5 วิธี ลดสัดส่วน สำหรับคนผอมแต่มีพุง

คนที่น้ำหนักน้อยหรือดูภายนอกไม่ได้มีสัดส่วนเกินอะไรมากมาย แต่ภายใต้เสื้อนั้นอาจจะซ่อนพุง และสัดส่วนเกินต่าง ๆ เอาไว้ ถึงแม้อาจจะไม่มาก แต่ก็สามารถสร้างความไม่สบายใจได้ สำหรับคนผอมที่มีพุง เรามี 5 วิธี ลดสัดส่วนมาฝากกัน

 

  1. ลดอาหารหวาน

พุงน้อย ๆ ของเรา ล้วนเกิดจากการกินอาหารที่มีปริมาณของน้ำตาลมากเกินไป เมื่อร่างกายเผาผลาญเป็นพลังงานได้ไม่หมด ก็จะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันเพื่อเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานสำรอง ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงพุงน้อย ๆ ของเรานั่นเอง ซึ่งหลาย ๆ คนที่ผอมไม่ได้ระมัดระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลก็จะทำให้มีพุงได้ง่าย ดังนั้น จึงควรควรลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น เค้ก ชานมไข่มุก เป็นต้น

 

  1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“พุงเบียร์” ที่เกิดกับคนผอมนั้น เป็นผลมาจากพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ใช้อ้อยหรือข้าว ซึ่งเป็นพืชที่น้ำตาลสูง ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูง ซึ่งยากต่อการเผาผลาญจนทำให้ไขมันสะสมที่พุงนั่นเอง ดังนั้น ควรจะงดดื่มแอลกอฮอล์เลยจะดีกว่า แต่ใครที่ยังไม่สามารถลดได้เลย ก็ให้เปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แคลอรี่น้อยแทน  

 

  1. ห้ามเครียด

ภาวะความเครียด จะเกิดการหลั่งของฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งมีชื่อเรียกว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ที่จะไปกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายมีการสะสมไขมันมากยิ่งขึ้น และเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมันมากขึ้น และความเครียดส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอยากินอาหารที่มีแคลอรี่สูง อย่างของทอดของมันมากขึ้น

 

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ระบบเผาผลาญทำงานปกติช่วยในการเผาผลาญไขมัน ดังนั้น เราควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชี่วโมง ซึ่งหากพักผ่อนไท่เพียงพอจะทำให้กินอาหารที่มีแคลอรี่สูงขึ้น 22% และกินอาหารที่มีไขมันสูงเพิ่มเป็น 2 เท่า ซึ่งนำไปสู่ความอ้วนและมีพุงได้ในที่สุด

 

  1. การออกกำลังกายแบบถูกผิดวิธี

เป็นคนผอมที่ออกกำลังกายเพื่อดูแลหุ่นของตัวเองเสมอ แต่กลับพบว่ามีพุงยื่น ๆ ออกมาอยู่ดี ซึ่งการออกกำลังกายที่หนักและมากเกินไป อาจจะไปทำลายกล้ามเนื้อได้ เนื่องจาก จะทำให้ร่างกายไปดึงพลังงานจากมวลกล้ามเนื้อมาใช้เพื่อเผาผลาญระหว่างการออกกำลังกายมากกว่าการไปดึงไขมันมาใช้ ซึ่งเมื่อมวลกล้ามเนื้อน้อยลง จะทำให้ระบบการเผาผลาญน้อยลงไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้ไขมันมีโอกาสสะสมมากขึ้นจนเกิดเปฌนพุงได้นั่นเอง

 

ดังนั้น คนที่ผอมสามารถออกกำลังกายเพื่อเน้นการสร้างกล้ามเนื้อและลดพุง ด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือเทนชทเทรนนิ่งอาจจะเหมาะกับคนผอมมากกว่า

 

Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมัน ควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ  ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย 

ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน 

 

ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่

Emsculpt  ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

 

*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%

 

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/