ผัดกะเพรา 5 โปรตีน แทนหมูสับ กินแล้วไม่อ้วน

“ผัดกะเพรา” เป็นเมนูที่ได้รับความนิยม และเรียกได้ว่าเป็นเมนูกันตายของใครหลาย ๆ  คน เมื่อนึกไม่ออกว่าวันนี้จะกินอะไรดี ผัดกะเพรา มักเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ  แต่หากใครที่กำลังลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารอยู่อาจจะไม่กล้ากิน เนื่องจากโปรตีนที่นิยมอย่าง “หมูสับ” มีส่วนประกอบของมันหมูค่อนข้างมาก จนอาจทำให้อ้วนได้ เราจึงมีโปรตีนที่นำมาทำผัดกะเพราแสนอร่อย แล้วยัวไม่อ้วนอีกด้วย

 

วัตถุดิบในผัดกะเพราช่วยลดน้ำหนักได้

  1. กะเพรา มีส่วนช่วยในการขับไขมัน มีฤทธิ์ขับลม ช่วยแก้จุกเสียด แน่นท้องได้ดี
  2. กระเทียม มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ ช่วยขับลม ป้องกันโรคท้องผูก  ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอล 
  3. พริก Capsaicin ทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เมื่อสารอาหารถูกเร่งการเผาผลาญก็ช่วยให้น้ำหนักลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งผลงานวิจัยพบว่า Capsaicin ในอาหารที่มีรสเผ็ด สามารถลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้ประมาณ 200 กิโลแคลอรี่
  4. โปรตีน ช่วยร่างกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกาย ทำให้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้นั่นเอง 

 

ผัดกะเพรา 5 โปรตีน แทนเนื้อหมู กินแล้วไม่อ้วน

  1. อกไก่ 

เป็นส่วนที่มีไขมันต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของไก่ และเนื้อสัตว์ประเภทอื่น และเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนสูง โดยอกไก่ 100 กรัม ให้พลังงาน 164 แคลอรี่ โปรตีน 31 กรัม และไขมัน 3.6 กรัม

 

  1. ปลาแซลมอน

เป็นปลาที่ได้รับความนิยม ทั้งคนรักสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือแม้แต่คนทั่วไป โดยแซลมอนจะถูกนิยมนำมากินเพื่อลดน้ำหนักเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากในปลาแซลมอนมีแคลอรี่ต่ำ โดยปลาแซลมอน 100 กรัม ให้พลังงาน 136 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินดี 110% โปรตีนสูงถึง 21.3 กรัม และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 1.9 กรัม

 

ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงมาก  ๆ โดยแซลมอน 100 กรัม ที่เลี้ยงในฟาร์มจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 มากถึง 2.3 กรัม และปลาแซลมอลแบบธรรมชาติ จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงกว่า ที่ 2.6 กรัม ซึ่งเมื่อปริมาณกรดไขมัน Omega-3 นั่นก็คือ EPA และ DHA ที่แนะนำต่อวัน จะอยู่ที่ 0.5-4.5 กรัมต่อวัน ในปริมาณ ทำให้การกินแซลมอนจะช่วยอยู่ท้องนานนั่นเอง

 

  1. กุ้ง

แม้ว่ากุ้งจะเป็นโปรตีนที่มีคอเลสเตอรอลสูง แต่บางวิจัยพบว่าคอลเลสเตอรอลนั้น มีส่วนช่วยลดการสร้างคอเลสเตอรอลที่ตับ และมีระดับคอเลสเตอรอลเลว LDL เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กุ้งยังเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง โดยกุ้ง 100 กรัม มีพลังงาน 99 กิโลแคลอรี่ แะโปรตีน สูงถึง 24 กรัม 

 

  1. เต้าหู้

เต้าหู้เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมนำมาทำเป็นอาหารเจมากที่สุด เนื่องจากป็นอาหารที่ทำจากเมล็ดถั่วเหลืองด้วยการโม่ให้ละเอียดก่อนแล้วกรองกากถั่วเหลืองออกมา จากนั้นก็นำน้ำเต้าหู้ไปแล้วไปผ่านขั้นตอนการทำเป็นเต้าหู้ชนิดต่าง ๆ นอกจานี้ ราคาของเต้าหู้ยังถูกและหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย 

 

ซึ่งเต้าหู้ 100 กรัม จะให้พลังงาน 145 กิโลแคลอรี มีโปรตีนสูงถึง 16 กรัม และใยอาหารสูงถึง 0.3 กรัม  นอกจากนี้ เต้าหู้ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีคอเลสเตอรอล ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ ช่วยป้องกันมะเร็ง

 

  1. โปรตีนเกษตร

โปรตีนเกษตรได้รับนิยมนำมาทำเป็นอาหารแทนเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลกินเจอย่างมาก เนื่องจากโปรตีนเกษตรจะมีสีสันและรูปร่างที่เหมือนกับเนื้อสัตว์ที่สุกแล้ว ยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ โดยโปรตีนเกษตรจะทำมาพืช เช่น ถั่วเหลืองที่สกัดไขมันออกเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

 

ซึ่งโปรตีนเกษตร 100 กรัม จะให้พลังงาน 370 กิโลแคลอรี่ มีโปรตีนสูงถึง 49.76 กรัม และใยอาหารสูงถึง 14 กรัม ช่วยทำให้อิ่มท้องได้นาน นอกจากนี้ ยังมีคาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ธาตุเหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี 1 และบี 2 ช่วยให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่มีความจำเป็นต่อร่างกายครบทุกตัว

 

Emsculpt เป็นทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย 

ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน 

 

ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่

Emsculpt  ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

 

*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/