เนื้อหมูแบบไหน ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนักได้

อาหารลดน้ำหนักที่นิยมทำกันทั่วไปจะเป็นอกไก่ ปลา กุ้ง จึงอาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คนเบื่อได้ และอยากกินเนื้อสัตว์ประเภทอื่นบ้าง โดยเฉพาะ “เนื้อหมู” ที่ทุกคนต่างกันหลีกเลี่ยง กับภาพจำว่าเนื้อหมูมีไขมันเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก เมื่อกินจึงทำให้อ้วนได้ ซึ่งความจริงแม้เราจะลดน้ำหนัก แต่เราก็สามารถกินเนื้อหมูในส่วนที่ไขมันน้อยที่สุดได้ 

 

เนื้อหมูลดน้ำหนักได้

เนื้อหมูเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยโปรตีนที่ให้พลังงานต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างกล้ามเนื้อ โดยกล้ามเนื้อนี้เองจะทำหน้าเหมือนเป็นเตาเผา โดยจะเผาผลาญไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จึงช่วยลดน้ำหนักได้

 

เนื้อหมูแบบไหนช่วยลดน้ำหนัก

หมูสามชั้น 100 g. 384 กิโลแคลอรี่ 

เป็นเนื้อหมูส่วนท้องที่เป็นชั้นไขมัน เนื้อ และหนังสลับกัน ซึ่งเป็นส่วนที่มีไขมันมากที่สุด ให้แคลอรี่มากที่สุด ไม่เหมาะกับเป็นอาหารลดน้ำหนักมากนัก แต่ก็สามารถกินได้ในปริมาณที่น้อย หมูสามชั้นนำมาทำเป็นอาหารเลิศรสหลายเมนู เช่น หมูสามชั้นทอดกรอบ ข้าวหน้าหมูกรอบ หมูสามชั้นรวนเค็ม พะโล้ หมูสามชั้นสไลด์สำหรับปิ้งย่าง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเมนู มีเคล็ดลับอร่อยในการทำหมูสามชั้นที่แตกต่างกันออกไป เช่น หมูสามชั้นทอดกรอบ นำไปต้มให้เปื่อย และหมักให้ได้รสชาติ ก่อนทอดกรอบ ส่วนหมูสามชั้นต้ม อย่างหมูสามชั้นรวนเค็ม และพะโล้ ต้องต้มแบบเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้นุ่ม และน้ำปรุงรสแทรกเข้าสู่เนื้อหมู

 

สันคอหมู 100 g. 220 กิโลแคลอรี่ 

เป็นส่วนเนื้อที่นุ่ม และมีชั้นไขมันอยู่พอสมควร ไม่เหมาะกับนำมาลดน้ำหนักเช่นกัน โดยจะนิยมนำมาย่าง เป็นคอหมูย่าง น้ำจิ้มแจ่ว ยำคอหมูย่าง คอหมูคั่วซีอิ้ว ส้มตำคอหมู เป็นต้น ส่วนของคอหมูจะมีไขมันแทรกอยู่แล้ว จึงให้ความนุ่มเคี้ยวง่าย 

 

เนื้อหมูสันนอก 100 g. 198 กิโลแคลอรี่ 

เป็นส่วนที่อยู่รอบนอกตั้งแต่หัวไหล่ ไปถึงสะโพก กินพื้นที่โดยรอบตัวหมู ราคาจะไม่แพงมาก โดยจะแบ่งเป็นส่วนย่อยได้อีก เช่น สันนอกติดมัน  สันนอกติดซี่โครง เนื้อหมูส่วนเซอลอยด์ และเนื้อหมูที่นำไปทำเบคอน เป็นต้น เนื้อหมูสันนอก จะเป็นส่วนที่ไม่นุ่มหรือเหนียวจนเกินไป นิยมนำไปทำสเต็ก หรือหมูหมักสไตล์ต่าง ๆ และสามารถนำมาช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ยังไม่เหมาะที่สุด

 

เนื้อหมูสันใน 100 g. 143 กิโลแคลอรี่ 

เป็นส่วนที่นุ่มที่สุดและดีที่สุด มีไขมันน้อยที่สุด เหมาะกับนำมาลดน้ำหนักมากที่สุด แต่จะมีราคาแพงกว่าเนื้อส่วนอื่น เมนูอาหารที่นิยมนำเนื้อหมูสันในไปปรุง เช่น สเต็ก หมูอบน้ำผึ้ง บาร์บิคิว หมูทอดกระเทียม หมูสันในผัดพริกไทดำ หมูสันในไม่นิยมนำไป ต้มหรือตุ๋น เพราะเนื้อจะเปื่อยยุ่ย ไม่น่าทาน

 

ปริมาณที่ควรบริโภค

สำหรับคนทั่วไปต้องการโปรตีนในปริมาณ 0.8 ถึง 1 กรัม ต่อ น้ำหนักตัวของเราเอง 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าเรามีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับคือ 40–50 กรัม ต่อวัน แต่สำหรับคนที่ต้องออกกำลังกาย และปั้นซิกแพค จะต้องการโปรตีนมากขึ้นเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บ เพื่อให้กล้ามเนื้อถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ปริมาณโปรตีน 1 ถึง 1.5 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับคือ 80 – 120 กรัม ต่อวัน

 

Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมัน ควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ  ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย 

ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน 

 

ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่

Emsculpt  ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

 

*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน

 

อยากเปลี่ยนทัก

095-102-8585

LINE: https://line.me/ti/p/%40APEXslim

FB INBOX: http://m.me/apexslim

FB Page:https://www.facebook.com/ApexSlim