แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และการสูญเสีย Volume ของใบหน้าไป ที่จะเห็นได้ชัดก็จะเป็นร่องแก้มเยอะขึ้น ร่องน้ำหมากชัดขึ้น ขมับตอบ ซึ่งสารเติมเต็มที่จะมาเติมเต็มในส่วนของ Volume ที่มันหายไป ทุกคนจะนึกถึง Filler กันใช่ไหมล่ะคะ แต่ในตอนนี้มีสารเติมเต็มที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้เทียบเท่ากับตัวฟิลเลอร์ได้เลย นั่นก็คือ “Sculptra” นั่นเอง คุ้นๆ ชื่อกันใช่มั้ยล่ะค่ะ เพราะ ณ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมากๆ เลย ซึ่งวันนี้ APEX ได้รวบรวมคำถาม กับ “7 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีด Sculptra” ซึ่งในบทความเหล่านี้อาจช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจก่อนการฉีด Sculptra ถ้าเป็นยังไงนั้นไปอ่านกันเลยค่า~
1. Sculptra คืออะไร?
Sculptra ก็คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลก และเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ให้เป็นกังวล มีคุณสมบัติช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทาให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น
2. Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับใคร หรือผู้ที่มีปัญหาผิวแบบไหน?
Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ซึ่งเกิดขึ้นตามวัย แต่เมื่อฉีด Sculptra เข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึกของผิวเพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้น ผิวดูแน่นอิ่มฟู และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพร้อมปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า Sculptra ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆ กับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน เพราะจากการวิจัยพบว่า Sculptra สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งก็เป็นที่พึงพอใจกับคนไข้ที่ฉีดไปเป็นอย่างมาก
3. ฉีด Sculptra ควรฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล สามารถทำต่อเนื่องกันได้ไหม หรือต้องเว้นห่างกันนานกี่สัปดาห์?
ฉีด Sculptra ควรจะทำการฉีด 2 – 3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุกๆ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
4. หลังการรักษาด้วย Sculptra สามารถเห็นผลได้ทันทีเลยหรือไม่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่?
ผลลัพธ์หลังการฉีด Sculptra จะไม่เห็นผลทันทีหลังฉีด หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นพียงเล็กน้อย แต่จะเห็นผลขึ้นเรื่อยๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องไปตามธรรมชาติ หน้าจะดูไม่แข็งแต่ให้ความเป็นธรรมชาติมาก และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฉีดไปแล้วประมาณ 2 – 3 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัย Sculptra จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง collagen type1 เป็นคอลลาเจนตัวที่ผิวของเราต้องการมากที่สุด
5. หลังการฉีด Sculptra มีผลข้างเคียงอะไรไหม และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน?
อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 1-2 วันแรกอาจจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำหรือมีอาการปวดเล็กน้อย แต่จะหายไปเอง ผลข้างเคียงอื่นๆ ส่วนมากก็จะไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่หากหลังจากฉีดไปแล้วอาจจะมีคลำเจอตุ่มนูนหรือก้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนัง แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะสามารถทำตามที่คุณหมอแนะนำไว้ได้เลย คือสามารถนวดบริเวณที่ฉีด Sculptra ได้เพื่อให้ก้อนเล็กๆ เหล่านั้นสามารถกระจายตัวได้ดีขึ้นและอนุภาคของสารที่ฉีดไปจะไม่เกาะกลุ่มกันเป็นก้อนนอกจากนี้ Sculptra ยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ตกค้างในร่างกาย
6. ก่อนจะฉีด Sculptra วิธีการเตรียมตัวก่อนที่จะมาฉีด Sculptra ว่ามีอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนจะมาทำการรักษาคงจะคล้ายๆกับการรักษาแบบอื่นๆ ทั่วไป คือต้องไม่ฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการตัวอื่นๆ มาก่อนประมาณ 2 – 4 อาทิตย์ รวมถึงควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อป้องการอาการพกช้ำ รวมถึงงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด ดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
7. คำแนะนำหลังฉีด Sculptra ควรจะดูแลตัวเองอย่างไรบ้างหรือต้องระวังอะไรบ้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี?
หลังจากการฉีดคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลยไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นนะครับ แต่สามารถประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชม.แรก เพื่อช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า/การอบไอน้ำเป็นระยะเวลา 24 ชม.ก่อน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวี จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายไป นอกจากนี้ต้องไม่ไปฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆหลังจากที่ฉีดมาแล้ว เว้นไปประมาณ 2 – 4 อาทิตยหลังจากนี้ และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยนะครับหลังจากฉีด Sculptra ไปแล้วต้องคอยนวดโดยใช้หลักการแบบ Triple5 เพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ซึ่งจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ง่ายๆ แต่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ “7 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีด Sculptra” หวังว่าจะทุกคนจะได้สาระสำคัญจากบทความนี้นะคะ หากใครที่อยากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Sculptra เพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ www.apexprofoundbeauty.com หรือใครที่สนใจอยากฉีด Sculptra สามารถติดต่อเข้ามาได้ก่อนใครและรับโปรโมชั่นดีๆ ได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨
📞 085-0000855
🟣 Line OA : @apexlifting (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)
🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl
🟣 Facebook : Apex Profound Beauty
🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox
🟣 IG : apexbeauty
APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ
#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #sculptra #sculptra ราคา #ฉีด sculptra #sculptra filler #Sculptra treatment #sculptra apex #sculptra คืออะไร #sculptra ที่ไหนดี #การทำ sculptra ดีอย่างไร #Sculptra clinic
#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #sculptra #sculptra ราคา #ฉีด sculptra #sculptra filler #Sculptra treatment #sculptra apex #sculptra คืออะไร #sculptra ที่ไหนดี #การทำ sculptra ดีอย่างไร #Sculptra clinic