ENERJET™ พลิกโฉมวงการ ฉีดฟิลเลอร์โดยไม่ต้องใช้เข็ม

ENERJET นวัตกรรมล่าสุด พลิกโฉมการฉีด
ครั้งแรกในไทย …ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องใช้เข็ม…
ยกกระชับหน้าวีเชฟ รักษาแผลเป็น กระชับรูขุมขน เติมเต็มริ้วรอยแบบไม่ต้องใช้เข็ม ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะพลิกโฉมวงการแพทย์ผิวหนังอีกครั้ง “การฉีดฟิลเลอร์ โดยไม่ต้องใช้เข็ม”  ทำงานโดยการใช้พลังงานลมหรือ Air Energy ที่มีแรงดันลมที่มีพลังสูงมากนำสารไฮยาลูรอนิคหรือที่รู้จักกันดีว่าฟิลเลอร์ ผ่านผิวหนังสู่เนื้อเยื่อผิวหนังภายใน โมเลกุลของฟิลเลอร์จะกระจายตัวเป็นละอองเล็กๆ ด้วยแรงดันของลม วิ่งผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังทั้ง 3 ระดับ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างและขณะเดียวกันก็ลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นตาข่ายรองรับเนื้อเยื่อผิวหนังใบหน้า ทำให้เกิดการยกกระชับ ปรับรูปหน้า กรอบหน้าชัดเจน ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับ นอกจากนี้ยังสามารถรักษาแผลเป็น เติมเต็มริ้วรอยและช่วยกระชับรูขุมขนได้ด้วย

ด้วยความสามารถที่มากมายและแก้ปัญหาหลากหลายในทุกชั้นผิว จึงเชื่อว่านี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการแพทย์ผิวหนังอีกครั้ง ที่สำคัญคือ เมื่อไม่มีการใช้เข็มจึงไม่เจ็บและเหมาะกับคนที่กลัวเข็ม รวมทั้งไม่ได้ใช้พลังงานที่สร้างความร้อน จึงไม่เกิดการไหม้ของผิวอีกด้วย จึงนับเป็นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่แทบไม่มีผลข้างเคียง นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองโดย อย. แล้ว

การฉีดฟิลเลอร์ด้วยแรงลมอัด แตกต่างอย่างไรกับการฉีดด้วยเข็ม?

การฉีดฟิลเลอร์ด้วยแรงลมจะส่งโมเลกุลฟิลเลอร์กระจายในวงกว้าง จึงได้การฟื้นฟูคอลลาเจนที่เป็นวงกว้าง การฟื้นฟูจะเกิดจาก 2 ส่วนคือ จากตัวฟิลเลอร์หรือสารไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นสารน้ำที่ทำให้ผิวอวบอิ่มเปล่งปลั่ง ขณะเดียวกันก็ได้แรงดันลมที่ทำให้เกิดการฟื้นฟูคอลลาเจนจากภายในที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง ทำให้เกิดการเติมเต็มเป็นเท่าทวีคูณ ขณะที่การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มจะลงไปเป็นจุดๆ ตามตำแหน่งของเข็ม ได้พื้นที่ที่คอลลาเจนฟื้นฟูจำกัดและแคบกว่า นอกจากนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบเข็มแล้ว การฉีดด้วยลมจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน แต่ถ้าต้องการฉีดเติมเต็มร่องลึกก็จะต้องเป็นวิธีการฉีดด้วยเข็มเท่านั้น

 

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องใช้เข็ม แตกต่างจากการทำทรีทเม้นท์อื่นๆ อย่างไร?

ผิวหนังของคนเราประกอบด้วยสามชั้นผิว ผิวจะสวยได้จำเป็นต้องมีสุขภาพที่ดีมาจากทั้ง 3 ชั้นผิวคือ ผิวชั้นนอกสุด (epidermis) ผิวชั้นใน (dermis) ที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของผิวคือ 90% และผิวชั้นโครงสร้างหรือ Fat Layer ที่ทำหน้าที่พยุงเนื้อเยื่อทั้งหมดของผิวไว้ ผิวจะห้อยย้อยหรือเต่งตึงก็ขึ้นอยู่กับผิวชั้นนี้ ผิวชั้นบนสุดจะมีเรื่องของเม็ดสี ความกระจ่างใส ทรีทเม้นท์ในส่วนนี้ก็จะเกี่ยวกับเรื่องเม็ดสี เช่น IPL ถัดลงมาคือชั้น Dermis จะเป็นส่วนของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งทรีทเม้นท์ที่กระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนส่วนใหญ่ก็จะลงไปในชั้นนี้ ส่วนชั้นล่างสุดที่เป็นไขมันและ SMAS จะเป็นชั้นโครงสร้าง ทรีทเม้นท์ที่ลงสู่ชั้นนี้ก็เพื่อหวังผลในการกระชับ ปรับรูปหน้า เช่น เทอร์มาจ และอัลเธอรา การฉีดเพื่อปรับรูปหน้าก็จะต้องลงลึกสู่ผิวชั้นนี้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้การแก้ปัญหาผิวที่ถูกต้องจึงไม่ได้แก้ด้วยวิธีการใดวิธีการเดียว แต่จะเป็นการผสมผสานวิธีการต่างๆ ที่เหมาะกับปัญหาในชั้นผิวนั้นๆ

แต่สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ด้วยแรงดันลมนั้นจะลงลึกถึงชั้น Fat Layer ขณะเดียวกันก็มีการกระจายตัวของโมเลกุลไฮยาลูรอนิคเป็นบริเวณกว้างในชั้น Dermis ไปด้วย ทำให้เกิดการฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้น Dermis จึงสามารถแก้ปัญหาในเรื่องรูขุมขน ริ้วรอยและเติมเต็มแผลเป็น จึงเป็นเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาได้ทั้งชั้นผิวลึกระดับโครงสร้างและชั้นผิวหนัง Dermis ได้ในครั้งเดียว เกิดการฟื้นฟูคอลลาเจนทั้งผิวส่วนกลางและผิวชั้นโครงสร้าง ส่งผลให้ผิวเติมเต็มด้วยคอลลาเจนในชั้นกลางและยกกระชับในระดับโครงสร้าง ที่สำคัญคือผิวจะไม่แห้งหรือไหม้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงมาจากการรักษาด้วยเลเซอร์หรือพลังงานที่ใช้ความร้อนในการฟื้นฟูคอลลาเจน

จึงนับว่าเป็นนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการผิวหนังอีกครั้ง จนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม