วิธีใหม่ของการดูดไขมันที่ต้นแขน คือ Vaser Smooth, BodyTite และ Body Jet
ต้นแขนเป็นบริเวณที่ผิวหนังบอบบางและเป็นแหล่งสะสมของไขมันส่วนเกินที่ลดยากที่สุด ส่วนใหญ่พบว่าปัญหาไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณต้นแขนจะพบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีมวลกล้ามเนื้อที่น้อยกว่าและมีผิวหนังที่บางกว่า หากกำลังมีปัญหาต้นแขนใหญ่และกำลังตัดสินใจดูดไขมันแต่ยังไม่มีข้อมูล แนะนำให้อ่านบทความนี้เลยค่ะ
- การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Vaser Smooth
การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี Vaser Smooth สามารถกำจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ปริมาณมาก นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดไขมันในบริเวณเล็กๆ เช่น ข้อศอก รอบต้นแขน ข้อพับต่างๆ วิธีนี้เหมาะกับคนที่ลดไขมันด้วยตัวเองยากมากๆ
- ข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี Vaser Smooth
นอกจาก Vaser Smooth จะสามารถกำจัดไขมันได้ปริมาณมากและเข้าถึงในบริเวณเล็กๆ การพักฟื้นจะมีความรวดเร็ว โดยจะใช้เวลา 3 -5 วันในการพักฟื้น และรอยแผลก็มีขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.5 มิลลิเมตรเท่านั้น สำหรับข้อเสียของการดูดไขมันด้วยวิธี Vaser Smooth นั่นคือเรื่องของความกระชับ ความเข้ารูปของผิวหลังทำจะไม่ได้เป๊ะเมื่อเทียบกับวิธีการอื่นๆ หากไม่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิว วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
- การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี BodyTite
การดูดไขมันด้วยยวิธี BodyTite เป็นการกำจัดไขมันโดยอาศัยพลังงานคลื่นวิทยุ เทคโนโลยีเดียวกันกับการทำเทอร์มาจ (Thermage) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นอกจากการกำจัดไขมันส่วนเกินผิวหลังการดูดไขมันจะเกิดความตึง แน่น กระชับรูขุมขนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันวิธี BodyTite สามารถสร้างต้นแขนให้มีไลน์กล้ามเนื้อสวยงาม ชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ
- ข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี BodyTite
การดูดไขมันด้วยวิธี BodyTite มีจุดเด่น คือ สามารถออกแบบรูปร่างให้สวยงาม เน้นความโค้งเว้าและความเรียบกระชับของผิวได้มากกว่าวิธีอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ผิวหนังแตกลายจากไขมันสะสมใต้ชั้นผิว แผลหลังดูดไขมันวิธี BodyTite มีขนาดเล็กเพียง 0.2 – 0.5 มิลลิเมตรและมีระยะเวลาพักฟื้น 3 – 5 วัน เป็นวิธีรวดเร็วเหมือนกับการดูดไขมันวิธีใหม่ๆ ส่วนข้อเสียของการดูดไขมันวิธี BodyTite นั่นคือราคาซึ่งสูงกว่าการดูดไขมันวิธีอื่นๆ หากมีปัญหาเรื่องไขมันและกังวลเรื่องสัดส่วน BodyTite คือคำตอบที่ดีที่สุด
3. การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Body Jet
- นวัตกรรมการดูดไขมันใหม่ล่าสุดคือการดูดไขมันพลังน้ำ ซึ่งการดูดไขมันวิธีนี้เป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุด เนื่องจากพลังงานน้ำมีความอ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อมาก ทำให้ผลลัพธ์การดูดไขมันออกมาเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติมากที่สุด จึงเหมาะกับคนที่กลัวความเจ็บปวดและไม่ต้องการพักฟื้นนานข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Body Jet
การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี Body Jet มีจุดเด่นคือมีความอ่อนโยนและนุ่มนวลที่สุด ทำให้ไม่เกิดรอยเขียวช้ำจากการดูดไขมัน พักฟื้นน้อยมากเพียง 1 – 2 วันเท่านั้น ก็สามารถใช้ชิวิตได้ปกติทันที นอกจากนี้รอยแผลจากการดูดไขมันมีความเล็กเพียง 0.2 – 0.5 มิลลิเมตร
4. การดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Celeb Arm
การดูดไขมันต้นแขนเทนิคเฉพาะของ Apex ซึ่งคิดค้นโดยทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้วิธีการดูดไขมันต้นแขนที่ดีที่สุดและพักฟื้นน้อยที่สุด การดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธี Celeb Arm สามารถกำจัดไขมันต้นแขนโดยรอบ 360 องศา พร้อมทั้งสร้างไลน์กล้ามเนื้อให้แขนเรียวสวยสุขภาพดี
- ข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันต้นแขน ด้วยวิธี Celeb Arm
การดูดไขมันต้นแขน วิธี Celeb Arm สามารถออกแบบต้นแขนให้สวยงาม ปรับขนาดท้องแขนและต้นแขนส่วนบนได้ตามต้องการ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นธรรมชาติและจะสวยงามกว่าเก่า การดูดไขมันวิธีเก่าๆ และวิธีนี้ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย วันรุ่งขึ้นสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ โดยข้อเสียของการดูดไขมันต้นแขน วิธี Celeb Arm อาจจะเป็นราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีปกติ แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ถาวรถือว่าคุ้มค่ามาก
การดูดไขมันต้นแขน ด้วยเทคนิค Celeb Arm จบทุกปัญหาที่คุณกังวล
- ดูดไขมันต้นแขนแบบ 360 องศา กำจัดไขมันต้นแขนรอบวงแขนได้ทั้งหมด
- ศัลยแพทย์ระดับอาจารย์มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
- เครื่องดูดไขมันรุ่นล่าสุดและทันสมัย เอเพ็กซ์มีทั้ง Vaser Smooth, Body Tite, Microaire’s PAL และ Body Jet
- ได้เรียวแขนที่ลีนมีกล้ามนิดๆดุจเซเลบริตี้
- แผลดูดไขมันขนาดเล็ก (2 – 0.5 มม.) อยู่ในตำแหน่งที่สังเกตยาก
- บวมช้ำน้อยมากลดระยะเวลาการพักฟื้น
- ความปลอดภัยมาตรฐาน JCI และห้องผ่าตัดปลอดเชื้อระดับ 10K
หากสนใจการดูดไขมันต้นแขนด้วยเทคนิค Celeb Arm สามารถทำนัดเพื่อพบศัลยแพทย์ที่ศูนย์ ศัลยกรรม Apex Medical Center ได้ที่
LINE@: http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery
Call Center 0888-7000-39 และ 0888-7000-16