“ฝ้า” รักษายาก แต่รักษาได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ของการรักษาฝ้า ที่ เอเพ็กซ์

live2

ฝ้า รอยปื้นคล้ำบนใบหน้าจากการที่มีเม็ดสีเมลานิน (Melanin Pigment) สะสมในผิวหนังมากผิดปกติ พบมากบริเวณแก้ม จมูก หน้าผาก เหนือริมฝีปากด้านบนและคาง มักมีสีคล้ำขึ้นเมื่อถูกแสงแดด โดยมากเป็นในเพศหญิง ในชายอาจพบได้ในรายที่ตากแดดมากเกินไป นอกจากแสงแดดที่กระตุ้นการเกิดฝ้าแล้ว ใบบางรายพบว่ามีปัจจัยทางพันธุกรรมละฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

photo-24

“ฝ้า” มีหลายชนิด แบ่งตามระดับความลึก ซึ่งแต่ละชนิดมีความยากง่ายในการรักษาที่แตกต่างกัน โดย “ฝ้าที่เกิดใหม่” มักเป็นชนิดตื้น เกิดจากการที่ผิวชั้นหนังกำพร้ามีจำนวนเม็ดสีเพิ่มขึ้น ฝ้าชนิดนี้ค่อนข้างตอบสนองต่อการรักษาได้ดี แต่หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานก็มีโอกาสกลายเป็นฝ้าลึก ซึ่งเกิดจากการเพิ่มจำนวนของเม็ดสีในชั้นหนังแท้ สีฝ้าจะคล้ำเข้มมากขึ้น และรักษาให้หายยากยิ่งขึ้น แนวทางการรักษาฝ้า จึงขึ้นอยู่กับชนิดและความลึกของฝ้า ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละคน

lab_equipment

เอเพ็กซ์ พัฒนาการรักษาฝ้าในรูปแบบเฉพาะตามปัญหาของแต่ละบุคคล ล่าสุดได้พัฒนาสารละลายฝ้าชนิดพิเศษร่วมกับ Medical Laboratory จากต่างประเทศ ผสานเทคนิคการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้นวัตกรรมใหม่นการรักษาฝ้า ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของเอเพ็กซ์ เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาฝ้าให้จางลง ผิวกระจ่างใสจนเป็นที่น่าพอใจ

ปฏิบัติการเคลียร์ฝ้า

1003988_10151710735854893_1828273194_n
ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล

คุณเปิ้ล มีปัญหาเรื่องฝ้า โดยเพิ่งเป็นเมื่อตอนที่อายุมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วเธอเป็นคนดูแลผิวหน้าดีมาตลอด ทำทรีทเม้นท์ประเภทผลัดเซลล์ผิวและเลเซอร์ อีกทั้งยังทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยังเป็นฝ้าจนได้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงด้วย ทำอย่างไรก็ไม่จางหาย แถมกลับจะดำขึ้นอีก เป็นปัญหาหนักใจจนทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการเข้าสังคม ทำให้ดูแก่และโทรม แต่งหน้ายังไงก็ไม่สามารถกลบฝ้าได้ ยิ่งรักษายิ่งเข้มขึ้น จนเป็นปื้นสีคล้ำมาก เธอรู้สึกว่ามันน่าเกลียดมาก อยากให้หายหรือจางลงก็ยังดี

photo-13_resize_resize
live2
สำหรับขั้นตอนการรักษา เริ่มจากทำความสะอาดผิว เช็ดเครื่องสำอางออก ตามด้วยการผลัดเซลล์ผิว เอาผิวเก่าที่สะสมเม็ดสีเมลานินที่เสื่อมสภาพออก แล้วจึงเป้นการฉีดสลายเม็ดสี โดยจะฉีดไปตามจุดที่มีเม็ดสีเข้มๆ ทั่วบริเวณที่เป็นฝ้า

คุณหมออธิบายเพิ่มเติมว่า “หลังทำอาจมีรอยแดงจากการฉีดเล็กน้อย แต่จะหายไปเองใน 1-2 วัน หลังจากนั้นจุดสีเข้มๆ ก็จะเริ่มจางลง จะเห็นได้ชัดเจนหลังจากฉีดไปประมาณ 1 สัปดาห์” คุณหมอแนะนำว่าให้มาฉีดทุกๆ 2-3 สัปดาห์ในะระยะแรกจนกว่าจะจางจนพอใจ หลังจากนั้นถ้าเข้มขึ้นก็ค่อยมาฉีดซ้ำ ซึ่งหากไม่มีสิ่งเร้ามากระตุ้นให้คล้ำลง ฝ้าก็จะไม่กลับมาคล้ำดังเดิม โดยจำนวนครั้งจะขึ้นกับปัญหาของแต่ละคน โดยคุณหมอจะประเมินคร่าวๆ ซึ่งจากประสบการณ์คุณเปิ้ลฉีดไป 3 ครั้ง ก็พบความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

DSCN7320_resize

ภาพหลังรักษาฝ้าครั้งที่ 3

DSCN7323_resize

Clinical Result

ผลการศึกษาพบว่าผู้ผ่านการรักษาฝ้า 9 ใน 10 คน มีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ รอยปื้นน้ำตาลค่อยๆจางลงและมีผิวกระจ่างใสขึ้น 3 ใน 4 คน ยินดีบอกต่อในผลลัพธ์ของการรักษา

ความแตกต่างของชนิดฝ้า อาจจะต้องใช้การรักษาที่ผสมผสานมากกว่า 1 รูปแบบ นอกจากนั้นการดูแลผิวหลังการรักษายังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การรักษาฝ้าได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

Before – After

ple11-1024x602
ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล

ข้อควรระวัง การซื้อยารักษาฝ้ามาใช้เองอาจเกิดอันตรายในระยะยาว เนื่องจากไม่มีผลการศึกษาวิจัยในระยะยาวรับรอง ยารักษาฝ้าตามท้องตลาดมีส่วนผสมของสารเคมี ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวดูขาวใสในระยะแรก ในระยะยาวจะทำให้ผิวบอบบางและแพ้ง่าย บางรายอาจเกิดอาการด่างขาวหรือผิวขาวเป็นจุดๆ ซึ่งยากต่อการรักษามากยิ่งขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ตั้งแต่ระยะแรกเพื่อผลที่ดีในการรักษา

รักษาฝ้าที่ไหนไม่เห็นผล เชิญปรึกษาได้ที่เอเพ็กซ์นะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

LINE : @apexbeauty

photo-25_resize-575x1024

live2