Ulthera กับ Thermage หลายๆ คนคงกำลังกังวลใจอยู่ใช่ไหมคะ ว่าจะเลือกตัวไหนดีที่ช่วยฟื้นคืนความกระชับให้ใบหน้าของเราอ่อนเยาว์เหมือนก่อน นอกจากจะเลือกอย่างไรดีแล้ว ก็คงกังวลใจด้วยว่าจะเลือกคลินิกไหนดี ซึ่งเป็นอีก 1 คำถามในใจแน่นอน คุณหมอนันทภัทร์ มีคำแนะนำมาฝากค่ะ
สารพัดครีมกระชับผิวที่บอกสรรพคุณว่า สามารถทำให้ผิวกระชับขึ้นได้ อันที่จริงเป็นเพียงคำโฆษณาเท่านั้น เพราะครีมตัวไหนก็ไม่มีพละกำลังลงลึกไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ เพราะครีมทั่วไปแทรกซึมเพียงผิวชั้นบนเท่านั้น หากจะส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นโครงสร้างผิว ต้องพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์เท่านั้นค่ะ และหากเอ่ยถึงตัวแม่ในการกระชับผิวก็มีอยู่ 2 ตัว คือเทอร์มาจ (Thermage) และอัลเทอร่า (Ulthera) ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็น World Standard และผ่านการรับรองจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับอย่างองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา US FDA ที่ควบคุมมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ต่างๆ หากเครื่องมือตัวใดผ่านการรับรอง นั่นหมายถึงการการันตีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เห็นผลจริงและเชื่อถือได้
ชั้นผิวหนังของมนุษย์
ก่อนจะไปดูความแตกต่างเรื่องหลักการทำงานของ Ulthera กับ Themage เรามาทำความเข้าใจในเรื่องชั้นผิวของมนุษย์กันก่อนค่ะ ปกติผิวหนังของคนเราจะประกอบด้วย 3 ชั้น ก็คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) , ชั้นหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมัน (Subcutis)
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากพวกมลพิษต่างๆ เช่น สารพิษ, แบคทีเรีย เชื้อรา และป้องกันการสูญเสียน้ำ
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นที่มีความหนาและมีความยืดหยุ่น ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน เนื้อเยื่อที่ให้ความแข็งแรง ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีสุภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ดูเต่งตึง
- ชั้นไขมัน (Subcutis) เป็นชั้นที่อยู่ในสุดของชั้นผิวหนัง ประกอบด้วย เซลล์ไขมัน (adipocytes & special collagen fibres) โปรตีนคอลลาเจน และหลอดเลือดต่าง ๆ ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน และเป็นเกราะป้องการกระแทกให้กับอวัยวะภายใน
ชั้นผิวหนังแท้ที่มีส่วนประกอบหลักของคอลลาเจนเนี่ยล่ะค่ะ เมื่อเรายิ่งมีอายุมากขึ้นร่างกายผลิตคอลลาเจนน้อยลง ผิวหนังชั้นนี้ก็จะเหี่ยวและเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน
คุณสมบัติพลังความร้อนของเครื่องยกกระชับ Ulthera กับ thermage สามารถยิงพลังงานลงลึกครอบคลุมได้ทั้ง 3 ชั้นผิว หลังยิงผิวจะแน่นและกระชับ มีความยืดหยุ่น เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้าได้และยิ่งไปกว่านั้นการยกกระชับด้วย Ulthera SPT ยังสามารถลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น smas (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า ส่งผลให้เกิดการหดตัว ผลที่ได้จึงครอบคลุมปัญหาได้หลายด้าน ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย จึงทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้น
Ulthera กับ Thermage แตกต่างกันอย่างไร?
Ulthera กับ Thermage เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นผลเรื่องการยกกระชับผิวลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยเหมือนกัน แต่ต่างกันที่หลักการทำงานและค่าพลังงานค่ะ
การทำงานของ Ulthera
Ulthera ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาด์ชนิด Micro Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ที่เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง สามารถลงไปใต้ชั้นผิว SMAS โดยจะมีความร้อนที่อยู่ในระดับ 60-70°C ลักษณะพลังงานที่ได้จะเป็นจุดพลังงานขนาด 1 mm ที่มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว และมีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปแบบ Real time โดยใช้หัวที่มีความลึกถึง 3 ระดับ คือ
- ลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- ลึก 3 mm สำหรับลดความหย่อนคล้อยของผิว กระชับชั้นไขมัน
- ลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น SMAS ที่เป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมผิวหน้า เหมาะสำหรับยกแก้ม เหนียง และลำคอ
การทำงานของ Themage
เทอมาจทำงานโดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF เป็นคลื่นที่มีความถี่สูง สามารถลงลึกไปถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน อิลาสติน และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยจะมีก้อนความร้อนขนาด 3-4 cm ความร้อนอยู่ที่ 40-50°C กระจายเป็นวงกว้าง และมีการปรับค่าพลังงานถึง 0-4 ระดับ คือ
- Thermage ระดับ 0-1 ขณะทำคนไข้จะรู้สึกสั่นบริเวณผิว แต่จะยังไม่รู้สึกอุ่น เห็นผลการรักษาน้อย
- Thermage ระดับ 2-2.5 มีค่าพลังงานอยู่ที่ 2-2.5 ขณะทำคนไข้จะรู้สึกร้อนขึ้น แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ เห็นผลลัพธ์หลังการรักษาเป็นไปตามที่ต้องการ
- Thermage ระดับ 3-4 พลังงานระดับนี้จะร้อน ในบางเคสจะร้อนเกินไป แม้จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าระดับอื่น แต่อาจทำให้บาดเจ็บได้ และไม่เหมาะกับเคสที่ผิวแพ้ง่าย
Ulthera กับ Thermage ยกกระชับหน้า ตัวไหนดี?
หลายปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น แสงแดด มลภาวะ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้คอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวก็เริ่มลดลงไม่แน่นกระชับดังเดิม ผิวที่เคยกระชับตึงก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น ทั้งนี้เกิดจากคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพ คอลลาเจน คือ โปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน มีลักษณะเป็นสายยาว โดยมีมากที่สุดที่ผิวหนัง ผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดี เมื่ออายุมากขึ้นเส้นใยของคอลลาเจนจะเสื่อมสภาพลงทำให้แรงสปริงตัว และความยืดหยุ่นที่เคยมีในวัยเด็กเสื่อมสลายไป ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิว
อ่านมาถึงตรงหลายคนอยากรู้กันแล้วว่าระหว่าง Ulthera กับ Themage เราจะเลือกแบบไหนดี ขอบอกเลยว่ามันขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลค่ะ อย่างการทำ Ulthera จะมีจุดโฟกัสเป็นเส้นใหญ่ สามารถส่งผ่านพลังงานไปที่ชั้นผิวหนังชั้น SMAS เหมาะกับคนที่มีชั้นไขมันน้อย
ส่วน Thermage เป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ เด่นในเรื่องของการลดชั้นไขมันที่ใบหน้าและเพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันเยอะ
จุดเด่นของ Thermage
เทอร์มาจ (Thermage) คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวในชั้นนี้โดยใช้หลักการส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เข้าไปทำงานในส่วนนี้ของผิว คือ จะลงไปแก้ปัญหาที่เส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่นสปริงตัว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดกลับมา และมีเกลียวที่ขึงตึงขึ้น ยึดเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดีขึ้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมีสปริงและผิวกระชับขึ้น
- เห็นผลหลังทำ 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารภทำกิจกรรมได้ตามปกติ
- ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 40-90 นาที
- ครอบคลุมทุกชั้นผิวและชั้นไขมัน
- สามารถทำได้ทั้งหน้าและลำตัว
เมื่อศึกษาให้ลึกซึ้งแล้วจะพบว่าความหย่อนคล้อยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ชั้นผิวเท่านั้น เพราะใต้ชั้นผิวหนังแท้ของเรายังมีชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้ออยู่ด้วย ระหว่างชั้นไขมัน และกล้ามเนื้อจะมีพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ เรียกว่า SMAS เป็นเสมือนเบาะตาข่ายรองอยู่ใต้ชั้นไขมัน ซึ่งยึดติดอยู่กับชั้นผิวหนังอีกที เมื่ออายุมากขึ้นตาข่ายพังผืดนี้จะขาดความแข็งแรง เริ่มหย่อนคล้อยส่งผลให้ผิวหย่อนยานตามไปด้วย เปรียบเหมือนโครงหลังคาที่ยึดกระเบื้องไว้ เมื่อชำรุดก็ไม่สามารถยึดกระเบื้องไว้ได้เช่นเดียวกับผิว เมื่อ SMAS มีความหย่อนคล้อยและเสื่อมสภาพ ทำให้ไม่สามารถยึดคอลลาเจนให้มีความตึงกระชับยืดหยุ่นดีไว้ได้
จุดเด่นของ Ulthera
ด้วยเหตุนี้เองจึงต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่าอัลเทอร่า (Ulthera) ซึ่งเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวล่าสุดในขณะนี้ อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นการยกกระชับในระดับที่ลึกที่สุดเท่าที่เคยมีมา ใช้พลังงานโฟกัสอัลตร้าซาวด์ที่เข้มข้น สามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อพังผืด (SMAS) ที่ยึดทำหน้าที่คอลลาเจน เมื่อ SMAS หย่อนคล้อย ก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยไปด้วย อัลเทอราพี (Ulthera) จะส่งพลังงานลงไปเป็นจุดๆ ถี่ๆ ในหลายความลึก ทั้ง 1.5มม ที่ชั้น Dermis / 3.0มม ที่ผิวชั้นกลาง / 4.5มม ที่ชั้น SMAS โดยพลังงานที่ส่งลงไปจะเสมือนลงไปเย็บตะเข็บผ้าที่ยืดย้วยให้กลับมาตึงอีกครั้ง ทำให้ผิวยกกระชับขึ้น คิ้วยกขึ้น ตาโตขึ้น สามารถแก้ไขกรอบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาได้รูปอีกครั้ง ผลการรักษาอยู่ได้นาน 2 – 4 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละคนนะคะ
- เห็นผลหลังทำ 30% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- ให้ความแม่นยำสูง มีระบบแสดงหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงแบบ Real Time
- ครอบคลุมทุกชั้นผิว ลงลึกถึงผิวหนังชั้น Smas ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
- ยกกระชับ ลดสัดส่วน ได้ทั้งหน้าและตัว
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำกิจกรรมได้ตามปกติ
- การันตีเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA
Ulthera กับ Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?
โดยส่วนใหญ่แลวผู้คนมักทำ Ulthera และ Thermage เพื่อแก้ปัญหาผิวบริเวณใบหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้ง Ulthera และ Thermage สามารถใช้สำหรับผิวบริเวณอื่นได้ด้วย ตำแหน่งต่างๆ ที่สามารถทำ Ulthera ได้ มีดังนี้
- ใบหน้า
- รอบดวงตา
- ใต้คาง
- ลำคอ
- หน้าอก
- ท้องแขน
- หน้าท้อง
Ulthera กับ Thermage อยู่ได้นานแค่ไหน
จริงๆ ทั้ง Ulthera และ Thermage จะเห็นผลทันทีหลังทำเสร็จครั้งแรกประมาณ 20-30 % แต่จะมีระยะเวลาเห็นผลหลังทำ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขั้นเรื่อยๆ Ulthera ผิวยกกระชับขึ้นใน 1-2 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น 2-3 เดือนค่ะ ในส่วนของ Thermage สามารถเห็นผลหลังทำ 20% เห็นผลชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนค่ะ
Ulthera : หลังทำ Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี สามารถทำซ้ำได้ไม่มีผลข้างเคียง ไม่อันตราย ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับเนื้อเยื่อในบริเวณที่ใกล้เคียงค่ะ
Thermage : หลังทำ Thermage ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี แนะนำให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แต่ถ้าใครต้องการยกกระชับมากขึ้นสามารถทำได้ทุก 3 เดือน
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Ulthera SPT หรือ Thermage ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังทำขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ เพื่อให้ผิวกระชับเรียบเนียนยาวนานขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
Ulthera กับ Thermage เจ็บไหม ?
ทั้ง Ulthera และ Thermage ขณะทำจะมีความรู้สึกร้อนข้างในผิวเป็นจุดๆ คล้ายกับโดนเข็มทิ่ม เนื่องจากเกิดความร้อนขึ้นในผิวทั้งคู่ ส่วนความเจ็บขึ้นอยู่กับความร้อนที่ใช้ทำ โดยปกติจะใช้อุณหภูมิประมาณ 60 องศา หากกังวลเรื่องความเจ็บ สามารถบอกผู้ให้บริการเพื่อแปะยาชาเฉพาะที่ได้ หรือหากระหว่างกำลังทำรู้สึกเจ็บเกินไป ก็สามารถแจ้งผู้ให้บริการให้ลดกำลังเครื่องลงได้เช่นกันค่ะ
Ulthera กับ Thermage ใช้เวลาทำนานแค่ไหน?
Ulthera จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่ตำแหน่งและจำนวนช็อตที่ใช้ค่ะ ใบหน้าส่วนล่างที่หย่อนคล้อยมาจากภายในใช้เวลาแค่ 30-45 นาที
Thermage มักใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เนื่อจากมีจำนวนช็อตที่ค่อนข้างแน่นอน และส่วนใหญ่มักไม่ทำแค่ใบหน้าส่วนล่างหรือคางเหมือนกับ Ulthera
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เราเหมาะกับเทคโนโลยีใด?
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านผิวหนัง จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ต้นเหตุหลักของความหย่อนคล้อยของแต่ละคนเกิดจากสาเหตุใด เพื่อการปรับใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการปรับโครงสร้างผิวให้กลับมาตึงกระชับอีกครั้ง
แต่ไม่ใช่แค่การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเท่านั้น การปรับรูปหน้าตามองศาความงาม หรือตามทิศทางกล้ามเนื้อที่เหมาะสม จะทำให้โครงหน้าสวยงามได้รูป แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าจะดีไซน์ให้ลงพลังงานอย่างเหมาะสมในแต่ละจุด เพื่อการปรับรูปหน้ากลับสู่องศาความงามมากที่สุด ทำให้สวยขึ้นในแบบของคุณเอง ดูโดดเด่นขึ้น อีกทั้งการใช้พลังงานที่เหมาะสม ทำให้ลดความเสี่ยงต่างๆ อันอาจจะเกิดจากการใช้เครื่องมือแพทย์ค่ะ ดังนั้นแล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจ ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ดีกว่านะคะ
Ulthera กับ Thermage เลือกแบบไหนดี?
สรุปแล้วก็คือ Ulthera และ Thermage จะให้ผลลัพธ์ในเรื่องการยกกระชับคล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่ค่าพลังงาน สำหรับใครที่ลังเลว่าระหว่าง Ulthera กับ Thermage เลือกทำแบบไหนดี ทางเราแนะนำว่าควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อให้วางแผนและเลือกหัตถการที่เหมาะสมให้ค่ะ ที่ Apex Medical Center ใช้ Ulthera และ Thermage เครื่องแท้ได้มาตรฐาน ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้ามากกว่า 5-10 ปี สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แพทย์จะวิเคราะห์ใบหน้าของคนไข้ได้อย่างละเอียด และแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม คุ้มค่า ปลอดภัยค่ะ
สำหรับท่านใดที่สนใจยกกระชับผิวนัดปรึกษาแพทย์ฟรี และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เอเพ็กซ์ทุกสาขาในกรุงเทพ อยุธยา พัทยา ชลบุรี โคราช เชียงใหม่และภูเก็ตได้เลยค่ะ
📱 085-0000855
📱 Line : @apexlifting
คลิก https://lin.ee/nxtKNtl
APEX ของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน คอยให้บริการทุกท่านอยู่นะคะ
รับสิทธิ์
ยกกระชับหน้า ลดสูงสุด 50%