาในเรื่องของการลดน้ำหนักโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องดูดไขมันกระชับสัดส่วนให้เจ็บตัวอีกเช่นกัน

    Is your body mass index (BMI) sufficient for the gastric balloon procedure?

    ตาราง Body Fat ที่เหมาะสมกับร่างกาย

     

    ลดน้ำหนักโดยการกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon) เหมาะกับใคร

    เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักค่า BMI เกิน 27 หรือเกินมาตรฐานจากปริมาณน้ำหนักตัว ทั้งนี้การลดน้ำหนักโดยการกลืนบอลลูนในกระเพาะยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนภายในร่างกายได้อีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่นอนกรน ผู้ที่มีอาการปวดเข่า หรือโรคเบาหวาน เพราะหลังจากที่ปริมาณน้ำหนักตัวลด อาการแทรกซ้อนเหล่านี้จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ให้ดีขึ้นโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อย่างเหมาะสมกับผลลัพธ์หลังกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหาร

    Who is an ideal candidate for the gastric balloon procedure?

    ลดน้ำหนักโดยการกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon) ไม่เหมาะกับใคร

    • ผู้ที่พักฟื้นจากการผ่าตัดทุกชนิดในร่างกายเป็นระยะเวลาต่ำกว่า 1-2 เดือน
    • สตรีมีครรภ์ หรือมีแพลนวางแผนที่จะมีบุตร
    • ผู้ที่มีความผิดปกติในหลอดอาหาร เช่น ร่างกายได้รับอุบัติเหตุเกี่ยวกับหลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหารรั่ว และตีบตัน
    • ผู้ที่มีความผิดปกติในกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร และมีภาวะเสี่ยงในการเป็นกรดไหลย้อนอย่างรุนแรงในร่างกาย
    • ผู้ที่มีภาวะความเสี่ยงอื่นๆ ในร่างกาย เช่น ผู้ที่เลือดแข็งตัวยาก ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย ผู้ที่แพ้ยางซิลิโคน และผู้ที่ติดเชื้อในช่องท้อง

    ข้อดีของการกลืนบอลลูนในกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon)

    • ช่วยให้ปริมาณน้ำหนักตัวจากเดิมลดไปถึง 12-15% ในระเวลาเพียงแค่ 4 เดือน โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
    • ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคข้อกระดูกเสื่อม เป็นต้น
    • น้ำหนักที่ลดลงทำให้รูปร่าง และสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น ส่งเสริมทำให้ตัวของคนไข้เองมีความมั่นใจ และมีสุขภาพจิตที่ดีตามขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน

    Benefits of ingesting a gastric balloon.

    ขั้นตอนการกลืนบอลลูนเข้าไปในกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon)

    • ในขั้นตอนแรกแพทย์จะให้คนไข้เริ่มทำการคลืนแคปซูลบอลลูนที่มีขนาดเล็กเข้าไปในกระเพาะอาหาร หลังจากนั้นแพทย์จะเอ็กซเรย์ว่าบอลลูนที่กลืนเข้าไปในกระเพาะได้ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว
    • เมื่อบอลลูนถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แพทย์จะเติมสารน้ำเกลือเข้าไปในตัวบอลลูนผ่านสายสวน ประมาณ 500 CC ทำให้บอลลูนขยายตัวในกระเพาะ (ในขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที)
    • หลังจากเติมสารน้ำเกลือเข้าไปในบอลลูนกระเพาะ แพทย์จะทำการเอ็กซเรย์ครั้งที่ 2 เพื่อความแน่ชัดว่าเติมสารน้ำเกลือเข้าไปในกระเพาะอย่างถูกต้อง และเหมาะสม
    • หลังจากผ่านกระบวนการขั้นตอนในการกลืนบอลลูนกระเพาะอาหารแล้ว แพทย์จะให้คนไข้พักสังเกตอาการหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหารเป็นระยะเวลาคร่าวๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น ซึ่งถ้าหากคนไข้มีอาการแน่นท้อง คลื่นไส้ หรืออาเจียน แพทย์จะจ่ายยาลดกรด และยาแก้อาเจียน ตามแผนการรักษา ก่อนให้คนไข้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
    • แพทย์จะแนะนำการปฏิบัติตัวหลังจากการกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร อาทิเช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อคอยสังเกตอาการเบื้องต้นหลังจากการกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร และช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
    • คนไข้จำเป็นที่จะต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น Allurion เชื่อมต่อกับเครื่องชั่งน้ำหนัก และ Smart Watch เพื่อติดตามการบันทึกข้อมูลน้ำหนัก และการออกกำลังกายเบื้องต้นในชีวิตประจำวัน เพื่อสะดวก และง่ายต่อการช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม

    Ingesting a balloon offers a secure and efficient alternative for weight reduction.

    การปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวัน หลังกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon)

    • หลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร ในช่วง 2-3 วันแรก คนไข้อาจมีอาการรู้สึกคลื่นไส้ และเหนื่อยล้า ซึ่งอาการในลักษณะนี้ สามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยการทานยาที่แพทย์จ่ายให้
    • เมื่ออาการหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหารดีขึ้น นักโภชนาการจะจัดตารางสำหรับการรับประทานอาหาร เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกิน เนื่องจากในระยะแรกหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร คนไข้จะรู้สึกถึงการรับประทานอาหารได้น้อยลง เพราะแคปซูลบอลลูนขยายตัวในกระเพาะอาหารทำให้พื้นที่ในกระเพาะอาหารมีจำนวนจำกัด ดังนั้นคนไข้ต้องเลือกรับประทานอาหารที่ดูดซึมง่าย อาทิเช่น น้ำผลไม้ น้ำเปล่า นม โยเกิร์ต แกงจืด หรือซุปใส เป็นต้น
    • แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาปรึกษา และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระยะแรกหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร ทั้งนี้แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง / เดิน ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร
    • สัปดาห์แรกหลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร ควรละเว้นการออกกำลังกายที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของแรงดันในร่างกาย เช่น การเตะฟุตบอล การดำน้ำ หรือการต่อมวย เป็นต้น
    • หลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร คนไข้ควรละเว้นการขึ้นเครื่องบิน หรือเดินทางไกล เป็นระยะเวลาคร่าวๆ ประมาณ 7 -10 วัน
    • คนไข้ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีน และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลา 4 เดือน หลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร และควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร/วัน
    • ทางทีมแพทย์จะร่วมมือกันวางแผน และคอยติดตามเพื่อให้คำแนะนำสำหรับข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการกลืนบอลลูนกระเพาะอาหารให้กับคนไข้จนครบกำหนดตามระยะเวลาที่มีการกลืนบอลลูน ซึ่งทั้งนี้คนไข้สามารถติดต่อทีมแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

    ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังจากกลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon)

    • คนไข้ที่กลืนบอลลูนกระเพาะอาหาร อาจมีอาการคลื่นไส้ แน่นท้อง เหนื่อยล้า อาเจียน ร่วมกับอาการกรดไหลย้อน (บางรายอาจเป็นมากในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์แรก) ซึ่งอาการในลักษณะนี้ สามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยการทานยาที่แพทย์จ่ายให้
    • ทั้งนี้หลังการ (Gastric Balloon) คนไข้จะต้องรีบเข้าปรึกษาทีมแพทย์โดยด่วน เช่น อาการเจ็บแน่นหน้าอก ท้องเสีย ท้องผูก หรืออาการคลื้นไส้อาเจียนมีเลือด ทานยาแล้วอาการไม่ทุเลา ซึ่งอาจเกิดจากผลข้างเคียงอื่นๆ (แต่อาการในลักษณะนี้ที่กล่าวมา อาจเกิดขึ้นได้น้อยมากต่อตัวคนไข้)

    ทั้งนี้ Apex Medical Center นอกจากจะเป็นศูนย์รวมความงามและการลดน้ำหนักแบบครบวงจรแล้ว ยังเป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และชะลอวัยแบบครบวงจร โดยทีมแทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผู้ที่เข้ารับการรักษาจะได้สุขภาพที่ดีจากการฟื้นฟูสุขภาพที่เอเพ็กซ์อย่างแน่นอนค่ะ

     

    👩🏻‍⚕️ APEX Life Center เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับคุณ

    Line : @apexlifecenter 👉🏻👉🏻 https://lin.ee/somJkar

    ☎️ 0627096891 / 0850000855