รู้หรือไม่! โบท็อกซ์ ไม่เพียงแต่ลดริ้วรอย แต่ยังช่วยรักษาโรคไมเกรน

ใครไม่เคยปวดไมเกรน” คงไม่รู้ว่าอาการปวดไมเกรนนั้นทรมาณมากขนาดไหน และมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากอย่างไร เรียกว่าปวดมากจนไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องหยุดงาน หยุดเรียน ที่สำคัญ ไม่น่าเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับอาการปวดไมเกรน สำหรับในเมืองไทยพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนมากถึง 17% โดยผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

อาการปวดศีรษะแบบไมเกรนจะมีลักษณะค่อนข้างชัดเจน คือ มักจะปวดบริเวณขมับโดยอาจจะปวดข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ บางกรณีอาจมีการปวดสลับกันไป และมักจะปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำๆ ส่วนอีกบริเวณหนึ่งที่พบมาก ได้แก่ บริเวณเบ้าตา ลักษณะของการปวดก็มักจะปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

อาการปวดศรีษะไมเกรนที่เกิดขึ้นนี้อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรืออาจเกิดขึ้นเรื้อรังไม่หายขาด ซึ่งหากมีอาการปวดศรีษะมากกว่าหรือเท่ากับ 15 วันต่อเดือนเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน จะถือได้ว่าเป็นอาการของโรคปวดศรีษะไมเกรนชนิดเรื้อรัง

โบท็อกซ์ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน

ในปี 2010 โบท็อกซ์ได้รับ U.S FDA approved นับเป็นการรักษาอาการไมเกรนครั้งแรกที่ได้รับการรับรองผลการรักษาจางค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับการรับรองผลการรักษาจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย

โบท๊อกซ์ รักษาไมเกรนได้

โบท็อกซ์ นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม ว่าสามารถช่วยทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าหายไป ช่วยให้ดูอ่อนวัยได้ในเวลาไม่กี่นาที มาถึงตอนนี้ botox ไม่เพียงแต่ช่วยให้ริ้วรอยหาย แต่ยังช่วยให้อาการปวดศีรษะไมเกรนหายไปอีกด้วย ในอดีตการรักษาก็จะหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการหรือทานยาแก้ปวด ซึ่งไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุและไม่ได้ทำให้อาการหายไปแต่อย่างใด

ทำไมโบท็อกซ์จึงรักษาอาการไมเกรนได้?

อาการปวดศีรษะไมเกรน เกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่า และคอ ทำให้รบกวนระบบการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดอาการตึงและปวด ตามมาด้วยอาการของเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เห็นแสงระยิบระยับ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

โบท็อกซ์เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ออกฤทธิ์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัวทำให้อาการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคอ ที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดไมเกรนคลายตัวช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น เป็นการรักษาอาการปวดไมเกรนที่ต้นเหตุ สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศรีษะ ลดความถี่ของอาการปวดศรีษะ รวมทั้งทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยาฉีดยังมีความปลอดภัยสูง และยังพบว่าผู้รับการรักษาไมเกรนด้วยการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยที่บริเวณหน้าผากลดน้อยลง ถือเป็นผลข้างเคียงที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้ารับการรักษา ไม่เพียงแต่หายปวดไมเกรนแต่ยังดูอ่อนวัยลงด้วย

สำหรับการฉีดเพื่อรักษาไมเกรน จะฉีดในทุกๆ 3 เดือน และมีตำแหน่งการฉีดเฉพาะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมการฉีดเพื่อลดอาการไมเกรนโดยเฉพาะ ไม่เช่นนั้นก็อาจไม่ได้ผล

โบท็อกซ์รักษาไมเกรน

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดโบท็อกซ์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

อ่านบทความเพิ่มเติม : https://www.apexprofoundbeauty.com/?s=%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C