Q&A คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2022

    ว่าด้วยเรื่องของการแก้ไขปัญหารูปหน้า การฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นวิธีแก้ไขรูปหน้าวิธีหนึ่งค่ะ ซึ่งสาวๆ หลายคนเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ ก็คือ การเติมสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า “ไฮยาลูโรนิค แอซิด” เข้าสู่ผิวให้ส่วนที่เราอยากจะเติมเต็มให้กลับมาดูอิ่มฟูอวบอิ่ม เต่งตึง กระชับอีกครั้ง อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูสดใจมากยิ่งขึ้น แต่สาวๆที่อยากจะฉีดฟิลเลอร์ทั้งคนที่เคยฉีดหรือไม่เคยฉีดมาก่อนเลย ก็อาจจะมีข้อสงสัยหรือตั้งคำถามมากมายในหัวว่าควรฉีดกี่ CC ถึงจะดีนะ? กี่วันถึงจะเห็นผลและอยู่ได้นานไหม? ทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวเยอะเยอะมากมายตามโซเชียลเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์แข็ง ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล บางคนโชคร้ายไปเจอคลินิกที่ไม่สะอาดไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ ฉีดผิดที่จนตาบอดกันมาแล้วก็มีค่ะซิส เป็นฉันนี่น้องกรี๊ดเลย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องฟิลเลอร์กันค่า~~

    เช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์

    ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ตามสิทธิ์แล้วสามารถแจ้งคุณหมอ หรือ ทางคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทาง Apex Medical Center ก่อนจะฉีดแต่ละเคส คุณหมอแกะกล่องให้ดูพร้อมกับเช็ค อย. ไปพร้อมกับลูกค้าเลยค่ะ เพื่อความสบายใจในการทำหัตถการทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองง่ายๆ มีวีธีดังนี้ค่ะ

    • ราคา ถ้าราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอมค่ะ
    • ต้องมีฉลากภาษาไทย ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่จะมีฉลากภาษาไทย ซึ่งควบคุมด้วยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ฉะนั้นแล้วเนี่ยฉลากก็ต้องเป็นภาษาไทยค่ะ
    • มาตรฐานความปลอดภัย ฟิลเลอร์ทุกกล่องจะมีมาตรฐานความปลอดภัยของ อย. เป็นฉลากสีขาวติดอยู่ข้างกล่อง
    • ขายบนอินเตอร์เน็ต หรือ ตามโชเชียล บอกเลยว่าอย่าหาไปซื้อมาเองค่ะ เพราะการจะซื้อฟิลเลอร์คุณหมอหรือสถาบันนั้นๆ จะต้องยื่นเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นใบรับรองทางการแพทย์เพื่อระบุตัวตนว่าเป็นคุณหมอจริงๆ รวมไปถึงใบสถานประกอบพยาบาล ดังนั้นเนี่ยเราไม่สามารถสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตได้แน่นอนค่ะ ถ้าหากมีขายตามอินเตอร์เน็ตให้คิดไว้เลยว่าเป็นของปลอม 100% ค่ะ
    • ผู้แอบอ้างเป็นหมอ เช็คให้ชัวร์ว่าคุณหมอที่เราจะไปฉีดด้วยเนี่ย เป็นคุณหมอจริงๆ ไหม เราสามารถเช็คข้อมูลในเว็บไซต์แพทยสภาได้ค่ะ
    • ข้อมูลฉลากบนตัวกล่อง จะต้องมีชื่อบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย บริษัทนำเข้า วันหมดอายุ เลขล็อตสินค้าข้างในกล่องและข้างนอกกล่องต้องตรงกันและข้อมูลทั้งหมดจะต้องชัดเจน และที่สำคัญตัวกล่องจะต้องไม่มีรอยแกะและภายในกล่องจะต้องมีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน

    ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนดี? เติมเต็มใบหน้าส่วนไหนดี?

    สาวๆ หลายคนคงกำลังมีความกังวลใจอยู่เล็กๆ ว่า ฉันควรฉีดตรงไหนดีนะ ถ้าฉีดตรงนั้นแล้วจะดีรึป่าว หรือ เอ๊ะ ควรฉีดตรงนี้ดีนะ? ซึ่งหากสาวๆ ตัดสินใจไม่ได้ว่าฉันควรฉีดตรงไหนดี เข้าไปที่คลินิกที่เราต้องการฉีดได้เลย คุณหมอจะเป็นคนดูใบหน้าโดยรวมของเราค่ะว่าควรเติมจุดไหนเพื่อจะเสริมจุดนั้นให้สวยและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งทาง APEX Medical Center ของเรา มีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์

    ฟิลเลอร์ กี่วันถึงจะเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

    ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดเลยค่ะ โดยฟิลเลอร์จะอิ่มเต็มที่เมื่อครบ 2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องระยะเวลาที่เห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดและที่สำคัญคือยี่ห้อที่ใช้ฉีดค่ะ

     

    • Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่หลายๆ คนรู้จักและเป็นที่นิยมใช้กัน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
    • Restylane เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
    • Neuramis เป็นฟิลเลอร์ใหม่จากประเทศเกาหลี ราคาย่อมเยาว์ ผลลัพธ์อยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน

    ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดีสุด ฉีดออกมาแล้วสวยละมุม

    ขอแนะนำว่าให้เลือกฟิลเลอร์ที่ได้การรับรองจาก US FDA ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และผ่านการรับรองในไทย ตามมาตรฐาน อย. เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นไหลย้อย บวม หรือเน่า แต่จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนหรือรุ่นอะไรดี ควรอยู่ที่แพทย์เป็นผู้ประเมินให้จะดีกว่าค่ะ เพราะปัญหาใบหน้าในแต่ละบริเวณนั้น ต้องการฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหรือลักษณะเนื้อเจลที่มีความแตกต่างกันไป ซึ่งแพทย์จะดูจากปัจจัยต่าง ๆ ของคนไข้ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความหนา-บาง หรือความหย่อนคล้อยของชั้นผิว โครงสร้างกระดูก ชั้นไขมัน อายุ ประกอบกันไปค่ะ เพื่อให้ได้ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับตัวเองค่ะ สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าให้ออกมาสวยละมุน มีความเป็นธรรมชาติ

    ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ด้วยเช่นกัน  สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงลองฉีดฟิลเลอร์ไปเรื่อย ๆ ที่ APEX อันดับหนึ่งด้านการฉีดฟิลเลอร์ สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกับทุกท่านได้ค่า~ 

    • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ : APEX เลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เป็นยี่ห้อที่เมื่อฉีดเข้าผิวแล้วจะออกมาสวยเป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ
    • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : ทีมแพทย์ APEX Medical Institute (AMI) ของ APEX ได้รับการเทรนเทคนิค ความรู้ใหม่ ๆ จากอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังระดับประเทศ เป็นผู้บุกเบิกการฉีดเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกหรือฟิลเลอร์  มากว่า 30 ปี อย่างคุณหมอนัน “พญ. นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ” ผู้ก่อตั้งเอเพ็กซ์นั่นเองค่ะ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าฉีดฟิลเลอร์ที่ APEX จะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยเพอร์เฟ็คเทียบเท่าอาจารย์แพทย์เป็นผู้ฉีดให้เลยทีเดียว
    • ชื่อเสียง : เสียงตอบรับจากผู้เข้าใช้บริการทุกท่านทำให้คลินิกของเราได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีถึงความสามารถด้านการฉีดของเอเพ็กซ์ได้เป็นอย่างมาก

     

    ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?

    • ควรหยุดการทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน กลุ่มยาต้านการอับเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกซ้ำ
    • งดทานวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น Vitamin E , น้ำมันปลา , น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส , สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
    • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
    • ทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
    • ก่อนฉีดควรทำความสะอาดผิวหน้าเช็คเครื่องสำอางก่อนพบแพทย์

     

    ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 

    • งดออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรง เช่น การอบซาวน่า , แช่น้ำอุ่น รวมถึงการนวดหน้าด้วยความร้อน
    • งดการบีบ นวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้ 
    • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่เป็นเวลา 3-7 วัน
    • ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีด

    ฟิลเลอร์จะฉีดจุดไหนดีแก้อะไรได้บ้าง 

    จริงๆ แล้วฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ทั้งเติมเต็มและยกกระชับผิวหน้าเลยค่ะ เรามาแบ่งตามจุดที่คนนิยมฉีดกันดังนี้

    ฟิลเลอร์คาง หรือ เสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน ?

    บางคนอาจจะมีความลังเลอยู่เล็กๆ ภายในใจ อีกใจหนึ่งอยากจะเสริมคาง อีกใจก็อยากฉีดฟิลเลอร์ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์หรือการเสริมคางซิลิโคนนั้น เราจะต้องประเมินรูปหน้าของตัวเองก่อนค่ะว่าเราเหมาะกับอะไรมากกว่ากัน โดยสัดส่วนของใบหน้าที่สวยงามได้รูปจะต้องแบ่งสัดส่วนได้เป็น 1:1:1

    • ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางไม่ได้รูปสวย และเคสที่มีคางสั้นเล็กน้อย (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 น้อยกว่า 1 ซม.)  เพราะฟิลเลอร์สามารถเพิ่มความยาวของคางได้ 0.5 ซม. – 1 ซม. หากยาวกว่านี้จะทำให้เกิดปัญหาคางเบี้ยวเอียงได้
    • เสริมคาง เหมาะสำหรับเคสที่มีคางสั้นมากๆ (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 มากกว่า 1 ซม.) จะช่วยเติมเต็มให้คางยาวสวยได้ค่ะ

     

     

    ฉีดฟิลเลอร์คาง 

    ข้อดี

    • เป็นการปรับรูปทรงคางเล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด รูปคางไม่สวย และคางสั้น
    • มีอาการบวมเล็กน้อยหลังทำ แต่จะไม่ต้องพักฟื้นสามารถทำงานได้ตามปกติ

    ข้อเสีย

    • มีระยะเวลาที่ตัวฟิลเลอร์จะสลายไปได้ใน 1-2 ปี

    เสริมคาง

    ข้อดี 

    • เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนจึงอยู่ได้ตลอดชีวิต

    ข้อเสีย

    • เป็นการผ่าตัด จึงมีอาการบวมช้ำหลังทำและใช้เวลาพักฟื้นนาน 
    • หากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม หลังทำออกมาก็อาจะจดูยาวหรือยื่นมากจนเกินไปค่ะ

    สาเหตุฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน

    ฟิลเลอร์ถึงจะได้เป็นที่ยอมรับจากวงการความสวยความงาม แต่ฟิลเลอร์ก็สามารถกลายมาเป็นภัยร้ายได้มากกว่าการเป็นเครื่องมือที่จะเสกความสวยให้เราได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น

    • ฟิลเลอร์ปลอม ส่วนใหญ่มักเจอจากการฉีดกับหมอกระเป๋าหรือหมอที่ไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์มากพอและไม่รู็วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ของปลอม ผลของกระฉีดฟิลเลอร์ปลอมก็คือ หลังจากฉีดแรกๆ จะเหมือนปกติมากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มีเวลาผ่านไปจะพบว่าฟิลเลอร์ไม่สลายและจะจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก ทำให้ใบหน้าเสียรูปไปเลยก็ได้ค่ะ 
    • คลินิกฉีดฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐาน ไม่มีใบอนุญาตตามหลังประกอบกิจการ
    • เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีความชำนาญสูง ต้องรู้เกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ที่จะฉีดในแต่ละจุดได้ดี รวมถึงการดีไซน์รูปหน้าการวางตำแหน่งจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องเพื่อให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละคน การลงเข็มต้องมีความแม่นยำ ซึ่งหากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอมีโอกาสสูงมากที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ค่ะ

    ฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน ทำอะไรดี

    การฉีดไขมัน ก็คือ การศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่จะทำการย้ายไขมันจากบริเวณอื่นในร่างกายของเรามาเสริมเติมเต็มบนใบหน้า โดยอาจจะนำไขมันมาจากบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้องของเราค่ะ มันเลยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนกำลังลังเลอยู่ว่า ควรเติมเต็มใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ หรือ ควรเติมเต็มด้วยการฉีดไขมันดีกว่ากัน วันนี้เราก็มีข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 อย่างมาให้ดูกันค่ะ

     

    ฉีดฟิลเลอร์

    ข้อดี

    • หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
    • การดูแลตัวเองหลังฉีดไม่ยุ่งยาก
    • ราคาไม่สูงเท่าการฉีดไขมัน

    ข้อเสีย

    • ฟิลเลอร์แท้จะมีระยะเวลาในการสลายไปตามธรรมชาติ โดยจะมีระยะเวลาสลายไปได้ใน 1-2 ปี

    ฉีดไขมัน

    ข้อดี

    • เป็นการใช้ไขมันของตัวเราเองในการฉีดเติมเต็มสามารถอยู่ได้นาน
    • ไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณที่ใช้เติม เนื่องจากเป็นไขมันของเราเองขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันที่แพทย์ดูดได้

    ข้อเสีย

    • มีค่าใช้จ่ายค่องข้างสูง
    • เป็นการผ่านตัดใหญ่และมีการวางยาสลบ เพราะจะต้องผ่าตัดดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย ทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กๆ ประมาณ 1-2 ซม. หลังดูไขมัน
    • การเติมไขมันไม่สามารถคำนวณปริมาณที่จะเติมเต็มได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากการดูไขมัน 100 cc จะสามารถอยู่รอดได้เพียง 20-30 cc ของที่เติมได้ ทำให้แพทย์จำเป็นต้องเติมเต็มปริมาณให้มากที่สุด เพื่อให้ไขมันที่อยู่รอดมีปริมาณมากพอ
    • การดูแลตัวเองหลังทำจะต้องมีอาการพักฟื้นเพื่อให้เข้าที่

     

    ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันไหม?

     

     

    อยากจะบอกว่าทั้งโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ทั้ง 2 สิ่งนี้ สาวๆ หลายคนคงรู้จักมานาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในความแตกต่างของทั้ง 2 สิ่งนี้ วันนี้เราจะเปรียบเทียบให้ฟังกันค่ะ

    อย่างแรกเลย ผลลัพธ์ ของทั้ง 2 จะมีความแตกต่างกัน โบท็อกซ์ จะช่วยในการลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลงได้ และช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดย่น ให้กลับมาเรียบเนียนตึงได้อีกครั้ง ส่วน ฟิลเลอร์ เปรียบเสมือนการสร้างบ้านและเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้ดูสมส่วนและมีมิติยิ่งขึ้น 

    อย่างต่อมาเลยคือ ตำแหน่งที่ฉีด ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุดได้ตามต้องการ อย่างที่บอกไปว่ามันคือการเติมเต็ม แต่โบท็อกซ์จะมีจุดที่สามารถฉีดได้ ไม่ว่าจะเป็น การฉีดเพื่อลดกราม ลิฟท์กรอบหน้า ลดน่อง ลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว ผิวหนังบริเวณคอและมือที่เหี่ยว และบริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกาย

     

    รวมรีวิวฉีดโบท็อกซ์ APEX Medical Center

     

    รับวัคซีน Covid-19 ไปแล้ว ฉีดฟิลเลอร์ จะอันตรายไหม?

    ตั้งแต่มีเจ้าไวรัสโควิดโคใจขึ้นมา ทำให้ต้องมีวัคซีนเพื่อป้องกันหรือยั้บยั้งการติดเชื้อหากได้รับเชื้อในอนาคต ซึ่งหลายคนอาจจะมีคำถามในใจมากมาย เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนที่เข้าคลินิกเสริมความงามเป็นประจำ ว่าสามารถมาทำหัตถการต่าง ๆ ได้ไหม เช่น การฉีดโบท็อกซ์  ฟิลเลอร์ จะมีอันตราย หรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง สำหรับคนที่มีคำถามคาใจเหล่านี้อยู่ วันนี้เรามีคำตอบมาไขข้อข้องใจของทุกคนกันค่า~~ 

    สำหรับโรคระบาดโควิด 19 (Covid-19) ยังถือเป็นโรคอุบัติใหม่ในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องของการฉีดวัคซีนด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้อมูลงานวิจัยต่างๆ ยังคงมีไม่เยอะมาก และยังไม่มีการรับรองตรวจสอบการฉีดวัคซีน ซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ มีเพียง 2 เคสที่ได้รับรายงานมาว่าเคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อนได้รับวัคซีนป้องกัน Covid -19 โดยเคสแรกที่เป็นผู้หญิง เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 6 เดือนก่อนที่จะได้รับวัคซีน ส่วนอีกหนึ่งเคสเป็นผู้ชายที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะได้รับวัคซีน เกิดอาการหน้าบวม แต่ทั้งสองเคสได้เข้ารับการรักษา และหายเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ไม่พบอาการรุนแรงใดๆ 

    เพิ่งรับวัคซีนป้องกัน Covid-19 จะสามารถฉีดฟิลเลอร์ ได้หรือไม่ ?

    จริง ๆ แล้วสามารถทำได้ตั้งแต่กลุ่มของการเลเซอร์ รวมไปถึงการฉีดโบท็อกซ์ สามารถฉีดได้เลยไม่ต้องเว้นระยะเวลา ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ในกลุ่มของสารเติมเต็ม อย่างฟิลเลอร์ แนะนำว่าควรเว้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับวัคซีน ก็จะดีกว่าค่ะ และเมื่อเว้นระยะเวลาแล้วก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ตามปกติได้เลยค่ะ

    ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

    • คนที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
    • คนที่มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
    • คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
    • คนที่มีอาการแพ้ยาชา
    • คนที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ง่าย

    ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์

    สำหรับผลข้างเคียงนะสาว ถึงแม้เราจะเลือกคลินิกที่ไว้ใจแล้วตรงมาตรฐานทุกอย่าง เลือกยี่ห้อที่จะฉีดเอยใดๆ เอยแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าคุณจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เพราะร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้นแล้วคนที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกอาจจะไม่รู้เลยว่าจะมีผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยๆ ก็มีดังนี้เลยค่า

    • เกิดรอยนูน ขรุขระ เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน สาเหตุเกิดจากการฉีดที่ผิวชั้นตื้นเกินไป หรือ การเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณจุดฉีด
    • ฟิลเลอร์ไหลเคลื่อนออกจากตำแหน่งจุดฉีดไปยังบริเวณที่เราไม่ต้องการ อาจจะส่งผลทำให้ใบหน้าผิดรูปได้
    • เกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ คันเป็นผื่นแดงและอาจจะมีลมพิษขึ้นตามมา หากใครเจอปัญหานี้ควรที่จะรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
    • อาการปวดบวม แดง มีตุ่มหรือมีก้อนหนองบริเวณจุดฉีด ลักษณะนี้บ่งบอกว่าคุณกำลังติดเชื้อหลังการฉีดฟิลเลอร์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ฉีดกับหมอเถื่อนค่ะ
    • ฉีดฟิลเลอร์ แล้วตัวยาเข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่นำมาเลี้ยงผิวหนังและรวมถึงจอประสาทตา อาจส่งผลให้ผิวบริเวณรอบๆ จุดฉีดตาย หรือ ถึงขั้นตาบอดได้

    รวมรีวิวฉีดฟิลเลอร์ APEX Medical Center


    “เอาละค่าา~~ เป็นยังไงกันบ้างคะวันนี้สำหรับ “Q&A คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2022” ถือว่าเราได้ทำหน้าที่คลายความกังวลให้กับสาวๆ หลายคนแล้วเนอะ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคนแล้วนะคะ อาจจะเป็นสาระดีๆ ที่จะช่วยคลายความสงสัยให้ใครหลายๆ คนได้นะ รวมถึงถ้าใครมีเเพลนในใจคิดอยากจะฉีดฟิลเลอร์ แต่ไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี ที่ APEX พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลเต็มที่เลยค่ะ หากสนใจหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ APEX Medical Center ทั้ง 35 สาขาทั่วประเทศได้เลยค่า~~”

     

    สำหรับท่านใดที่สนใจ ฉีดฟิลเลอร์ สามารถจองนัดปรึกษาแพทย์ฟรี และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เอเพ็กซ์ทุกสาขาได้เลยค่ะ

    สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨ 

    📞 085-​0000855

    🟣 Line OA : @apexlifting  (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)

    🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

    🟣 Facebook : Apex Profound Beauty

    🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox

    🟣 IG : apexbeauty

    APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ