ความหิวไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ ค่ะ แม้ว่าเราจะตั้งใจลดน้ำหนัก อดอาหารเย็นมาได้หลายวัน แต่เมื่อความหิวครอบงำ เราอาจะทนไม่ไหวและเผลอกินได้ในที่สุด น้ำหนักที่ตั้งใจจะลดคงต้องล้มเลิกไปอีกวัน สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักแต่กลัวหยุดความหิวของตัวเองไม่ไหว เรามี 7 เคล็ดลับมาฝากกัน
- การจดบันทึกอาหารที่กิน
การจดบันทึกอาหารทั้งประเภทและปริมาณของอาหารตามที่กิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารหลัก อาหารว่าง หรือแม้แต่การดื่มน้ำเปล่า จะช่วยให้เราลดความหิวหรือเตือนสติเราเมื่อเราหยิบบันทึกขึ้นมาดู ว่าถ้าหากเรากินเพิ่มเข้าไปอีกอาจะทำให้พลังงานเกินความจำเป็นของร่างกาย และเตือนสติให้เราคิดว่าเรากำลังหิวหรือแค่อยากเพียงเท่านั้น
- กินตามตารางอาหาร
การทำแพลนอาหารที่เราจะกินในแต่ละวัน โดยคำนวณพลังงานให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้เราอิ่มพอดีและลดความหิวได้ โดยลองเริ่มทำที่ 1 สัปดาห์ก่อน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงวันอาทิตย์ แล้วแบ่งตางรางอาหารออกเป็น 3 มื้อหลัก พร้อมตารางของกินเล่นและเครื่องดื่ม
- คิดถึงอาหารในแง่ลบ
ลองจินตนาการด้านลบกับอาหารที่เราอยากกินด้วยภาพในหัวที่ไม่น่ากิน เช่น หากอยากดื่มน้ำอัดลม ให้นึกภาพน้ำอัดลมเป็นถุงน้ำตาลขนาดใหญ่ จากนั้นลองนึกภาพเปิดถุงและตักน้ำตาล 10 ช้อนชาเข้าปาก นั่นคือปริมาณน้ำตาลในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง เห็นแบบนี้แล้วความหิวหรืออยากกินโค้กก็อาจจะน้อยลงได้
- เคี้ยวหมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่งในตอนที่เรารู้สึกหิว จะช่วยลดความรู้สึกตึงเครียดที่เกิดจากความหิว เมื่อความเครียดที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของควมหิวลดลง ความหิวก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยทำให้เราปากไม่ว่าง ไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน และหมากฝรั่งยังเป็นอาหารท่มีแคลอรี่น้อยอีกด้วย
- ดื่มน้ำ
ตัวช่วยลดความหิวได้ดีเลยคือ “การดื่มน้ำ” เนื่องจากน้ำเป็นอาหารที่ไม่มีแคลอรี่ ดื่มลงไปเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน และการดื่มน้ำลงไปในกระเพาะจะทำให้สมองเข้าใจว่าเราได้กินอาหารแล้ว ร่างกายจึงจะไม่รู้สึกหิวอีก และนอกจากนี้ การดื่มน้ำบ่อย ๆ ยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานหรือแคลอรี่ส่วนเกินได้อีกด้วย
- สวมเสื้อผ้าที่เข้ารูป
สวมเสื้อผ้าที่พอดีกับรูปร่างของเราจะทำให้เรารู้สึกดูดีระหว่างวัน จนอยากกินอาหารแต่พอดีไม่ให้ร่างกายมีส่วนเกินออกมา เมื่อเรารู้สึกหิวระหว่างวันเพียงเราลองไปส่องกระจกดูรูปร่างที่พอดี ก็จะช่วยลดความหิวได้อีกทางหนึ่ง
- จัดระเบียบตู้เย็น
เมื่อเรารู้สึกหิว เรามักจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินกันบ่อย ๆ การจะช่วยลดความหิวลงไปได้คือการจัดระเบียบตู้เย็น ให้ไม่มีอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพแลการลดน้ำหนัก หรืออาจจะเพิ่มอาหารที่ดีต่อการลดน้ำหนัก มีแคลอรี่น้อย ให้มากขึ้น เช่น โยเกิร์ต แอเปิ้ล โดยควรวางไว้ให้เด่นชัด ไม่ให้เราเสียเวลานาน ๆ ไปกับการหาของกินในตู้เย็น จนเจอกับอาหารที่มีแคลอรี่สูง ๆ ได้
7 เคล็ดลับ หยุดความหิว ช่วยลดน้ำหนักได้สำเร็จ นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เราลดความหิวหรือความรู้สึกอยากอาหารลงไปได้ แต่อย่างไรก็ตามเทคนิคดังกล่าวนั้นจะต้องอาศัยการฝึกฝน และการบังคับจิตใจของตัวเราเอง ซึ่งเรารู้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เราจึงมีตัวช่วยควบคุมความหิวมาทำให้การลดน้ำหนักของเราสำเร็จขึ้นมาฝากกัน
ตัวช่วยลดน้ำหนักด้วย “เปปไทด์ลดหิว”
ปากกาลดน้ำหนัก SlimShape เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
- Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง” ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
- ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
- Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%
นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา