คอลลาเจนคือโปรตีนซึ่งพบมากที่สุดในชั้นผิวหนัง หากมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มาก ผิวก็จะมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราอายุมากขึ้น เส้นใยของคอลลาเจนเหล่านั้น ก็จะเสื่อมสภาพลง ทำให้แรงสปริงตัวและความยืดหยุ่นที่เคยมีในวัยเด็กเสื่อมสลายไป ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิว
1. ช่วงวัย 30
ในช่วงวัยนี้ เกราะปกป้องผิวจะอ่อนแอลง ทำให้คอลลาเจนอีลาสตินที่ผิวค่อยๆเสื่อมไป เมื่อความชุ่มชื้นและการยืดหยุ่นของผิวลดลง จากผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่งสดใส จึงเริ่มเกิดริ้วรอยบางๆ รูขุมขนกว้าง และผิวหน้าดูหยาบกร้านขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเราดูมีอายุนั่นเอง
2. ช่วงวัย 40
การเสื่อมของคอลลาเจนอีลาสตินจะชัดเจนมากขึ้นโดยธรรมชาติ ผิวจะมีลักษณะแห้งง่าย ขาดความชุ่มชื้น ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณใบหน้าลดน้อยลง ทำให้ผิวไม่เต่งตึง และเกิดความหย่อนคล้อย สังเกตได้บริเวณกรอบหน้า คางกับคอเริ่มไม่มี หางตาตก แก้มคล้อยลง ซึ่งการหย่อนคล้อยในลักษณะนี้ เกิดจากโครงสร้างในชั้นผิวหนังลึกเริ่มหย่อนคล้อย จึงจำเป็นต้องลงไปแก้ในชั้นผิวนี้
3. ช่วงวัย 50
วัยนี้เป็นวัยที่ผิวมีความอ่อนแอมาก เนื่องจากเป็นวัยหมดประจำเดือน ทำให้การผลิตฮอร์โมนเพศหญิงหรือที่เรียกว่าเอสโตรเจนลดลง ส่งผลให้มีการสังเคราะห์คอลลาเจนอีลาสติน และองค์ประกอบอื่นๆ ของผิวลดน้อยลงด้วย ผิวจะแห้งมากถึงมากที่สุด หน้าสูญเสียวอลลุ่ม ผิวมีความหย่อนยาน เหี่ยวย่นอย่างชัดเจน
ปัจจุบันจึงมีเทคโนโลยีการยกกระชับผิวอย่างหลากหลาย ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป คลื่น Ultrasound สามารถส่งผ่านพลังงานได้ลึกถึงชั้นผ่าตัดดึงหน้า (SMAS) ช่วยในการยกกระชับ ส่วนคลื่น RF หรือ Radio Frequency สามารถทำให้เกลียวคอลลาเจนหดตัว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าแลดูเฟิร์มกระชับ นอกจากนี้ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจากประสบการณ์ของแพทย์ ยังช่วยทำให้การรักษาได้ประสิทธิภาพดีมากขึ้นอีกด้วย
“เพราะปัญหาผิวแต่ละช่วงวัยแตกต่างกัน”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเลือกยกกระชับผิวได้ในแบบที่เหมาะกับคุณได้ที่ 0805000123 หรือ Line @apexbeauty
ผ่าน Smartphone : click http://line.me/ti/p/%40apexbeauty
ผ่าน Desktop : click http://m.me/apexprofoundbeauty
ยกกระชับหน้า ลดสูงสุด 50%