ลดน้ำหนักด้วยคีโต เช็คให้ชัวร์!! ร่างกายพร้อมแล้วหรือยัง

ลดน้ำหนักด้วยคีโตเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจ เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมและไม่จำเป็นต้องกินแต่ผักเขียว ๆ แล้วยังสามารถกินอาหารประเภทไขมันได้อีกด้วย แต่แม้การกินอาหารแบบคีโตจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง ก็ไม่ได้ความว่าจะเหมาะกับร่างกายของทุกคน ดังนั้น หากใครที่กำลังสนการกินอาหารด้วยคีโตควรเช็คให้ชัวร์ว่าร่างกายพร้อมแล้วหรือยัง

 

ลดน้ำหนักด้วยคีโตคืออะไร?

“คีโตเจนิค” (Ketogenic Diet) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า “คีโต” เป็นหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนัก โดยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภท “แป้งและน้ำตาล” หรือ “คาร์โบไฮเดรต” วันละไม่เกิน 5-10% แต่ให้เน้นการกินอาหารประเภท “ไขมัน” (ไขมันดี) 70-80% และ “โปรตีน” ประมาณ 20-25% เพื่อให้ร่างกายรู้สึกว่ากำลังขาดสารอาหาร ร่างกายจะมีการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายจนทำให้น้ำหนักลดลงภายในระยะเวลาอันสั้น

Plate with a keto diet food. cherry tomatoes, chicken breast, eggs, carrot, salad with arugula and spinach. keto lunch. top view Free Photo

 

การวิจัย พบว่า กลุ่มอาสาสมัคร 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่กินคีโต (Low-Carb) และกลุ่มที่กินอาหารไขมันต่ำ (Low-Fat Diet) หลังจาก 6 เดือนผ่านไป กลุ่มที่กินคีโตลดน้ำหนักได้มากถึง 4.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับอีกกลุ่ม

 

ประโยชน์อื่น ๆ ของคีโตเจนิค

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 

การวิจัยพบว่า การกินคีโตเจนิคดีต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานช่วงเริ่มต้น และผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 เนื่องจากการกินคาร์โบไฮเดรตที่น้อยลง จะทำให้ระดับกลูโคสถูกจำกัดไปด้วย จึงส่งผลให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้นั่นเอง

Hand holding a blood glucose meter measuring blood sugar, the background is a stethoscope and chart file Free Photo

 

กลุ่มผู้ที่ไม่ควรกินคีโต

  1. ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1

ที่ต้องรับอินซูลิน เพราะร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพื่อคุมปริมาณน้ำตาลได้ หากกินคีโตอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำเกินไป

  1. ผู้ที่มีปัญหาโรคตับ

เพราะการกินคีโตจะทำให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนคาร์บฯ ทั้งข้าว แป้ง น้ำตาล โดยมี “ตับ” ทำหน้าที่หลักในการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ดังนั้น คนที่มีปัญหาสุขภาพตับไม่ดี จึงอาจต้องเลี่ยงวิธีนี้ไป

  1. ผู้ที่ไตเสื่อม

การทานคีโตทำให้ต้องทานโปรตีนค่อนข้างมาก ซึ่งจะยิ่งกระตุ้นการทำงานของไต ทำให้ไตเสื่อมมากขึ้

  1. ผู้ที่การเผาผลาญไขมันมีปัญหา

ทั้งที่เกิดจากกรรมพันธุ์ หรือผู้ที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมาก ๆ

 

ข้อเสียของกาลดน้ำหนักด้วยคีโตเจนิค

Confident woman standing in underwear Free Photo

  1. ขาดสารอาหาร เนื่องจากการต้องงดหรือลดปริมาณอาหารบางประเภท จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญบางชนิดไม่เพียงพอ จนเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้
  2. ขาดน้ำและแร่ธาตุ คีโตนที่ได้จากกระบวนการคีโตซิส จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ ส่งผลให้ ปัสสาวะบ่อยและมากกว่าปกติ ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำและแร่ธาตุ อาจเสี่ยงต่อภาวะไตเสียหายฉับพลัน หรือเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
  3. มวลกระดูกและกล้ามเนื้อลดลง เนื่องจากขาดคาร์โบไฮเดรตและแร่ธาตุ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการสร้างมวลกระดูกและกล้ามเนื้อในระยะยาว
  4. โยโย่เอฟเฟค (Yo–Yo Effect) หากใช้วิธีลดน้ำหนักแบบกินคีโตไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้น้ำหนักตัวที่ลดลงไปแล้ว กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจเสี่ยงต่อโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานตามมา

 

ตัวช่วยลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape

เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1  ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที

 

กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape

  • Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง”  ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
  • ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
  • Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น 

 

ผลลัพธ์หลังการใช้  Slim Shape  

สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80%  เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%  

 

นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน

 

Slim Shape เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
  2. ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
  3. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  4. ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
  5. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
  6. ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป

 

โยโย่ เอฟเฟค

เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา 

 

ความปลอดภัย

ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา 

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/