รักษาแผลเป็น หลุมสิว กระชับรูขุมขน ทั่วหน้าเพียง 15,000 บาท

    การรักษาแผลเป็น หลุมสิว หรือ กระชับรูขุมขน สามารถทำได้หลายวิธี โดยแพทย์จะเลือกใช้ เครื่องมือที่เหมาะสม ในการรักษาแต่ละประเภท นอกจากการใช้เครื่องมือที่เหมาะแล้ว พลังงานที่ใช้และประสบการณ์ของแพทย์ ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถเลือกช่วงพลังงานที่เหมาะสม เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

    ทำความรู้จักกับ ตัวช่วยในการรักษารอยหลุมสิว และแผลเป็น

    รอยแดงอักเสบแดงช้ำเป็นจ้ำ

    รอยแผลเป็นจากสิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นรอยแดงจากการอักเสบอยู่ เกิดจากการอักเสบซ้ำซ้อนของสิว เมื่อสิวยุบร่างกายจะมีกลไกการซ่อมแซม ผิวหนังที่อักเสบแต่ยังไม่หายสนิทจึงทำให้เกิดเป็นรอยแดง

    รอยสิวสีดำหรือน้ำตาล

    รอยแผลจากสิวชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อกระบวนการสมานเนื้อเยื่อและการสร้างเซลล์เม็ด สีผิวไม่สมบูรณ์ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดเป็นสีดำหรือน้ำตาล ถึงแม้ว่าสิวจะหายสนิทแล้วก็ตาม รอยสิวชนิดนี้จะค่อยๆ จางหายเองแต่อาจจะต้องใช้เวลา

     

    live2

    รอยแผลเป็นชนิดบุ๋ม เป็นหลุมจากรอยสิว

    รอยแผลชนิดนี้เกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อบนชั้นผิวถูกทำลายและไม่สามารถสร้างขึ้นมา ใหม่ได้ ซึ่งส่วนมากมักเกิดจากการบีบสิวและทำให้สิวติดเชื้อแบคทีเรียนั่นเองโดยส่วน มากจะพบบริเวณใบหน้าและรอบแก้มแผลเป็น และรอยดำจากสิว แม้จะรักษายากกว่าสิว แต่ก็รักษาได้ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถกลับมาสวยใสผิวเรียบเนียนได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะแผลแบบจิ๊บๆ หรือแผลลึกแบบโลกพระจันทร์ ก็จัดการได้ เรามาดูว่า วิธีไหนบ้างที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

    โปรโมชั่น หลุมสิว
    *ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล

    1. Microdermabrasion ทรีตเม้นนี้ สำหรับรอยเล็กๆจางๆ โดยการทำทรีตเม้นต์จะช่วยลอกเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วให้หลุดออก กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และขจัดสิ่งตกค้างอุดตันในผิว กระตุ้นการผลัดผิวในชั้นบนสุด ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ มีส่วนช่วยให้แผลเป็นจากสิวหายเร็วขึ้น และรอยแผลต่างๆ ดูตื้นขึ้น รอยด่างดำ จะค่อยๆจางลงเมื่อรักษาต่อเนื่อง 5 – 10 ครั้ง แต่ถ้ามีหลุมลึก ที่ทิ้งไว้ค่อนข้างนาน อาจเลือกใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ หรือ RF ช่วยในการรักษา

    2. Intense Pulsed Light หรือ IPL หรือบางที่เรียก Bright Laser อีกหนึ่งเครื่องมือในกลุ่มเดียวกันคือ VBeam เราอาจเข้าใจว่าเป็นเลเซอร์ แต่ความจริงแล้ว IPL เป็นพลังงานแสงความเข้มสูง คล้ายแสงแฟลช โดยความยาวคลื่นต่างๆ จะช่วยโฟกัสปัญหาในแต่ละชั้นผิว ตั้งแต่เรื่องการเก็บเม็ดสีที่เสื่อมสภาพ ลดความหมองคล้ำ รอยด่างดำ เส้นเลือดฝอย รอยแดง จนไปถึงการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือปรับเปลี่ยนรูปทรงของเนื้อเยื่อแผลเป็นใต้ชั้นผิว ผลลัพธ์ คือ จะช่วยลดเม็ดสี ช่วยขจัดรอยแดง และกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใสขึ้น

    3. Functional Laser หรือ Fraxel Fine หรือ Fine Scan เป็นเลเซอร์ฟื้นฟูผิว และแก้ไขปัญหาหลายชนิด ด้วยหลักการทำงานของ Functional Laser เป็นการยิงเลเซอร์กระจายเป็นจุดเล็กๆลงบนผิว ในรูปแบบ Pixel หลายๆจุดต่อตารางนิ้ว จึงมีอีกชื่อเรียกว่า Pixel Laser โดยพลังงานเลเซอร์จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว หลังจากทำเลเซอร์อาจมีผิวเป็นขลุยลอก เป็นกระบวนการกระตุ้นการผลัดเซลล์ ซึ่งไม่กี่วันก็จะเผยผิวใหม่ที่เนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น จำนวนครั้งในการรักษา ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน เทคโนโลยีนี้ ต่อยอดมาจาก Fraxel Restore มีคอนเซปเดียวกัน แต่ด้วยผิวหนังของเอเชีย ที่คล้ำง่าย และต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดด จึงมีการพัฒนาต่อยอดให้พลังงานเหมาะสมกับผิวคนเอเชียมากขึ้น

    แผลเป็น การส่งผ่านพลังงานลงส่ผิวหนัง

    4. Sublative RF (nano-fractional RF) ที่ผ่านมา การทำเลเซอร์เพื่อรักษาแผลเป็น จะเป็นการเผาผิวชั้นบน ทำให้ต้องมีระยะให้ผิวพักฟื้น ผิวมีโอกาสดำระยะหนึ่ง ล่าสุดมีการพัฒนาเทคโนโลยี Fractional ให้ลงสู่ผิวแบบเป็นจุดเล็กๆระยะห่างเท่าๆกัน เพื่อให้ผิวบนเกิดแผลน้อยที่สุด แต่สามารถส่งพลังงานลงในชั้นผิวได้ลึกขึ้น

    Sublative RF (nano-fractional RF) เป็นพลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ซึ่งเปลี่ยนการส่งพลังงานแบบเดิมๆ (รูปด้านซ้าย) จากสามเหลี่ยมแบบหงายที่พบในเลเซอร์มาเป็นแบบคว่ำ คือเป็นทรงปิระมิด (รูปด้านขวา) หมายความว่า ด้านบนจะถูกเผา (Burn) น้อย และส่งพลังงานเจาะเข้าไปถึงบริเวณชั้นผิวหนังแท้ได้กว้างขึ้น จึงฟื้นฟูคอลลเจนลึกได้มากกว่า แต่ทำลายผิวชั้นบนน้อยกว่า ดังนั้นปัญหาดำคล้ำหลังการทำก็จะน้อยลง ขณะที่ประสิทธิภาพในการรักษาดีขึ้น สามารถกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนใหม่ในบริเวณแผลเป็นได้มากขึ้น แผลจึงเติมเต็มได้เร็วขึ้น ใช้จำนวนครั้งในการทำน้อยกว่า และโอกาสเสี่ยงที่ผิวจะดำคล้ำ หรือบางลง น้อยกว่าวิธีรักษาด้วยการเผาผิวแบบเก่า

    4. EnerJet เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่เปลี่ยนวิธีการรักษาแผลเป็นในวงการแพทย์อย่างสิ้นเชิง ทำให้เกิดการเติมเต็มแผลเป็น อย่างทันทีทันใด ด้วยกระสุนฟิลเลอร์จำนวนมหาศาลที่ลงสู่ชั้นผิวทุกระดับ

    ทำงานโดยการใช้พลังงานจลน์ (Kinetic Energy) ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ที่มีแรงดันลมพลังสูงมาก นำพาเอาสารไฮยาลูรอนิค หรือที่รู้จักกันดีว่าฟิลเลอร์ ผ่านผิวหนังสู่เนื้อเยื่อผิวหนังภายใน เสมือนกระสุนนาโน นำโมเลกุลของฟิลเลอร์กระจายตัวเป็นละอองเล็กๆด้วยแรงดันของลม วิ่งผ่านเนื้อเยื่อผิวหนัง ทั้ง3 ระดับ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น เป็นวงกว้าง และขณะเดียวกันก็ลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นตาข่ายรองรับเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เกิดการเติมเต็มแผลเป็น และสร้างคอลลาเจนใหม่ อย่างทันที นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับ ลดริ้วรอยอย่างชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับการรักษาที่สำคัญเมื่อไม่มีการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดความร้อน จึงไม่มีโอกาสที่จะเกิดผิวไหม้ จึงนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการรักษาผิวหนังทางการแพทย์ที่ไม่ต้องพึ่งพลังงานที่ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวเพื่อฟื้นฟูหรือซ่อมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนภายใน

    จากผลการศึกษา EnerJet สามารถสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ เพื่อการรักษาแผลเป็นได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า และที่สำคัญ ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ ไม่ต้องคอยหลบแดดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในการรักษาแผลเป็นในปัจจุบัน

    US.FDA Approved

    ปรึกษาเพิ่มเติม Add Line : @apexbeauty 

    live2

    โปรโมชั่น รักษาแผลเป็น

    รับสิทธิ์ ราคาพิเศษ