อันนี้ก็น่ากิน อันนู้นก็น่ากิน ความคิดที่มักเข้ามาในหัวเราในขณะที่กำลังเดินช้อปปิ้ง เจอทั้งอาหาร ทั้งขนมแบบนี้ หากไม่ควบคุมสติให้ดี มีหวังได้ความอ้วนกลับบ้านไปแน่ ๆ แต่เราเข้าใจค่ะว่าการหักหามใจมันยากมาก ๆ เราจึงต้องมีเคล็ดลับ การเดินช้อปปิ้งใหห่างไกลความอ้วนมาฝากกันค่ะ
- เลิกช้อปปิ้งออนไลน์
แม้ว่าการช้อปปิ้งออนไลน์จะสะดวกมากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้ไหมคะว่าการชอปปิ้งออนไลน์ จะสร้างนิสัยที่ทำให้เราอ้วนขึ้นได้ โดยปกติแล้วเราจะการนั่งหรือนอนเลือกสินค้าออนไลน์ จึงทำให้เราไม่ได้ขยับตัวเพื่อเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ หากใครที่กินไปด้วยช้อปปิ้งออนไลน์ไปด้วยเพลิน ๆ ทำให้มีโอกาสอ้วนขึ้นได้
- เลือกห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ
การอยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่จะทำให้เราใช้เวลาในการเดินอยู่ในห้างมากขึ้น เมื่อมีการเดินมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญ ช่วยให้น้ำหนักลดได้ แต่ไม่ใช่เดินจนเหนื่อยแล้วหิวแวะกินข้าวในจำนวนมาก หรือกินขนม น้ำอัดลม การเดินของเราก็จะไม่ได้ผลนะคะ ดังนั้น จึงควรกินอาหารกินอาหารเน้นผักและ โปรตีนที่ให้พลังงานเพียงพอก่อนออกจากบ้าน
- สวมรองเท้าที่ใส่สบาย
การเดินช้อปปิ้งที่ต้องใช้เวลานาน ๆ หากมีการใส่ส้นสูงมาก ๆ หรือรองเท้าคู่ใหม่ที่ใส่แล้วกัดเท้า ไม่สบายเท้า จะทำให้เดินได้ไม่นาน เพราะจะทำให้ปวดเมื่อยขาและเท้า หรือเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ เมื่อเดินได้สักครู่แล้วหยุดพักก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานได้น้อย
- มีเป้าหมายในการซื้อ
จดรายการที่ต้องการซื้อว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้โฟกัสกับสิ่งที่ต้องการซื้อ ก่อนที่จะสนใจของกินหรือขนม โดยการเดินช้อปปิ้งแบบไม่มีจุดหมาย ไม่ได้คิดว่าจะมาซื้ออะไร แต่มีหลาย ๆ ครั้งที่มักได้ของกลับไปมากกว่าการตั้งใจมาซื้อ นอกจากนี้ หารจดรายการที่ต้องการซื้อมาก่อนช่วยให้เราเดินไปซื้อของที่มีน้ำหนักเบาก่อนของที่หนัก ทำให้เดินช้อปปิ้งได้นานขึ้น
- เน้นซื้ออาหารที่มีประโยชน์
การไปซื้อของกินที่ห้างสรรพสินค้านั้น มักจะมีของที่ทำให้อ้วนล่อตาล่อใจจำนวนมาก ดังนั้น เราควรจะโฟกัสที่อาหารที่มีประโยชน์อย่างผักและผลไม้ก่อน แต่หากอยากกินขนบขบเคี้ยวให้เลือกที่มีส่วนช่วยในการลดน้หนัก เช่น ดาร์กช็อกโกแลต เมล็ดอัลมอนด์ ถั่วและธัญพืชอบกรอบ แทนจะดีกว่า
- อ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง
อาหารที่ควรลดปริมาณลงคืออาหารที่ให้พลังงานสูงแต่ไม่มีประโยชน์ อาหารที่มีรสเค็มจัดที่จะทำให้ร่างกายดูดน้ำเข้าเซลล์เป็นจำนวนมากแล้วทำให้เราดูอ้วน ดูบวมขึ้นได้ หรืออาหารที่มีรสหวานจัดซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงเมื่อร่างกายเผาผลาญน้ำตาลเหล่านั้นได้หมด น้ำตาลนั้นก็จะเปลี่ยนมาเป็นไขมันเข้าไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน
