คาร์ดิโอกับการยกน้ำหนักแบบไหนลดน้ำหนักดีกว่ากัน? หลายคนที่ตัดสินใจลดน้ำหนักกำลังติดอยู่กับคำถามที่ว่า เราควรจะออกกำลังกายลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนดี ที่จะสามารถลดน้ำหนักได้ดีที่สุด แม้คาร์ดิโอและยกน้ำหนักจะป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมทั้งคู่ แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าการออกกำลังกายแบบไหนลดน้ำหนักดีกว่า เราจึงรวบรวมสิ่งที่เราต้องรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งเพื่อลดน้ำหนักมาให้อ่านกันค่ะ
คาร์ดิโอ
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาจำนวนแคลอรี ที่สามารถเผาผลาญในระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยการใช้น้ำหนักตัวของเราประมาณจำนวนแคลอรีที่จะเผาผลาญระหว่างการออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ รวมทั้งคาร์ดิโอและการฝึกด้วยน้ำหนักด้วย ซึ่งยิ่งเรามี “น้ำหนักมากเท่าไหร่เราก็จะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นเท่านั้น” เช่น หากเรามีน้ำหนัก 73 กก. เราก็จะสามารถเผาผลาญได้ประมาณ 250 แคลอรี ต่อการวิ่ง 30 นาที และหากเราวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราจะสามารถเผาผลาญแคลอรรีได้ประมาณ 365 แคลอรีใน 30 นาที นั่นเอง โดยปกติการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งหรือการยกน้ำหนักในระยะเวลาเดียวกัน
ยกน้ำหนัก
แม้ว่าการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ไม่มากเท่ากับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แต่ก็มีประโยชน์ด้าน “การสร้างกล้ามเนื้อ” เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีขณะพัก โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองได้มีการวัดการเผาผลาญระหว่าง 24 สัปดาห์ของการฝึกยกน้ำหนักในผู้ชายแล้วมีการเผาผลาญขณะพักเพิ่มขึ้น 9% ดังนั้น การฝึกด้วยน้ำหนักและการสร้างกล้ามเนื้อเล็กน้อยจะไม่ทำให้การเผาผลาญของเราสูงขึ้น แต่อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีรายงานเกี่ยวกับการเผาผลาญขณะพักซึ่งอยู่ในระดับสูงนานถึง 38 ชั่วโมงหลังการยกน้ำหนัก แต่ไม่มีรายงานการเพิ่มขึ้นดังกล่าวกับคาร์ดิโอ
ควรทำคู่กันไหม
จากงานวิจัยหลายชิ้นแสดงว่า การนำข้อดีของทั้งสองกิจกรรมทั้งเวทเทรนนิ่งและการคาร์ดิโอมาทำคู่กันนั้น ทำให้การออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักได้ผลแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ไขมันจะถูกเผาผลาญได้ดีขึ้น หากทำต่อเนื่องใน 1 ปี ไขมันจะถูกเผาผลาญไปถึง 3.5 กิโลกรัม หรือการเผาผลาญของร่างกายเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่าเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงแล้วหลาย ๆ คนนั้นก็ไม่ได้ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยคาร์ดิโอและยกน้ำหนักทั้ง 2 อย่าง บางคนอาจจะชอบอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบการยกน้ำหนักสร้างกล้ามเนื้อ แต่ต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผลเร็ว เรามีตัวช่วยสร้างกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องยกน้ำหนักเล่นเวทเทรนนิ่งมาฝากกัน หรือสำหรับใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายเลย ก็สามารถลดน้ำหนัก ลดไขมัน ได้จากตัวช่วยของเราเลย
Fit&Firm by EMSCULPT
เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Fit&Firm by EMSCULPT ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน
