ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ สาเหตุหนึ่งมาจากสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินและการตัดสินใจ โดยเฉพาะ “แฟน” ที่เป็นอุปรรคอย่างดีในการลดน้ำหนัก บางคนถูกแฟนขอไว้เพราะไม่อยากให้ลดน้ำหนักด้วยเหตุผลส่วนตัว บางคนมีแฟนชวนกินอาหารอร่อยตลอดเวลาก็อยากที่จะปฎิเสธ จนในที่สุดก็กินจนไม่สามารถลดน้ำหนักได้ เราจึงมี 4 กลยุทธ์ที่จะช่วยคุณจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้มาฝากกัน
4 กลยุทธ์ ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ไม่ให้แฟนมาเป็นอุปสรรค
- บอกให้เขารู้ว่าเราจะลดน้ำหนัก
จริง ๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้เป็นอุปสรรคของเราจริง ๆ ก็ได้ เพียงแต่เราอาจจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในชีวิตจนเขาเกิดความสงสัย และคิดจินตนาการไปต่าง ๆ นานา เพราะเราไม่ได้บอกเขาว่าเรากำลังทำอะไร ดังนั้น ก่อนเริ่มการลดน้ำหนักเราควรบอกเขาก่อนเพื่อที่เขาจะได้รับรู้และปรับตัว เช่น เราต้องการที่จะกินน้อยลง อยากให้เขาชวนเรากินน้อยลง หรือเราต้องการทำ IF อาจจะไม่ได้กินข้าวพร้อมกับเขา อยากให้เขาเข้าใจตรงนี้ เป็นต้น
- ทำให้เขาลดน้ำหนักพร้อมเราแบบไม่รู้ตัว
การที่แฟนของเราเป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนักนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัยตามแต่ละบุคคล แต่การทำกิจกรรมหรือกินข้าวด้วยกัน อาจจะทำให้เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จเช่นกัน โดยเราอาจจะชวนเขาไปออกกำลังกาย เล่นเกมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกาย ทำหรือซื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพมากินด้วยกัน โดยไม่บอกว่าเป็นอาหารสุขภาพหรืออาหารลดน้ำหนัก อย่างอาหารคีโตที่ไม่มีการใส่น้ำตาล สาเหตุของความอ้วน เป็นต้น
- โน้มน้าวด้วยข้อมูลสุขภาพ
ถ้าหากบอกเขาว่าเราจะลดน้ำหนักแล้วเขายังเป็นอุปสรรคของเราอยู่ ให้เราพูดถึงเรื่องสุขภาพกับเขา ว่าการลดน้ำหนักนั้นทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นอย่างไร ตอนนี้เรามีปัยหาสุภาพอะไรบ้าง เช่น เรามีพุงที่ใหญ่มาก ๆ นั้นอาจจะส่งผลให้เราปวดหลังไปด้วย การบอกแบบนี้อาจจะทำให้เขาเข้าใจเรามากขึ้น
- ชวนเขาลดน้ำหนักพร้อมเรา
หากทำมาจนวิธีนี้แล้วยังไม่สำเร็จ แฟนยังชวนกินของอร่อย หรือนำของอร่อยมาดึงดูดให้เรากินมากขึ้นอีก คราวนี้เราลองชวนเขามาลดน้ำหนักกับเราเป็นเพื่อนเลยจะดีกว่า ซึ่งอาจจะใช้วิธีการโน้มน้าวด้วยสุขภาพของเขาเองเหมือนที่เราโน้มน้าวของเรา หรือชวนอกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน
สำหรับใครที่มีแฟนเป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนัก ก็สามารถนำวิธีที่เราแนะนำไปลองใช้กันดูได้ แต่อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักจะไม่สามารถสำเร็จได้เลยหาก “ตัวเราเองคืออุปสรรค” ซึ่งเราเข้าใจดีว่าการควบคุมของหิวของตัวเราเองนั้นเป็นเรื่องยาก เราจึงมีตัวช่วยลดความหิวแบบปลอดภัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝากกัน
ตัวช่วยลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape
เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
สมองส่วนกลาง : ทำให้รู้สึกไม่หิว อิ่มนาน ทนน้อย
กระเพาะอาหาร : ย่อยและดูดซึมได้นานขึ้น เพราะหลังทานอาหาร ลำไส้เล็กจะหลั่ง GLP-1 ออกมา เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมอง โดยจะออกฤทธิ์ 24 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน สามารถลดความหิวและความอยากอาหาร ทำให้ทานได้น้อยลง
ตับอ่อน : ผลิตฮอร์โมนอินซูลินดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ Slim Shape ช่วยการหลั่งฮอร์โมนนี้มีคุณภาพดีขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10% นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา
