ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนัก ลดหน้าท้องส่วนล่าง ส่วนบน ลดแขน ลดขา หัวใจหลักสำคัญคคงหนีไม่พ้นการออกกำลังกาย เนื่องจากสามารถเผาผลาญไขมันส่วนนั้นได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงมีเทคนิคการ ลดหน้าท้องส่วนล่าง ด้วยการออกกำลังกาย มาฝากกันค่ะ
หน้าท้องส่วนล่าง
เป็นพุงที่มีลักษณะหน้าท้องด้านบนแบนราบเรียบปกติ แต่หน้าท้องด้านล่างป่องย้อย เหมือนกับท้องของลูกหมาตัวน้อย ๆ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงและกินขนมหวานมากจนเกินไป จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญเป็นพลังานได้หมด ร่างกายจึงเปลี่ยนน้ำตาลนี้เป็นไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน ไปเก็บตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
พุงคนท้อง Mommy Belly
เป็นพุงของคุณแม่หลังคลอดบุตร มีลักษณะยื่นออกมาเป็นชั้น หย่อนคล้อย และไม่กระชับ เนื่องจากเกิดการขยายตัวของมดลูกและยังไม่กลับคืนสู่สภาพปกติ หรือที่เราเรียกว่า มดลูกเข้าอู่นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลา 2-3 เดือน ถึงจะกลับคืนสู่สภาพปกติ แต่หากไม่ลดลงต้องทำการลดออกด้วยการออกกำลังกาย
ออกกำลังกาย
- ห้ามอดอาหารก่อนออกกำลังกาย
จะช่วยทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ เพราะร่างกายแปลงพลังงานมาเก็บสะสมไว้ในของพลังงานสำรองที่เรียกว่า ไกรโคเจน เมื่อมีพลังงานก็มีแรงออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถพบไกรโคเจนได้ในอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต
- ออกกำลังกายมากกว่า 10 นาที
เมื่อเราเริ่มออกแรงร่างกายจะดึงพลังงานสำรองเพียงน้อยนิดไว้ใช้ตอนเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้นที่ได้จากเซลล์ขึ้นมาใช้ ซึ่งจะถูกใช้จนหมดในเวลาเพียงแค่ราว 20 วินาทีแรก และเมื่อออกแรงต่อเนื่องร่างกายจะนำพลังงานที่ได้จากการเผาผลาญไกลโคเจน การเผาผลาญกลูโคสในเลือดมาใช้ ซึ่งพลังงานส่วนนี้จะเริ่มหมดลงในช่วง 2 นาที และจะเริ่มนำไขมันส่วนเกินในร่างกายมาใช้หลังจาก 10 นาทีเป็นต้นไป
- ค่อยเป็นค่อยไป
การออกกำลังกายถึงแม้ว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้ก็จริง แต่หากลดเกินกำลังที่เราทำได้ ณ ขณะนี้ จะส่งผลให้รู้สึกเหนื่อย ร่างกายโทรม และเกิดความรู้สึกไม่อยากออกกำลังกายอีก ฉะนั้นเราควรออกกำลังตามลำดับความเข้มข้นดีกว่าค่ะ
Emsculpt
Emsculpt เทคโนโลยีครั้งแรกในโลก สามารถสร้างกล้ามเนื้อและกำจัดไขมันไปพร้อมกัน และยังเป็นเทคโนโลยีที่แก้ปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกของคุณแม่หลังคลอดได้โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องเจ็บตัว เพียงนอนสบาย ๆ ในระหว่างการทำทรีทเมนท์ โดยผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
หลักการทำงาน Emsculpt ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ความรู้สึกระหว่างทำและหลังทำทรีทเมนท์
สิ่งที่ดีมาก ๆ ในการทำ Emsculpt คือในระหว่างทำจะไม่ความรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ ไม่มีรอยช้ำ หรือเสี่ยงต่อผิวไหม้ หลังทำในวันรุ่งขึ้นอาจจะรู้สึกเหมือนออกกำลังกายอย่างหนัก (intensive workout) เช่น Sit up หรือทำควอชอย่างหนัก ซึ่งนั่นหมายถึงร่างกายจะมีการเผาผลาญ ทำให้ขมันถูกสลายไปใช้พลังงานเพิ่มขึ้น
หลังการทำทรีทเมนท์ Emsculpt ยังทำให้การกลับไปยิมอีกครั้งง่ายขึ้น ร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถทำสควอทซ์ ทำแพลงค์ ได้หลายนาที ซึ่งการทำ weight training หลังจากทำทรีทเมนท์เพื่อรักษากล้ามเนื้อสวย ๆ ให้อยู่ยาวนานขึ้น ง่ายกว่าการที่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
แตกต่างจากเทคโนโลยีกำจัดไขมันอื่น ๆ อย่างไร
- ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มขนาดและทำให้กล้ามเนื้อท้อง แขน และน่อง แข็งแรงขึ้น ยกกระชับ ก้นสวยกลมเด้ง ควบคู่การเผาผลาญไขมันไปพร้อม ๆ กัน โดยไม่ต้องเหนื่อยกับการออกกำลังกาย ไม่ต้องผ่าตัด ที่ไม่เคยมีเครื่องมือใด ๆ ทำได้มาก่อน
- เป็นทรีทเมนท์ที่ไม่มีการบาดเจ็บใด ๆ พักฟื้น ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องใช้ยาชา
- ใช้เวลาทำเพียง 20-30 นาที ต่อครั้ง
- สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังการทำ และผลจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์หลังการทำ
- ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96%
- ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ พบว่าโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
EMSCULPT ทำบริเวณใดได้บ้าง
ต้นแขน (ไบเซ็ปส์ / ไตรเซ็ปส์), หน้าท้อง, บั้นท้าย, ต้นขา, และ น่อง
ผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง “ฟิตหุ่นสวยแบบ Shortcut ฉบับพลอย หอวัง”
หุ่นดีที่ทุกคนต่างใฝ่ฝัน แต่กว่าจะได้มานั้นต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ จากการออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและกำจัดไขมันไปพร้อมกัน ซึ่งนั่นต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมากกว่าจะได้ผลลัพธ์หุ่นสวยดูดี วันนี้คุณพลอยจึงวางใจให้ APEX ดูแลรูปร่างด้วยเทคโนโลยีครั้งแรกในโลก ที่สามารถสร้างกล้ามเนื้อและกำจัดไขมันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถปั้นหุ่นสวยแบบ Shortcut โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที ส่วนจะเป็นโปรแกรมไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ
Apex : วันนี้คุณพลอยทำโปรแกรมอะไรบ้างคะ
พลอย : วันนี้พลอยจะมาเสริมสวยด้วยการดูแลสัดส่วนค่ะ พลอยสนใจลองทำ Emsculpt โดยมีรูปแบบการทำงานเหมือนกับเรากำลังออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังเองบางครั้งก็ได้ผลลัพธ์ไม่ทันใจ แต่ตัวนี้จะทำให้ร่างกายหรือหน้าท้องของเราแข็งแรงและกระชับขึ้น เหมือนเราได้ทำซิทอัพประมาณ 20,000 ครั้งเลยค่ะ
ซึ่งหลังจากทำกล้ามเนื้อของเราก็จะเพิ่มขึ้นประมาณ 16% ไขมันของเราก็จะหายไปประมาณ 19% เดี๋ยวมาลองดูกันนะคะว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า
Apex : ขณะทำรู้สึกอย่างไรบ้างคะ
พลอย : เหมือนได้ซิทอัพและยกเวทไปพร้อมกันเลยค่ะ คือห้ามไม่ให้เกร็งไม่ได้เลย ซึ่งถ้าเราซิทอัพไม่ไหวสามารถใช้เครื่องนี้ได้เลยค่ะ“
Apex : ความรู้สึกหลังทำ Emsculpt เป็นอย่างไรบ้างคะ
พลอย : รู้สึกว่าเหงื่อออกเยอะมาก เตียงที่นอนตอนทำเปียกไปหมดเลยค่ะ เหมือนได้ออกกำลังกายจริง ๆ แต่เป็นการออกกำลังกายแบบ Shortcut รู้สึกมีความสุขมากเลยค่ะ
ซึ่งการซิทอัพ 20,000 ครั้ง ไม่ว่าจะภายใน 1 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ก็ไม่มีทางทำได้ เทคโนโลยีนี้จึงเป็น Shortcut ที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้ทำเป็นครั้งแรกเดี๋ยวมารอดูอีก 3 ครั้ง ว่าจะเป็นอย่างไร
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง EmSculpt จากประเทศอังกฤษด้วยเทคโนโลยี HIFEM นวัตกรรมแรกและนวัตกรรมเดียวที่มีงานวิจัยมากที่สุดถึง 20 งานวิจัยว่ารองรับ Build Muscle & Claim Fat