บทความหมวดหมู่Oligio

Oligio คืออะไร แตกต่างกับโปรแกรมยกกระชับอื่นๆ อย่างไร

บทความเกี่ยวกับ : Oligio , ยกกระชับ

Oligio

Oligio คืออะไร ? เปิดโลกใหม่ของเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า
ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าอยากลดน้ำหนัก หุ่นดี หน้าเล็ก แต่นี่จะจบปีแล้ว ยังรู้สึกว่าหน้ายังเล็กไม่ทันใจเลย ถ้าคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วยังไม่ช่วย ลองเปิดใจใช้เทคโนโลยี Oligio ช่วยให้หน้าเล็กไม่เจ็บตัวไม่ต้องพักฟื้น

Oligio โปรแกรมยกกระชับเทคโนโลยีใหม่อันดับ 1 จากเกาหลี
• ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยี Oligio
• จุดเด่นของ Oligio ในการยกกระชับผิว
• Oligio แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นอย่างไร?
• ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Oligio?
• Oligio เหมาะสำหรับสภาพผิวแบบไหน
• ผู้หญิงหรือผู้ชายเหมาะกับการทำ Oligio มากกว่ากัน
• การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio
• ขั้นตอนการทำ Oligio
• ความรู้สึกขณะทำ Oligio เจ็บมากน้อยแค่ไหน ?
• หลังทำ Oligio กี่วันเห็นผล
• รีวิวจากผู้ใช้จริง ผลลัพธ์ที่ได้จาก Oligio
• การดูแลผิวหลังทำ Oligio อย่างถูกวิธี
• ควรเลือกทำ Oligio ที่ไหนดี
• ทำไมต้องเลือกทำ Oligio ที่ APEX
• Oligio ควรทำคู่กับอะไรให้ได้ผลลัพธ์สุดจึ้ง
• สรุปเทคโนโลยี Oligio

ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยี Oligio
ก่อนที่เราจะใช้เครื่องมืออะไรที่จะมากระทบผิวหน้าของเราควรศึกษาประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีตัวนั้นก่อน ว่ามาจากไหน เทคโนโลยีนั้นทำงานอย่างไร เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าสิ่งๆนั้นเป็นอันตรายต่อผิวหน้าของเราหรือเปล่า

Oligio เป็นเทคโนโลยีใหม่ในวงการยกกระชับผิวที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีการพัฒนามาจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า Radiofrequency (RF) ซึ่งใช้คลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง กระบวนการนี้มีประโยชน์ในการฟื้นฟูและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Oligio ยกกระชับผิว

Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

จุดเริ่มต้นของ RF และ Oligio
เทคโนโลยี RF มีต้นกำเนิดมาก่อนการพัฒนา Oligio โดย RF ได้รับการใช้ในวงการแพทย์และความงามมายาวนาน เนื่องจากความสามารถในการปล่อยพลังงานคลื่นความร้อนลึกลงไปในชั้นผิวหนังโดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก การรักษาด้วย RF ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับการยกกระชับผิว ฟื้นฟูริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

Oligio ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานเทคโนโลยี RF โดย Oligio ใช้คลื่นความถี่วิทยุความถี่สูงที่สามารถส่งพลังงานไปยังชั้นผิวหนังลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่อยู่ในระดับลึกที่สุด และมีความสำคัญต่อการยกกระชับผิว เมื่อพลังงานความร้อนถูกปล่อยออกมา มันจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนวัยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

การพัฒนาเทคโนโลยี RF จนมาเป็น Oligio
หลังจากที่ RF ได้รับการยอมรับในวงกว้าง นักวิจัยได้พัฒนาระบบ Oligio ให้มีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น

เครื่อง Oligio เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ใช้พลังงาน Monopolar RF (Radio Frequency) ในการยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ด้วยการใช้พลังงาน RF แบบ Monopolar ทำให้ Oligio สามารถส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวหนังที่ลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้เกิดการกระชับผิวในบริเวณที่รักษาได้ดียิ่งขึ้น

ด้วยความปลอดภัย ประสิทธิภาพที่สูง และการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด Oligio จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการความงาม

จุดเด่นของ Oligio ในการยกกระชับผิว
Oligio นอกจากจะเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวและสลายไขมันแบบไม่เจ็บแล้ว ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เทคโนโลยีอื่นๆอาจจมีประสิทธิภาพที่ไม่เทียบเท่าอีกด้วย

จุดเด่นของ Oligio
• Pain Less
• คลื่นพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS เช่นเดียวกับ Ulthera System
• ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า แต่ไม่เจ็บ
• ปล่อยพลังงานอย่างสม่ำเสมอ ไม่ร้อน ไม่เจ็บ ไม่มีแผล

• Fast & Effective
• ไม่จำเป็นต้องทายาชาเพราะมีการเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบวัดอุณหภูมิผิวระหว่างทำการรักษาและตรวจแรงต้านผิวก่อนการรักษา
• มีหัวปล่อยพลังงาน Auto Mode / Double Mode / Single Mode
• หัวใหญ่ ปล่อยพลังงานครอบคลุมพื้นที่กว้าง ลดเวลาในการรักษา

• Safe Treatment
• สามารถปรับพลังงานตามสภาพผิว Monitor วัดอุณหภูมิขณะทำ เพื่อควบคุมการปล่อยพลังงาน

• Long-lasting Effect
• ผลการรักษาที่ยาวนาน จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ผิว ทำให้ผลลัพธ์การรักษายาวนานขึ้น

Oligio ยกกระชับผิว

Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

Oligio แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นอย่างไร?
Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นๆ ในหลายด้าน จะขอสรุปให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้
1.การส่งพลังงานที่ตรงจุด
• Oligio ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF) ที่เน้นการส่งพลังงานแบบตรงจุด ทำให้สามารถควบคุมการทำงานในระดับที่แม่นยำ และเน้นผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างชัดเจน

2.การกระตุ้นคอลลาเจน
• Oligio เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ
• Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวด์เพื่อยกกระชับผิวที่ชั้นลึกกว่า Oligio แต่อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าการที่เราเลือกทำ Oligio

3.ความเจ็บปวด
• Oligio จะมีความเจ็บปวดน้อยกว่าการใช้เทคโนโลยีอื่น เช่น Ulthera หรือ Thermage ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้น
• Thermage แม้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก แต่หลายคนอาจจะรู้สึกเจ็บมากในระหว่างการรักษา ถ้าใครที่ยังทนความเจ็บไม่ได้มากแนะนำทำ Oligio

4.เวลาในการรักษา
• Oligio ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ\
• HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ต้องใช้เวลานานกว่าและเห็นผลลัพธ์ช้ากว่า

5.ความเหมาะสมของผิว
• Oligio เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม
• Laser Treatments บางชนิดอาจไม่เหมาะกับผิวที่มีสีเข้มหรือผิวที่ไวต่อการระคายเคือง

6.ราคา
• Oligio ราคามักจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Ulthera หรือ Thermage ที่มีราคาสูงกว่า

Oligio จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องเจ็บมาก เห็นผลเร็ว และราคาประหยัดเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด แต่ถ้าเกิดใครมีงบประมาณระดับหนึ่งและสามารถที่จะทนเจ็บได้ สามารถส่งมาให้คุณหมอเราประเมิณก่อนได้นะคะ เพราะแพทย์ผู้เชียวชาญ เฉพาะทางของเราประเมิณฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถรักษาปัญหาเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

Oligio ยกกระชับผิว

Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Oligio ?
จริงๆ แล้วการทำ Oligio หรือหัตถการความงามอื่นๆ จะต้องดูปัญหาของคนไข้เป็นหลัก เพื่อที่จะเลือกเครื่องมือมาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นหลัก ในการเลือกเครื่องมือ และในการรักษา ซึ่งเราจะแบ่งเป็นสองคำถามย่อยๆ ในการตอบโจทย์ที่ว่า ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Oligio จะเป็น Oligio เหมาะสำหรับสภาพผิวแบบไหน และ อีกคำถามที่มาแรงไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ผู้หญิงหรือผู้ชาย ใครเหมาะกับการทำ Oligio มากกว่ากัน

• Oligio เหมาะสำหรับสภาพผิวแบบไหน
การทำ Oligio นั้นเหมาะกับคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าหย่อนคล้อย หรือผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะกลัวในเรื่องของการพักฟื้นและกลัวเจ็บ จะสามารถแบ่งปัญหาผิวหน้าหลักๆที่ควรมาทำ Oligio ได้ดังนี้

1.ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ทั้งที่มาจากอายุที่มากขึ้นหรือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว Oligio สมารถแก้ไขปัญเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

2.ผู้ที่มีริ้วรอยและเส้นเล็กๆ บนใบหน้า
การทำ Oligio สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและเส้นเล็กๆ ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์บนใบหน้าได้ดี

3.ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัด
Oligio เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการทำการรักษาที่มีความเสี่ยงสูงหรือใช้เวลาในการพักฟื้นยาวนาน เช่น การผ่าตัดยกกระชับผิว

4.ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและเจ็บน้อย
Oligio ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วในการยกกระชับผิวและมีความเจ็บปวดน้อยกว่าการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ

5.Oligio เหมาะกับทุกสภาพผิว
ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม

6.ผู้ที่ต้องการรักษาความยืดหยุ่นของผิว
Oligio เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาหรือเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวให้คงสภาพดีและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

7.ผู้ที่ต้องการลงทุนด้านความงามแบบคุ้มค่า
สำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่มีคุณภาพ ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย Oligio เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครก็ตามที่เริ่มต้นอยากดูแลตัวเองให้ดูดี

• ผู้หญิงหรือผู้ชายเหมาะกับการทำ Oligio มากกว่ากัน
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำ Oligio ได้เหมือนกันหมด แต่การทำ Oligio ในแต่ละคนแต่ละวัยแต่ละเพศ ก็จะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิวหน้าที่อยากจะปรับให้ดีขึ้น แต่ประโยชน์หลักแล้ววของผู้หญิงและของผู้ชายขอแบ่งเป็นข้อมูลกว้างๆดังนี้

ผู้หญิงประโยชน์ที่จะได้รับในการทำหัตถการ Oligio
• ความสวยงามและความมั่นใจ ผู้หญิงมักให้ความสำคัญกับความเรียบเนียนและความยืดหยุ่นของผิว การทำ Oligio จะช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเพิ่มความมั่นใจ
• การป้องกันริ้วรอยในอนาคต ผู้หญิงสามารถใช้ Oligio เป็นการรักษาป้องกันก่อนที่ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ผู้ชายประโยชน์ที่จะได้รับในการทำหัตถการ Oligio
• การดูแลตัวเองและภาพลักษณ์ ผู้ชายเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของผิวพรรณ การทำ Oligio จะช่วยให้ผิวกระชับและลดริ้วรอย โดยไม่ต้องเจ็บมากหรือเสียเวลาพักฟื้น
• การรักษาความเป็นธรรมชาติ ผู้ชายหลายคนชอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การทำ Oligio สามารถช่วยให้ผิวดูดีขึ้นโดยไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะใบหน้าอย่างชัดเจน

สรุป
Oligio เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ละเพศสามารถได้รับประโยชน์จากการทำ Oligio ตามความต้องการและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น ไม่มีเพศใดที่เหมาะมากกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลและปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข

Oligio ยกกระชับผิว

Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio
ใครที่ตัดสินใจต้องการจะทำ Oligo ควรที่จะเตรียมตัวดังนี้ เพื่อที่เวลาไปจะได้สามารถทำได้เลย และไม่รู้สึกประหม่าเวลาไปคลินิก

• ศึกษาข้อมูลคลินิก
ควรศึกษาข้อมูลคลินิกที่จะไปทำ Oligio ให้ละเอียด จะต้องมีความน่าเชื่อถือ มีหมอเฉพาะทางที่เชียวชาญในการดูแลรักษา อีกทั้งต้องการันตีว่า เป็นเครื่องแท้ยาแท้ และมีรีวิวรองรับ APEX Beauty Clinic ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะที่เรามั่นใจในคุณภาพและการันตีรีวิวทุกสื่อ Socail

• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและรับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำ Oligio

• หลีกเลี่ยงแสงแดด
ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ Oligio เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว

• งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA เป็นเวลา 3-5 วันก่อนทำ

• งดการใช้ยาและผลิตภัณฑ์บางชนิด
หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือครีมที่มีสารสเตียรอยด์หรือผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง

• พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเพียงพอจะช่วยให้ผิวพร้อมรับการรักษาและฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนการทำ Oligio
• เก็บผมให้เรียบร้อย
ก่อนเริ่มทำ Oligio ผู้ช่วยแพทย์จะรวบและเก็บผมของคนไข้ให้เรียบร้อยก่อนเริ่มการทำ Oligio

• ทำความสะอาดผิวหน้า
ก่อนเริ่มทำ Oligio ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้าของคนไข้ให้หมดจด โดยลบเครื่องสำอางและความมันออกเพื่อเตรียมผิวก่อนการรักษา

• เริ่มทำ Oligio
• แพทย์ทาเจลเย็นลงบนผิวบริเวณที่ต้องการรักษา
• แพทย์จะใช้เครื่อง Oligio เพื่อส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุเข้าสู่ผิวหน้า โดยจะเคลื่อนหัวเครื่องมือไปทั่วใบหน้าในบริเวณที่ต้องการรักษา
• แพทย์ใช้ Oligio ในการรักษาผิวหน้าตามจำนวน Shot ที่กำหนด

• ระยะเวลาในการทำ
ขั้นตอนการทำ Oligio ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและสภาพผิวของแต่ละบุคคล หลังการรักษาเสร็จสิ้น ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดใบหน้าให้คนไข้อีกครั้ง

ความรู้สึกขณะทำ Oligio เจ็บมากน้อยแค่ไหน ?
1.ความรู้สึกระหว่างการทำ Oligio
ผู้รับบริการจะรู้สึกถึงความร้อนเล็กน้อยที่บริเวณผิว ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของเครื่อง Oligio ที่ส่งพลังงานลงไปกระตุ้นใต้ชั้นผิว

2.ระดับความเจ็บปวดในการทำ Oligio
โดยทั่วไป ความรู้สึกเจ็บจะไม่มาก มักจะรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยในบางจุด แต่ความเจ็บปวดจะไม่รุนแรงถึงขั้นที่ทำให้ทนไม่ได้

3.ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
การทำ Oligio ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาเพราะขณะทำไม่ได้เจ็บมากเท่ากับการทำหัตถการยกกระชับอื่นๆ

4.เจลเย็นช่วยเพิ่มความสบาย
การทาเจลเย็นบนผิวก่อนทำ Oligio จะช่วยลดความร้อนและทำให้ผู้รักษารู้สึกสบายมากขึ้นระหว่างการรักษา

5.ปรับระดับพลังงานได้
หากผู้รักษารู้สึกไม่สบายหรือเจ็บในบางจุด แพทย์สามารถปรับระดับพลังงานของเครื่อง Oligio เพื่อลดความเจ็บปวดตามความเหมาะสมได้

6.การตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน
ความรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายระหว่างการการทำ Oligio จะแตกต่างกันไปตามระดับความไวต่อความรู้สึกของผิวแต่ละคน

หลังทำ Oligio กี่วันเห็นผล
ขอแบ่งผลลัพธ์การทำ Oligio เป็น 4 ข้อ ดังนี้
• ผลลัพธ์เบื้องต้น
หลังทำ Oligio บางคนอาจเริ่มเห็นผลลัพธ์ทันที เช่น ผิวรู้สึกตึงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากผลกระทบจากความร้อนที่ส่งไปกระตุ้นการทำงานของผิว

• การเห็นผลที่ชัดเจน
ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักจะเริ่มปรากฏภายใน 2-3 สัปดาห์หลังทำ เนื่องจากกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวต้องใช้เวลา

• ผลลัพธ์สูงสุด
ผลลัพธ์สูงสุดจะเห็นได้ชัดเจนหลัง 1-3 เดือนเมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นเต็มที่ ทำให้ผิวดูยกกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น

• ผลลัพธ์ระยะยาว
ผลลัพธ์ของ Oligio สามารถอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษา

รีวิวจากผู้ใช้จริง ผลลัพธ์ที่ได้จาก Oligio

Oligio ยกกระชับผิว

ภาพรีวิว Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

Oligio ยกกระชับผิว

ภาพรีวิว Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

การดูแลผิวอย่างถูกวิธีหลังทำ Oligio
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน
หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น การซาวน่า การอาบน้ำอุ่น หรือการออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อลดการระคายเคืองต่อผิว

• ทาครีมบำรุงและมอยเจอร์ไรเซอร์
ควรทาครีมบำรุงและมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสภาพผิวหลังการรักษา

• หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงหลังทำ Oligio อย่างน้อย 1 สัปดาห์ และหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ เพื่อป้องกันการทำลายของแสงแดด ต่อผิวที่อาจทำให้ผิวอ่อนแอลง

• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดแรงๆ เช่น กรด AHA, BHA, หรือวิตามินซี เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง

• ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้น จากภายใน และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนหลังการทำ Oligio

• ไม่ควรขัดผิวหรือทำเลเซอร์เพิ่มเติม
หลังจากทำ Oligio หลีกเลี่ยงการขัดผิว การทำเลเซอร์ หรือการทำทรีตเมนต์ผิวอื่นๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาในการฟื้นตัวอย่างเต็มที่

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และข้อควรระวังจากแพทย์ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์จากการทำ Oligio ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ควรเลือกทำ Oligio ที่ไหนดี
การเลือกสถานที่ทำ Oligio ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตรงความต้องการของเรา และที่สำคัญจะต้องเป็นคลินิกที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ซึ่งพิจารณาได้จากปัจจัยต่อไปนี้
• ความเชี่ยวชาญของแพทย์
เลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการทำ Oligio และมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมืออย่างถูกต้อง การทำ Oligio ต้องการความแม่นยำและความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นผิวหนัง

• ความน่าเชื่อถือของคลินิก
ควรเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือสมาคมแพทย์ผิวหนัง

• เครื่องมือที่ใช้จะต้องได้มาตรฐาน
คลินิกควรใช้เครื่อง Oligio ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา

• รีวิวจากผู้ใช้บริการ
อ่านรีวิวและความคิดเห็น จากผู้ที่เคยเข้ารับบริการ เพื่อดูผลลัพธ์และประสบการณ์ที่ได้จากการทำ Oligio ที่คลินิกนั้น

• การบริการหลังทำ
การดูแลหลังทำ Oligio ก็มีความสำคัญ ควรเลือกคลินิกที่ให้คำแนะนำและการดูแลติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง

ทำไมต้องเลือกทำ Oligio ที่ APEX Beauty Clinic
APEX Beauty ถือว่าเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงในด้านการดูแลผิวพรรณและความงาม รวมถึงบริการ Oligio ด้วย ซึ่ง APEX Beauty มีปัจจัยหลายอย่างที่ ทำให้ APEX เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
• ความเชี่ยวชาญของแพทย์
APEX มีทีมแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูงในการทำทรีตเมนต์ทางผิวหนัง โดยเฉพาะ Oligio ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย

• เครื่องมือที่ทันสมัย
คลินิก APEX ใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัย

• รีวิวจากลูกค้า
APEX ได้รับรีวิวดีจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ ทั้งในด้านคุณภาพของการรักษาและการบริการ

• บริการหลังการรักษา
APEX มีการดูแลหลังทำทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่อง และมีทีมที่สามารถให้คำปรึกษาได้หลังการทำ Oligio

Oligio ควรทำคู่กับอะไรให้ได้ผลลัพธ์สุดจึ้ง
การทำ Oligio เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถทำควบคู่กับวิธีการอื่นๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพและเพิ่มความกระชับของผิวได้ ให้สวยจึ้งแบบลงตัวดูละมุนมากกว่าเดิม
1.ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers) การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความเต่งตึงของผิว เมื่อทำควบคู่กับ Oligio ที่ช่วยกระชับผิว ก็จะช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

2.โบลดริ้วรอย (Boto) ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยขมวดคิ้วหรือรอยย่นบนหน้าผาก ทำควบคู่กับ Oligio จะช่วยกระชับผิวและลดริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวคล้ายกับ Oligio แต่เข้มข้นมากขึ้น การทำ Oligio ก่อนหรือหลัง HIFU จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวให้ดีขึ้น

4.การบำรุงผิวหลังทำทรีตเมนต์ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือกรดไฮยาลูรอนิค เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวหลังการทำ Oligio

การทำควบคู่กับวิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความกระชับและการลดเลือนริ้วรอย

Oligio ยกกระชับผิว

Oligio คืออะไร แตกต่างจากยกกระชับอื่นอย่างไร

สรุปเทคโนโลยี Oligio
Oligio หน้าเรียวกระชับแฟต กรอบหน้าคมชัด ไม่ต้องบินไปทำถึงเกาหลี หรือใช้เวลาในการพักฟื้นที่ยาวนาน แค่มาทำ Oligio จบครบทุกปัญหาหน้าไม่กระชับ Oligio ช่วยให้กรอบหน้าคมชัด V Shape มากขึ้น สลายไขมันใต้คาง แก้ปัญหาสำหรับคนเหนียงเยอะ ลดริ้วรอย และแก้ปัญหามุมปากตก ผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง Oligio ไม่เจ็บระหว่างทำ ใครสนใจอยากสอบถามรารยละเอียด หรืออยากให้คุณหมอเฉพาะทาง ประเมิณว่าปัญหาของเรา ควรแก้ปัญหาอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด

656
Oligio
ลงทะเบียน
ลงทะเบียน
เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น